บทที่ 601 คุณจงใจ
พฤกษ์รู้สึกกังวลอยู่บ้าง จึงถามว่า “ประธานบุริศร์ ท่านดูนี่สิครับ……”
“ให้ป้องมาช่วยดูเธอ”
บุริศร์ใจไม่แข็งพอ แต่นึกถึงที่เธอร่วมมือกับคนนอกเพื่อลักพาตัวนรมน เขาก็รู้สึกเป็นทุกข์และหดหู่ใจอย่างพูดออกมาไม่ได้
พ่อบ้านถูกคนลากไปที่ทะเลโดยตรง ไม่มีใครกล้าร้องขอความเมตตา
บุริศร์ตามสปีดโบ๊ทมา มองเห็นพ่อบ้านกำลังพยายามดิ้นรนอยู่ในทะเล ผุดขึ้นผุดลง ในแววตาไม่มีความสั่นไหวแม้แต่น้อย
ตอนนี้ใครทำอะไรนรมน เขาต้องการชีวิตคนคนนั้น
จิตสังหารนี้ทำให้คนรอบข้างแทบหยุดหายใจ บรรยากาศหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
ในมือของบุริศร์มียาเม็ดที่ได้รับมาจากป้อง เขาไม่พูดอะไร โยนเข้าปากแล้วกลืนลงไปทันที
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รับรู้อาการปวดเส้นประสาทของตนเอง และไม่ใช่ว่าจะไม่รับรู้ความทรมานนั้นเมื่อตนเองเจ็บปวดขึ้นมา แต่ในตอนนี้เขาไม่สามารถสนใจมันได้
ร่างกายของนรมนอ่อนแอมากเกินไป เธอตกอยู่ในมือของตรินท์ แล้วจะหนีออกมาได้อย่างไร?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรินท์ที่เป็นคนแบบนั้น ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
เสียงของพ่อบ้านเบาลงเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ถูกลมและคลื่นทะเลปิดกั้นขวางเอาไว้
มีคนมารายงาน บอกว่าพ่อบ้านเริ่มจะไม่ไหวแล้ว ถามบุริศร์ว่าจะไม่สนใจเขาจริงใช่ไหม ในเมื่อเป็นชีวิตหนึ่ง และพวกเขาไม่มีใครที่กล้าพอจะฆ่าคนได้
บุริศร์มองพ่อบ้านดิ้นเฮือกสุดท้าย และกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชาว่า “งมขึ้นมาก่อน รอเขาฟื้นขึ้นค่อยลงมือต่อ”
ประโยคนี้พูดออกมาอย่างเฉยเมย ไม่ช้าไม่เร็ว แต่กลับทำให้คนโดยรอบรู้สึกเย็นยะเยือก
การทุรนทุรายครั้งเดียวยังไม่เพียงพอ ยังต้องทุรนทุรายอย่างทุกข์ทรมานไม่หยุดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นี่คือการทรมานจิตใจ ถ้าพวกเขาเป็นพ่อบ้าน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าตอนนี้จะทำให้บุริศร์มีความสุขใจ
บุริศร์ไม่มองพ่อบ้านอีก แต่หลับตาพักผ่อนร่างกาย
อาการปวดเส้นประสาทของเขาเริ่มอีกแล้ว
ถึงแม้จะกินยา ถึงแม้จะพยายามระงับอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดจนทนไม่ไหว นอกจากนี้ยังเจ็บมากขึ้นในทุกครั้ง
สองมือของเขากำแน่นกลายเป็นหมัด กำแน่น จนเส้นเลือดดำบูดขึ้นมา เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดออกมาเต็มหน้าผาก แต่เขาไม่ส่งเสียงร้องสักแอะเดียว
เพียงแค่นั่งตรงดาดฟ้าอยู่แบบนั้น ทำให้คนเข้าใจว่าเขากำลังครุ่นคิด กำลังงีบหลับ
บุริศร์รู้สึกแค่เพียงปวดหัวแทบจะระเบิด ความปรารถนาที่จะฆ่าคนยิ่งรุนแรงขึ้น
เขาลุกขึ้น ดวงตาเป็นสีแดง
ในเวลานี้ไม่มีใครกล้าก้าวขึ้นไปพูดอะไรกับบุริศร์ ส่วนในใจของบุริศร์ก็มีความเดือดดาลและความบ้าคลั่งอย่างไม่อาจอธิบายได้
นึกถึงนรมนที่ตอนนี้ไม่รู้จะเป็นอย่างไรบ้าง เขายิ่งอยากฆ่าคน
บุริศร์รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นกับจิตใจของเขา เขาจำเป็นต้องหาเวลาสอบถามป้องสักหน่อย แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้
สปีดโบ๊ทมาถึงโซนขอบ เมืองAอย่างรวดเร็ว บุริศร์และพวกเขาจึงลงเรือกันที่นี่
บุริศร์มองไปรอบๆ ที่นี่ใกล้กับ เมืองAมาก เขากลับคิดไม่ถึงว่าที่นี่จะสามารถทะลุไปเมืองชลธีได้
“จดจำเส้นทางนี้ไว้ บอกพฤกษ์ว่า ให้ซื้อสิทธิ์ในการใช้พื้นที่ทะเลนี้ให้แก่ฉัน ไม่ว่าจะต้องใช้เงินสักเท่าไหร่ก็ตาม ”
“ครับ”
บุริศร์พูดจบก็ขึ้นรถ มุ่งหน้าสู่ เมืองA
มาถึง เมืองAอีกครั้ง ความรู้สึกของบุริศร์ช่างแตกต่างไปจากครั้งที่แล้วโดยสิ้นเชิง
เขามาถึงเมืองใต้ดินด้วยใบหน้าเย็นชา ตรงไปหาท่านขุนอินทันที
“ผมเข้าใจว่าพวกเราตกลงเรื่องความร่วมมือกันได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าพวกคุณจะต่ำช้าเช่นนี้ ลักพาตัวภรรยาของผมมาที่นี่ นี่มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?”
บุริศร์มีท่าทีดุร้าย
ท่านขุนอินตะลึงไปเล็กน้อย “ ลักพาตัวภรรยาของคุณอะไรกัน?ประธานบุริศร์ คุณอย่ามาล้อเล่นนะ เห็นอยู่ว่าข้อตกลงพวกเราบรรลุผลแล้ว ผมจะทำเรื่องที่ขุดหลุมฝังตัวเองไปทำไม ?”
“ยังจะเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีกเหรอ?คุณกับตรินท์ร่วมมือกันไม่ใช่ความจริงหรือไง?ผมเพิ่งจะกลับไป ตรินท์ก็ฉวยโอกาสที่ผมไม่อยู่ลักพาตัวภรรยาของผมไป และลี้ภัยมาที่เมืองใต้ดินของคุณ คุณยังจะกล้าพูดว่าไม่รู้เลยสักนิดเหรอ?”
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ คิ้วของท่านขุนอินยิ่งขมวดมากขึ้น
“ประธานบุริศร์ ผมยอมรับว่าแต่ก่อนได้ร่วมมือกับคุณชายตรินท์จริง แต่หลังจากคุณกลับไปแล้ว พวกเราก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลยจริงๆ ”
“ใครจะไปเชื่อคุณ?”
บุริศร์มั่นใจว่าตรินท์กับนรมนต้องอยู่ที่เมืองใต้ดิน ท่านขุนอินเองก็จนปัญญา เขาไม่มีทางเลือกจึงให้คนพาบุริศร์ไปตามหา
บุริศร์เดินไปรอบๆ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีข่าวคราวของตรินท์กับนรมน ดวงตามืดมนขึ้นทันที
“คุณเอาพวกเขาไปซ่อนไว้ที่ไหน?คุณต้องรู้ไว้นะ ถ้าผมหาภรรยาของผมไม่เจอ แบบแปลนและสัญญาการมอบอำนาจใบนั้น พวกคุณไม่ต้องคิดจะได้มัน ผมต้องการเพียงแค่ให้ภรรยาของผมอยู่เย็นเป็นสุข เลือกให้ดีนะ ผมคิดว่าคุณจะเข้าใจ”
“ประธานบุริศร์ ผมไม่รู้ว่าคุณชายตรินท์เอาภรรยาของคุณไปไว้ที่ไหนจริงๆ เขาไม่ได้มาที่นี่จริงๆ ”
“แต่เขามาที่เมืองAของคุณจริงๆ นอกจากที่นี่ของคุณ เขายังจะไปที่ไหนได้?ท่านขุนอินผมจะบอกคุณให้นะ ถ้าหาภรรยาของผมไม่เจอ อย่างแย่ที่สุดพวกเราก็สู้กันจนตายไปข้างใดข้างหนึ่ง สิ่งที่พวกคุณต้องการชาตินี้อย่าคิดว่าจะได้”
บุริศร์พูดอย่างดุร้าย ส่วนก็ท่านขุนอินยิ่งวิตกกังวล
“หมายความว่าอะไรกัน?ตรินท์ แท้จริงแล้วคุณต้องการทำอะไร?”
ท่านขุนอินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนลูกระเบิด
นรมนก็รู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้าง
ตลอดทางที่ผ่านมา เธอสามารถสัมผัสได้ว่าเหมือนตรินท์ไม่ได้ร่วมมือกับท่านขุนอิน แต่เขากลับต้องการล่อให้บุริศร์มาที่เมืองใต้ดิน แท้จริงแล้วเพราะอะไรกันแน่?
อีกอย่าง แท้จริงแล้วสิ่งที่ตรินท์ต้องการคืออะไร?
เขาไม่ต้องการตระกูลโตเล็ก ไม่ต้องการทรัพย์สมบัติ เพราะถ้าต้องการ ก่อนหน้านี้ บุริศร์ยกทุกอย่างให้เขาไปแล้ว แต่ดูเหมือนเขาต้องการใช้อำนาจในมือให้เป็นประโยชน์เพื่อค้นหาประธานเคน ค้นหาแบบแปลนและสัญญาการมอบอำนาจ
ไม่ว่าจะเป็นนรมนหรือจะเป็นบุริศร์ เดาว่าคงจะเข้าใจว่าตรินท์กับท่านขุนอินร่วมมือกัน ต้องการทำลายตระกูลโตเล็ก ทำลายบุริศร์ เพื่อระบายความ
โกรธและความไม่พอใจของตนเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่วันนี้มองดูแล้ว ดูเหมือนตรินท์จะมีเป้าหมายอื่น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำไปเพื่อข้อตกลงสุดท้ายนี้ใช่ไหม?
พานรมนมาแลกตัวกับใคร?
ในสมองของนรมนรู้สึกสับสน แต่ความตั้งใจของตรินท์ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นมา
เขาทำไปมากมายเช่นนี้ ก็เพื่อคนคนเดียว แต่คนคนนั้นคือใคร?
นรมนหูผึ่งตั้งใจฟัง
สีหน้าของตรินท์กลับเย็นชา กล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ “ผมต้องการคนคนหนึ่ง ตราบใดที่คุณสามารถพาคนนั้นมาให้ผมได้ ผมจะส่งนรมนคืนให้”
ใครกัน?”
“ในปฏิบัติการที่ยูนนาน คนที่แทงผมข้างหลัง!”
คำพูดของตรินท์ทำให้นรมนตะลึงไป แน่นอน ท่านขุนอินก็ตะลึงไปเช่นกัน
“ตรินท์ คุณหมายความว่าอะไร?ปีนั้นคุณพบเจอกับอะไรในปฏิบัติการที่ยูนนาน พวกผมจะไปรู้ได้อย่างไร?”
“ให้มันน้อยหน่อยนะ ถ้าปีนั้นพวกคุณไม่ได้เข้าร่วมปฏิบัติการที่ยูนนาน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตระกูลโตเล็กมีแบบแปลนและสัญญาการมอบอำนาจที่พวกคุณต้องการ?ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ที่ผมไม่ออกมา ไม่ใช่เพราะผมโง่ แต่เพราะคนนั้นถูกพวกคุณคุ้มครองอย่างดีเกินไป ผมใช้ความสัมพันธ์ทุกอย่างที่มีให้เป็นประโยชน์ก็หาเขาไม่พบ ดังนั้นจึงต้องใช้ความร่วมมือกับพวกคุณ วันนี้บุริศร์ได้ตกลงกับพวกคุณเรื่องแบบแปลนและสัญญาการมอบอำนาจไปแล้ว แต่ถ้าไม่มีนรมน พวกคุณคิดว่าข้อตกลงของพวกคุณจะยังสามารถไปต่อได้ไหม?สิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่ทรัพย์สมบัติของพวกคุณ และไม่ใช่กิจการที่ยิ่งใหญ่ของพวกคุณ ผมต้องการแค่เพียงคนที่ไม่มีความสำคัญกับพวกคุณก็เท่านั้นเอง คุณถามคนเบื้องบนของคุณ เพื่อคนนั้นคนเดียว จะต้องทิ้งทุกอย่างเลยไหม ผมให้เวลาคุณหนึ่งวัน ถ้าภายในหนึ่งวันผมไม่เห็นคนนั้น ผมจะฆ่านรมนทิ้ง ถึงตอนนั้นบุริศร์จะคิดอย่างไรผมคิดว่าท่านขุนอินน่าจะรู้ดีกว่าผมนะ ในเมื่อพวกเราต่างเป็นตั๊กแตนบนเชือกเส้นเดียวกันถูกต้องไหม?”
“ตรินท์ นี่คุณจงใจ!ตั้งแต่แรกที่คุณมาร่วมมือกับพวกผมมันคือการจงใจใช่หรือไม่?คุณจงใจสร้างปัญหาให้กับบุริศร์ จงใจให้ตระกูลโตเล็กโกลาหลอลหม่าน จงใจโจมตีบุริศร์ และบังคับให้เขามาหาผมที่นี่ จงใจลักพาตัวนรมนมาเพื่อบีบบังคับพวกเรา แท้จริงแล้วคุณทำเพื่อคนนั้นใช่ไหม?”
“ใช่แล้ว ตระกูลโตเล็กจะมีเกียรติหรือเสื่อมเสียชื่อเสียงมันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ บุริศร์จะอยู่หรือตายก็ไม่เกี่ยวกับคุณ สิ่งที่ผมต้องการเพียงอย่างเดียวก็คือคนที่แทงผมคนนั้น!”
การยอมรับของตรินท์ทำให้นรมนอึ้งไป
ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...