บทที่ 577 เธอจะเป็นหรือตายก็ไม่เกี่ยวกับฉัน
ตราบใดที่มีความหวังริบหรี่เขาจะไม่ยอมแพ้
บุริศร์ได้ยินเพียงครึ่งแรกของประโยคและไม่สนใจครึ่งหลัง
โพนี่กล่าวอย่างหดหู่ "คุณชายบุริศร์ ที่ฉันพูดคือถ้าหาก ศิษย์น้องของพ่อฉันทักษะทางการแพทย์ดีมาก แต่โชคไม่ดีที่ฉันได้ยินมาว่าเธอเสียชีวิตจากไฟไหม้เมื่อไม่กี่ปีก่อน "
“คุณว่าไงนะ”
ความหวังเดียวของบุริศร์พึ่งจะจุดขึ้นและมันก็ดับวูบลงด้วยคำพูดของโพนี่
“ขอโทษด้วย คุณชายบุริศร์”
มือของบุริศร์กำโทรศัพท์จนเกือบจะผิดรูป เขามองไปที่ตำแหน่งห้องผู้ป่วยของนรมนและพูดด้วยเสียงต่ำ "ฉันไปนรกและลากเธอกลับมาได้ไหม"
“อะไรนะ”
โพนี่คิดว่าบุริศร์ถูกกระตุ้นจนเพ้อเล็กน้อย
คนตายไปแล้วจะโผล่ออกมาจากพื้นดินเพื่อรักษานรมนได้อย่างไร?
“คุณชายบุริศร์ คุณยังเสียใจนะ
“เธอยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะเศร้าอะไร แม้ว่าเธอจะหลับ แต่เธอก็ยังมีชีวิตอยู่”
หลังจากบุริศร์พูดจบเขาก็วางสายโทรศัพท์เขาพบว่ามือของเขาสั่นและแม้แต่ร่างกายของเขาก็ยังสั่น
เขากลัว!
กลัวจริงๆ!
แม้จะถูกคนในคุกใต้ดินสะกดจิตเขาก็ไม่เคยกลัว แม้จะถูกวางยาและกลายเป็นคนติดยาเขาก็ไม่กลัว เพราะเขารู้ว่ายังมีนรมน รอเขาอยู่ที่บ้าน
วันนี้เขากลัวแล้ว
เขารู้สึกว่าเขาจะไม่มีบ้านอีกต่อไป
ครอบครัวที่ไม่มีบ้านยังเรียกว่าบ้านอยู่ไหม?
บุริศร์ค่อยๆเดินกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยทีละก้าว
นรมนยังคงหลับอยู่
เหมือนกับที่พูดยมราช นรมนหลับไปด้วยความเต็มใจ
ใช่สิ
เธอแค่เหนื่อยเกินเลยหลับไป
บุริศร์นั่งข้างเธอและกุมมือเธอไว้
มือของเธอเย็นลงเล็กน้อยเช่นเดียวกับตอนที่เธอสุขภาพไม่ดี เพียงแค่อุณหภูมิเพียงเล็กน้อยก็ทำให้บุริศร์ยิ่งกลัวมากขึ้น
ความกลัวที่จะสูญเสียนรมนไปตอนไหนก็ได้ทำให้คำพูดของชายคนหนึ่งพรั่งพรูออกมา
“นรมน คุณเสียใจไหม ถ้ามีโอกาสได้เลือกอีกครั้งคุณจะยังเลือกที่จะตกหลุมรักผมไหม คุณยังอยากเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลโตเล็กอยู่ไหม ยัยทึ่มเอ้ย ทำไมคุณถึงซื่อบื้ออย่างนี้นะ บนโลกนี้มีผู้ชายดีๆตั้งมากมาย ทำไมคุณถึงโชคร้ายมาตกหลุมรักผมด้วย "
บุริศร์แนบนิ้วของเธอกับใบหน้าตัวเองและลูบมัน อุณหภูมิที่เย็นทำให้เขาไม่สบายใจมาก
“คุณหนาวมากเลยใช่ไหม ผมจะให้ไออุ่นกับมือคุณเอง”
มือทั้งสองข้างของเขากุมมือนรมนไว้และถูไปตามมือเบาๆ แม้แต่พ่นลมหายใจตลอดเวลาราวกับว่าสิ่งนี้จะทำให้ นรมนอบอุ่นมากเกินไป
แต่นรมนนอนหลับบนเตียงเป็นผักอย่างไรก็จะไม่ตื่นแน่นอน ถ้าไม่ใช่เพราะหัวใจของเธอยังเต้นอยู่ บุริศร์ก็รู้สึกว่าเธอตายไปแล้วจริงๆ
ทำยังไงนะ
ต้องมองนรมนตายจากไปอยู่ที่นี่งั้นเหรอ
ตัวเขาไม่มีทางอื่นเลยสักนิดรึไง
เขาเคยมีอำนาจทุกอย่างเรียกลมและฝนได้ แต่ตอนนี้เขาต้องเห็นภรรยาของเขาตายในเมืองเล็ก ๆ ที่ห่างไกลเช่นนี้?
บุริศร์ถามตัวเองไม่หยุด
ต้องมีทางแน่นอน!
มีหนทางเสมอใช่ไหม
ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงยมราช
ในเมื่อเธอสามารถเห็นปัญหาของนรมน หมายความว่าเธอสามารถช่วยนรมนได้ใช่ไหม
คิดถึงตรงนี้บุริศร์ก็รีบพูดขึ้นว่า “นรมน คุณจะไม่จากผมไปใช่มั้ย คุณแยกจากผมไม่ได้ คุณเคยพูดว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับผม คุณสัญญาแล้ว แล้วคุณคิดถึงลูกของเราสิ ถ้ากานต์รู้ว่าคุณไม่อยู่แล้ว เขาจะเป็นยังไง กว่ากมลจะแข็งแรงได้ไม่ง่ายเลย ถ้าไม่เห็นคุณจะเป็นยังไง ผมเองถ้าไม่มีคุณจะทำยังไง ดังนั้นคุณจะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม ใช่สิ คุณจะไม่ยอมแพ้ ผมจะต้องคิดวิธีช่วยคุณได้ ก่อนหน้านี้เป็นคุณที่อยู่กับผม เบียดเบียนชีวิตตัวเองเพื่อผมเพื่อตระกูลโตเล็กมากเกินไป ชีวิตที่เหลือให้ผมเป็นคนดูแลคุณเเทนดีไหม คุณต้องให้โอกาสนี้กับผมนะ ต้องให้นะ!”
บุริศร์มองตรงไปที่นรมนโดยหวังว่าจะได้เห็นอะไรบางอย่างบนใบหน้าของเธอ แต่ก็น่าเสียดายที่นรมนยังคงนอนหลับอย่างสงบ
เขาผิดหวังเล็กน้อยและกระซิบว่า “คุณรอผมนะ ผมจะไปขอให้ยมราชรักษาคุณ ในเมื่อผู้หญิงคนนี้สามารถเห็นได้ว่าปัญหาของคุณอยู่ที่ไหน ก็ต้องมีวิธีที่จะรักษาคุณแน่ ไม่ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ ผมต้องช่วยคุณให้ได้ คุณรอผมนะ "
พูดจบบุริศร์วางมือของนรมนไว้ใต้ผ้านวมแล้วคลุมไว้จากนั้นก็ลุกขึ้นและเดินออกไป
เนื่องจากหมัดของบุริศร์ทำให้ ยมราชมีเลือดออกในจมูกจึงต้องกลับไปที่ห้องทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อห้ามเลือด
เธอไม่ได้ถูกตีแบบนี้มานานแล้ว
ยังจำได้ว่าคนที่เอาชนะเธอครั้งสุดท้ายไม่อยู่แล้ว ถ้าไม่ได้เห็นนรมนใกล้ตาย เธอจะต้องทำให้บุริศร์ต้องจ่ายอย่างสาสม
ยมราชจัดการกับจมูกของเขาด้วยความโกรธ
เมื่อเธอกำลังจะจัดการกับมันและต้องการที่จะพักหายใจ บุริศร์ก็เตะประตูออฟฟิศให้เปิดออกและเดินเข้ามา
“จะช่วยเธอได้ยังไง ขอแค่เธอพูดฉันจะให้เธอ ถึงเธอจะต้องการดวงจันทร์บนท้องฟ้า ฉันก็จะหาทางไปคว้าเอามาให้เธอ"
ตอนนี้บุริศร์เย็นชาขึ้นมาแล้ว
บุริศร์ที่ไร้เหตุผลไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ได้หายไป และแทนที่ด้วยความสงบซึ่งกลับทำให้คนรู้สึกเย็นเยือก
ยมราชขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พวกผู้ชายก็กลับกลอกตลบตะแลงกันหมด ถ้าฉันต้องการดวงจันทร์บนท้องฟ้าจริง นายจะเอามาให้ฉันได้ยังไง"
ยมราชทำให้บุริศร์ลำบากใจ
บุริศร์กล่าวอย่างเย็นชา "ฉันจะจัดยานอวกาศเพื่อให้เธอขึ้นไปดวงจันทร์ เธอต้องการดวงจันทร์ เธอก็จะเห็นมันได้ทุกวัน บางทีเธออาจเห็นฉางเอ๋อในพระราชวังกวงฮั่น
“เงื่อนไข! พูดเงื่อนไขของเธอมา ต้องทำยังไงถึงจะช่วยเธอได้”
บุริศร์ตกใจที่ยมราชสามารถช่วยนรมนได้
นี่คือการยึดติดอย่างหนึ่งละเป็นการเดิมพันเช่นกัน อย่างไรตอนนี้หาหมอคนไหนมาก็ไม่ทันแล้ว และยมราชก็เป็นหมอคนหนึ่งที่ใช้การได้
ยมราชเห็นบุริศร์เช่นนี้จึงกลอกตาและพูดว่า "ฉันไม่ได้โกหกนาย ฉันไม่สามารถช่วยเธอได้จริงๆ”
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็รอให้ภรรยาของฉันถูกฝังที่โรงพยาบาลนี้ได้เลย”
บุริศร์ปล่อยยมราช
ขณะนั้นยมราชก็หดหู่ใจ
“ทำไมนายถึงไม่มีเหตุผลกว่าฉันอีก”
“แบบนี้ละกัน ขอแค่เธอมีวิธีช่วยเธอได้ ฉันสัญญาว่าจะให้เธอได้เจอลูกชายของฉัน"
ทันใดนั้นคำพูดของบุริศร์ทำให้ ยมราชหยุดชะงัก
“นายพูดจริงเหรอ”
“จริง”
ภายในใจของบุริศร์ตื่นเต้นขึ้นมา
ยมราชหมายถึงสามารถช่วยนรมนได้งั้นเหรอ
เขาจึงคว้าโอกาสนั้นไว้ทันที ในใจก็มีความสุข
ยมราชพูดด้วยเสียงต่ำ "ฉันจะรู้ได้ยังไงว่านายจะไม่หลอกฉันเหมือนภรรยาของนาย เมื่อฉันช่วยนายแล้ว นายก็จะเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ ถึงตอนนั้นฉันก็จะคว้าน้ำเหลว ไม่ได้อะไรเลย ฉันไม่โง่ทำเรื่องแบบนี้หรอก”
บุริศร์ไม่พูดมากความ ฉันหยิบโทรศัพท์ของนรมนขึ้นมาและวิดีโอคอลหากานต์
เมื่อเชื่อมต่อแล้วกานต์ก็เห็นบุริศร์จึงยิ้มอย่างมีความสุข
“คุณบุริศร์คุณไม่เป็นอะไรแล้ว! ดีจังเลย!หม่ามี้ไม่ได้หลอกผมจริงด้วย เธอบอกว่าจะพาคุณกลับมา ไม่คิดเลยว่าจะนั่งอยู่ตรงนั้นจริงๆ หม่ามี้เจ๋งที่สุดเลย! "
เมื่อบุริศร์เห็นกานต์และได้ยินสิ่งที่เขาพูด จึงนึกถึงนรมนที่นอนเป็นผักอยู่บนเตียงผู้ป่วย หัวใจของเขาก็สับสนและไม่สบายใจ
“ไอ้หนู จะให้เจอคนคนหนึ่ง”
“ใครน่ะ หม่ามี้เหรอ”
กานต์ถามอย่างดีใจ
บุริศร์หันโทรศัพท์ไปทางยมราช และพูดอย่างเย็นชาว่า "นี่คือลูกชายของฉัน เธอดูให้ชัดๆสิ”
ดูเหมือนเขาจะเปลี่ยนไปในช่วงเวลาที่ยมราชได้เห็นกานต์
หางตาของเธอมีน้ำตา แววตาก็อ่อนลงมาก เธออยากจะเอื้อมมือออกไปสัมผัส แต่บุริศร์ก็ได้ตัดสายและเก็บโทรศัพท์ไป
“ทีนี้เธอจะช่วยภรรยาฉันได้รึยัง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...