พวกคุณหลับกันหมดหรือยัง?
“เจตต์ นี่คุณกล้า!”
นรมนไม่สามารถแสร้งทำเป็นสงบได้อีกต่อไป
“ลองดูได้นะว่าผมกล้าหรือเปล่า”
เจตต์กล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ทว่าดวงตากลับทอประกายจริงจัง
เมื่อนึกถึงที่เจตต์เกือบจะจูบเธอข้างนอกนั้น นรมนก็กลัว
เมื่อเห็นว่านรมนประพฤติตัวดี เจตต์จึงหันไปพูดกับโพนี่ “นิ่งทำไม? รีบให้น้ำเกลือเธอเดี๋ยวนี้ คุณจะรอให้เธอวิ่งออกไปอีกหรือ แล้วล้มบนถนนค่อยเข้าไปช่วย?”
น้ำเสียงของเจตต์ไม่ค่อยดีนัก แต่โพนี่ก็ไม่ได้สนใจ เขาก็เป็นคนแบบนี้ ปฏิบัติกับใครก็แบบนี้ คงจะยกเว้นเพียง
นรมนเท่านั้นที่ถูกปฏิบัติดีกว่าคนอื่น
โพนี่ถอนหายใจ ก่อนพูดอย่างช่วยไม่ได้ “คุณนายบุริศร์ ช่วยร่วมมือกันหน่อยได้ไหม?”
“ไม่ใช่นะโพนี่ ฉันมีเรื่องต้องทำจริงๆ กิจจาส่งตำแหน่งที่อยู่มาให้ฉัน ฉันต้องไปช่วยพวกเขา ”
“คุณช่วยตัวเองให้รอดก่อน”
เจตต์พูดขึ้นมาโดยตรง นรมนไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไรดี
ก่อนที่นรมนจะทันได้ทำอะไร เจตต์ก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอไป ก่อนจะเปิด WeChat ของเธอขึ้นมา
“เจตต์ โทรศัพท์มือถือเป็นของส่วนตัว คุณช่วยให้ความเคารพฉันหน่อยได้ไหม”
นรมนไม่รู้จะทำอย่างไรกับเจตต์แล้วจริงๆ
ชายคนนี้ถ้าได้พาลขึ้นมาแล้วไม่มีใครที่จะหยุดเขาได้
แต่เจตต์กลับพูดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจ “ส่วนตัว? ต้องการต่อหน้าผม? เฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่ว่าคุณอยากไปช่วยกิจจากับกมล? ที่อยู่ผมรับรู้แล้ว ผมจะไป คุณนะ ถ้ายังให้น้ำเกลือไม่เสร็จแล้วจะออกไปจากบ้านรัตติกรวรกุล ลองดูสิว่าผมจะกล้าจูบคุณต่อหน้าคนอื่นหรือเปล่า ”
“คุณมันคนพาล!”
หลังจากถูกเจตต์คุกคามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดนรมนก็เริ่มมีอารมณ์โมโห
แต่เจตต์ไม่สน “ผมเป็นคนพาลผมภูมิใจไหม? ภาคภูมิใจในตัวเองไหม?”
“คุณ!”
นรมนโกรธจนเลือดขึ้นหน้า แต่เจตต์กลับยักไหล่เดินออกจากห้องไป
โพนี่ยิ้มพลางพูด “เธอเป็นแบบนี้ มีเพียงแค่คนพาลอย่างเจตต์ที่จะสามารถรักษาเธอได้”
“กระทั่งเธอก็ยังเอะอะไปตามเขาด้วย? เธอก็รู้ ว่าฉันกับเจตต์… … ”
“ฉันรู้ แต่แค่บางครั้งเขาก็สุดยอดจริงๆนะ เช่นตอนนี้ ไม่ใช่เหรอ?”
คำพูดของโพนี่ทำให้นรมนเงียบลง
เธอไม่ต้องการเป็นหนี้เจตต์ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นหนี้มากขึ้นเรื่อยๆ อารมณ์ความรู้สึกของคนจะจ่ายคืนทีหลังอย่างไรไหว
เมื่อนรมนถูกบังคับให้รักษาตัวเอง กมลที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็กำลังแสดงฉากที่ยอดเยี่ยมอยู่
กิจจาและกมลถูกขังอยู่ในห้องเดียวกัน ข้างนอกมีบอดี้การ์ดร่างกำยำเฝ้าอยู่ แถมโทรศัพท์ของพวกเขายังถูกเก็บไปด้วย
กมลนั่งอยู่บนเตียง พูดอย่างกลัดกลุ้ม “พี่กิจจา เมื่อไหร่พวกเราจะได้เจอหม่ามี้? คนพวกนั้นบอกไม่ใช่เหรอว่าคุณลุงเป็นคนบอกว่าให้พวกเขามารับเราไปเจอหม่ามี้? บอกว่าหม่ามี้จะเลี้ยงสเต็กพวกเรา? ตอนนี้บ่ายโมงแล้วนะ ทำไมพวกเราต้องมาอยู่ที่นี่ละ?”
กิจจารู้สึกใจคอเหี่ยวแห้ง
กมลเป็นนักกิน เธอยังคงคิดถึงการกินสเต็กอยู่จนถึงตอนนี้
“กมล พวกเราถูกกักบริเวณ”
กมลจำเป็นต้องบอกเรื่องเลวร้ายนี้
“กักบริเวณคืออะไร? เหมือนตอนนี้ที่ขังพวกเราไว้ไม่ให้ออกไปกินสเต็กกับหม่ามี้เหรอคะ?”
กมลเบะปาก เห็นได้ชัดว่าไม่มีความสุขเพราะไม่ได้กิน
กิจจาถอนหายใจ “พวกเราไม่พูดถึงสเต็กกันดีไหม?”
“แต่หนูหิวมากนี่!”
กมลลูบท้องด้วยท่าทางน้อยใจมาก
กิจจามองท่าทางของเธอ รู้ว่ากมลหลังจากผ่าตัดเสร็จเธอกินเยอะมาตลอด เมื่อก่อนเขาไม่รู้ว่าทำไม ต่อมาค่อยรู้ว่าร่างกายขาดอะไรบางอย่างมาเป็นเวลานาน ตอนนี้จึงมีปฏิกิริยาแบบนี้
ในขณะที่กมลเป็นทุกข์อยู่ กิจจาก็หยิบช็อกแลตบาร์หนึ่งออกมาจากกระเป๋า
“เอ้า เอานี่ไปกินก่อน”
“แต่หนูอยากกินสเต็ก”
กมลรับช็อคโกแลต แต่ก็ยังพูดด้วยความน้อยใจ
กิจจาพูดเสียงเบา “พี่ส่งที่อยู่ให้หม่ามี้แล้ว คาดว่าน่าจะหาพวกเราเจอนะ หม่ามี้มาถึงเมื่อไหร่พวกเราค่อยไปกินสเต็กกันนะ?”
กมลกัดปากล่าง “พี่ส่งข้อความหาหม่ามี้ไปหลายชั่วโมงแล้วนี่ ถ้าจะมาหม่ามี้ก็ต้องมานานแล้ว พี่กิจจา หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรกับหม่ามี้ ทำไมคุณลุงถึงเอาพวกเรามาขังไว้ที่นี่”
เนื่องจากปัญหาของกมล แววตากิจจามีความเจ็บปวดเล็กน้อย
ใช่ ทำไมพ่อถึงหลอกพวกเขามาที่นี่?
กิจจาไม่อยากจะคิดถึงตรินท์ในเรื่องไม่ดี แม้ว่าตรินท์จะเคยทุบตีเขา เขาก็รู้ว่าทำเพื่อเขา แต่ทำไมตอนนี้ถึงนำพวกเขามากักบริเวณ?
และกมลพูดถูก ถ้าหม่ามี้มาที่นี่ได้เธอคงจะมานานแล้ว จะเจอเรื่องอะไรหรือเปล่านะ?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ กิจจารู้สึกร้อนใจและกังวลเล็กน้อย
ตอนนี้ไม่รู้ว่ากานต์อยู่ที่ไหน คุณลุงคงออกไปหาแล้ว ถ้าหากตอนนี้หม่ามี้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก กานต์และกมลจะเสียใจมากแค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่มีทางรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับหม่ามี้ด้วย
กิจจานิ่งคิดสักพัก ก่อนพูด “กมล เดี๋ยวเธอทำเป็นแกล้งปวดท้อง ให้คนข้างนอกเข้ามา พี่คิดแผนการจัดการพวกเขาแล้ว พวกเราหาโอกาสวิ่งออกไปหาหม่ามี้ดีไหม?”
“ทำไมหนูต้องแกล้งปวดท้อง? หนูไม่ได้ปวดนี่”
กมลถามอย่างไร้เดียงสาขณะกินช็อกโกแลต
กิจจาอธิบายอย่างอดทน “มันเป็นกลยุทธ์ เธอแค่แกล้งทำเป็นปวดท้อง ร้องด้วยความเจ็บปวด สักพักพวกเขาจะเข้ามา เข้าใจไหม?”
“แต่คุณครูบอกว่าเด็กดีโกหกไม่ได้”
“กมล เธอพูดไม่ใช่เหรอว่าเป็นคนต้องซื่อสัตย์ ห้ามโกหก? พูดไม่ใช่เหรอว่าไม่ได้ปวดท้องแล้ว”
หลังจากได้ยินคำ กมลก็มองบนให้กิจจา
“นี่คือกลยุทธ์! ไม่ได้เรียกโกหก เข้าใจไหม?”
อารมณ์ของกิจจาสับสนอลหม่านทันที
ใครกันเมื่อกี้ที่คุยโวโอ้อวด พูดอย่างน่าเชื่อถือว่าเป็นคนต้องซื่อสัตย์?
แถมยังไม่เข้าใจอะไรที่เรียกว่ากลยุทธ์ ไม่อยากจะจะคุยปรึกษาเรื่องแผนการกับเขา?
เด็กคนนี้เล่นเขาเสียแล้ว!
กมลที่เห็นกิจจามองตัวเองมาอย่างคนโง่งม อดไม่ได้ที่จะเตะเขา ก่อนพูด “พี่รีบไปเตรียมตัวสิ ถ้าหากพวกเขาเข้ามาแบบโหดร้ายมาก จะทำยังไง? ปกป้องหนูได้เหรอ?”
กิจจาอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าพลางยิ้มอย่างขมขื่น
กมลคนนี้ นี่ช่างมีจิตใจเสียจริง
“เก่งมาก แสดงต่อไป พี่เตรียมพร้อมแล้ว”
กิจจาหันตัวกลับไปหยิบสิ่งของที่มีประโยชน์และซ่อนไว้ในแขนเสื้อของเขาเพื่อป้องกันการโจมตีอย่างกะทันหัน
พวกเขาสองคนเตรียมตัวมานาน ตะโกนอยู่นาน แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวใดด้านนอก
เสียงของกมลแหบลง ในที่สุดก็ก้าวขาไปเตะประตู
“เปิดประตู! หลับกันหมดแล้วหรือไง? อยากกินสเต็ก! ปล่อยพวกเราออกไป! จะบอกอะไรให้นะ พวกแกกำลังทำร้ายเด็ก ฉันสามารถเรียกตำรวจมาจับได้นะ! แถมพี่กิจจาก็พูดไว้แล้ว พวกแกเป็นลูกน้องของคุณลุง ถ้าปล่อยให้เราสองคนหิวตาย คุณลุงไม่ปล่อยพวกแกไปแน่”
กิจจาได้ยินกมลพูดแบบนี้ มองท่าทางหยาบคายของเธออีกครั้งด้วยความแปลกใจ
เขาคิดมาตลอดว่ากมลเป็นเด็กนิสัยดี มากสุดที่คิดก็คือเป็นนักชิม ปกติไม่เคยเห็นเธอใช้อารมณ์แบบนี้ ไม่คิดว่ากมลจะมีนิสัยเผ็ดร้อยอยู่หน่อยๆ
ความรู้สึกอยากกินและหิว ทำให้เธอไม่สนใจอะไร
กิจจารู้สึกประหลาดใจ
การกระทำของกมลไม่ได้ดึงดูดความสนใจใดจากข้างนอกเลย เธอนั่งลงบนพื้นด้วยความท้อแท้ “ทำยังไง? หนูจะหิวตายจริงๆแล้วนะ เมื่อตะกี้ก็ตะโกนทำให้เสียพลังงานไปอีก พลังจากช็อกโกแลตบาร์นั้นระเหยไปหมดแล้ว”
เมื่อมองไปที่ท่าทางเศร้าๆ ของเธอ กิจจาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกทุกข์ใจเล็กน้อย
“ลุกขึ้นก่อน บนพื้นมันเย็น อย่าไปนั่ง ให้พี่หาวิธี วางใจเถอะนะ พี่ทำให้เธอได้กินอะไรอร่อยๆแน่นอน”
กมลเดิมทีเป็นเจ้าหญิงตัวน้อย ตั้งแต่เด็กก็อยู่แต่ในโรงพยาบาลไม่ได้ติดต่อกับโลกภายนอก กิจจารู้สึกว่าเขาไม่ควรบังคับให้กมลต้องมาร่วมแผนการกับเขาด้วยเลยจริงๆ
หลังจากบอกว่าเขาจะปกป้องกมล เขาก็รับปากกับกานต์ว่าจะดูแลกมล ตอนนี้เมื่อกมลมีท่าทีหิวแบบนี้ กิจจารู้สึกว่าเขาล้มเหลว
“พี่กิจจา หนูหิวมาก”
กมลกำลังจะร้องไห้ น้ำตาเม็ดใสที่ราวกับคริสตัลกลิ้งในดวงตา มองก็ยิ่งทำให้ใจของกิจจาเจ็บปวด
“รอตรงนี้แหละ พี่จะไปหาอะไรมาให้กิน”
กิจจายืนขึ้นหลังจากพูดจบ
ทันใดประตูห้องก็ถูกเปิดออก ฉับพลันดวงตาของกมลก็มีแสงประกาย ทั้งร่างกระโดดขึ้นมาจากพื้นทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...