บทที่ 603 แต่ไหนแต่ไรบุริศร์ไม่เคยเป็นเจ้านายที่ใจอ่อน
“คุณก็คิดว่าคนคนนี้ควรจะโดนหันเป็นชิ้นๆ ใช่ไหม?แต่คุณรู้ไหม?คนคนนี้ก็คือคนตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกคุณ!”
“คุณพูดอะไรนะ?”
“ไม่อยากจะเชื่อใช่ไหมล่ะ?โลกภายนอกต่างเล่าลือกันว่า ลูกผู้ชายของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกคุณกล้าหาญเพื่อประเทศชาติ แต่ละคนต่างเป็นชายชาตรี ต่างเป็นผู้เสียสละ นอกจากความพิการของธรณีหลังจากปลดเกษียณแล้ว คนอื่นต่างพลีชีพ พูดแล้วน่าฟังจริงๆ แต่ใครจะรู้ว่า ลูกผู้ชายของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของพวกคุณจะเปลี่ยนฝั่งในการต่อสู้ รักตัวกลัวตาย?ตอนเริ่มต้นผมคิดว่าพวกคุณตระกูลทวีทรัพย์ธาดาปกป้องมัน แต่ห้าปีที่ผ่านมา ผมตรวจสอบอย่างเปิดเผยและเป็นความลับอยู่นาน ธรณีกับคุณนายทวีทรัพย์ธาดาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นผมจึงไม่ลงมือกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา”
ฟังรามิลพูดแบบนี้ นรมนค่อนข้างรู้สึกแย่
ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาซื่อสัตย์และยอมพลีชีพเพื่อชาติทั้งครอบครัว คิดไม่ถึงว่าจะมีพวกเดนมนุษย์แบบนี้
“อาจจะมีความจริงอะไรที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้น?”
ได้ยินนรมนแก้ต่างให้คนคนนั้น รามิลกล่าวด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา “ความจริงที่ซุกซ่อนอยู่?ความจริงที่ซ่อนอยู่อะไรที่ต้องจ่ายด้วยชีวิตของตรินท์?พวกคุณตระกูลทวีทรัพย์ธาดาติดค้างตระกูลโตเล็กชีวิตหนึ่ง คุณรู้ไหม?”
จู่ ๆ นรมนก็ไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับตนเองอย่างไร
บุริศร์รักน้องชายของตนเองมากมายขนาดนั้น ถ้าถูกเขารู้ว่าคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทำร้ายน้องชายของเขา เขาจะเผชิญหน้ากับเธออย่างไร?
เดิมเข้าใจว่าเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ จากนี้ไปจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับบุริศร์ได้ กลับคิดไม่ถึงว่าจะมีหนึ่งชีวิตกั้นไว้ตรงกลางอีก
ระหว่างพวกเขาทำไมถึงมีความซับซ้อนมากมายเช่นนี้?
“บุริศร์รู้เรื่องนี้ไหม?”
“นี่คุณไม่ได้ถามไร้สาระใช่ไหม ถ้าเขารู้แล้ว ผมจะยังเป็นตรินท์ได้เหรอ?เรื่องนี้มีแค่เพียงคุณนายตระกูลโตเล็กที่รู้”
คำพูดของรามิลทำให้นรมนดวงตาเปิดกว้างอย่างห้ามไม่ได้
“แม่สามีของฉัน?”
“ใช่แล้ว แม่สามีของคุณ คนที่ตรินท์อยากเจอก่อนตายที่สุดก็คือคุณนายตระกูลโตเล็ก และผมก็สามารถทำศัลยกรรมจนกลายเป็นแบบนี้ได้เพราะความช่วยเหลือจากคุณนายตระกูลโตเล็ก และใช้ตัวตนของตรินท์เข้าไปในอาณาจักรรัตติกาลเพื่อตามหาเบาะแส ถ้าไม่ใช่เพราะคุณนายตระกูลโตเล็ก ผมก็คงไม่สามารถอยู่ในตระกูลโตเล็กได้อย่างราบรื่น อาจเป็นเพราะในใจของเธอ ก็อยากระลึกถึงตรินท์ผ่านตัวของผม เป้าหมายของพวกเรามีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือตามหาธรรศ”
“ธรรศ?เดนมนุษย์คนนั้นของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา?”
“ใช่”
นรมนเงียบไปฉับพลัน
ตอนคุณนายตระกูลโตเล็กรู้ว่าเธอคือคนตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็ยังปกป้องรักษาเธอทุกวิถีทาง แม้กระทั่งทำดีกับเธอมากกว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดา วันนี้เธอนึกดูแล้ว ในนั้นจะมีความโศกเศร้าและเป็นทุกข์มากน้อยเพียงใด?
คนตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นศัตรูตัวฉกาจของเธอ และเธอยังเป็นคนตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอีก เป็นลูกสะใภ้ตระกูลโตเล็ก เธอไม่เพียงแต่ไม่ทำอะไรกับเธอ แต่ยังดีกับเธอมาก นรมนรู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาชั่วขณะ
รามิลมองเธอ และถามว่า “คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”
“คิดว่าแม่สามีของฉันเข้มแข็งมาก เจอหน้าฉันทั้งวัน ไม่รู้ว่าในใจจะรู้สึกเป็นทุกข์อย่างไร แต่กลับดีกับฉันมาก”
“จริงเหรอ?คุณควรจะได้รู้ว่า ในครั้งนี้คุณนายตระกูลโตเล็กร่วมมือกับผมจึงสามารถลักพาตัวคุณมากได้ คุณยังคิดว่าเธอดีอยู่ไหม?”
คำพูดของรามิลทำให้นรมนนิ่งไปสักพัก
เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกคุณวางแผนลักพาตัวฉันเพื่อบีบคั้นให้บุริศร์โมโห และเพิ่มความกดดันให้ท่านขุนอินของเมืองใต้ดิน?อันที่จริงไม่ว่าจะเป็นคุณหรือแม่สามีของฉัน พวกคุณต่างไม่มีใครเคยคิดจะทำร้ายฉัน และไม่เคยคิดทำร้ายลูกๆ ของฉันจริงไหม?”
“ทำไมคุณถึงได้แน่ใจว่าพวกเราจะไม่ทำร้ายคุณ และไม่ทำร้ายลูกๆ ของคุณ?”
นรมนตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่มีทาง เพราะพวกเขาคือลูกของตระกูลโตเล็ก คนเดียวที่พวกคุณคิดจะทำร้ายได้ ก็คือฉัน แต่หลายครั้งแล้ว เมื่อฉันอยู่ระหว่างความเป็นความตาย และเมื่อตกอยู่ในอันตราย ก็จะเป็นคุณกับแม่สามีของฉันที่มาช่วยชีวิตฉัน แม้แต่ตอนที่ฉันทุกข์ใจที่สุด ช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุด ก็เป็นแม่สามีที่คอยปลอบโยนฉัน แต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยทำอะไรไม่ดีให้ฉันเลย ฉันไม่เชื่อว่าคนคนหนึ่งจะสามารถเสแสร้งทำเป็นสนิทสนมได้เพียงนี้ เธอรักบุริศร์ แน่นอนว่าต้องรักทุกอย่างที่บุริศร์รักโดยปริยาย”
ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ รามิลถอนหายใจอย่างโล่งอก
“นับว่าคุณยังมีคุณธรรม ตระกูลทวีทรัพย์ธาดานอกจากธรรศ คนอื่นต่างเป็นวีรบุรุษ เรื่องนี้ผมไม่ปฏิเสธ”
“ดังนั้นในครั้งนี้คุณจงใจยั่วให้บุริศร์กับคุณโกรธกันใช่ไหม?น่าเสียดายบุริศร์ไม่มีทางทำอะไรคุณ คนที่เขารักที่สุดมาตลอดก็คือคุณน้องชายคนนี้”
คำพูดของนรมนทำให้รามิลกลัดกลุ้มใจไปเล็กน้อย
“ถ้าผมคือตรินท์จริงๆ เขาจะไม่ทำอะไรผมแน่นอน แต่ผมคือรามิล”
“หมายความว่าอะไร?”
นรมนรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
รามิลตอบด้วยรอยยิ้มขมขื่น “สามีของคุณไม่ใช่คนธรรมดา มีความเป็นไปได้ว่าเขาจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่เมืองใต้ดิน หลังจากออกมายังไม่ทันได้กลับก็ให้พฤกษ์นำเส้นผมของผมกับเขาไปทำการทดสอบความเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นผมจึงถูกยึดอำนาจอย่างรวดเร็ว มากเสียจนเขายังคิดกักบริเวณผม ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลือของคุณนายตระกูลโตเล็ก ตอนนี้ผมอาจจะกลายเป็นนักโทษไปนานแล้ว ดังนั้นแผนทั้งหมดต่อจากนี้จะไม่สามารถใช้งานได้ ก่อนหน้านี้บุริศร์ดีกับผม มีเมตตาไม่ลงมือ นั่นก็เพราะเขาคิดว่าผมคือตรินท์ แต่ตอนนี้หลักฐานชัดเจนแล้ว ผมยังเคยตีกิจจาด้วยซ้ำ หลานชายที่เขารักที่สุด กิจจาที่เคยเลี้ยงดูเหมือนลูกแท้ๆ แม้แต่เกือบจะฆ่าคุณ คุณคิดว่าเขาจะไว้ชีวิตผมไหม?แต่ไหนแต่ไรบุริศร์ไม่เคยเป็นเจ้านายที่ใจอ่อน เขาแค่ไม่คิดว่า ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้”
นรมนจึงนึกถึงทั้งหมดนี้
“ฉันจะบอกเขาเอง คุณวางใจนะ ฉันจะบอกบุริศร์ให้ไว้ชีวิตคุณ คุณทำแบบนี้เพื่อตรินท์ เขาจะต้องเข้าใจ”
“ก็อาจจะ”
รามิลพูดออกมาอย่างนิ่งเฉย
“ประธานบุริศร์ครับ ท่านอย่าเพิ่งร้อนใจ จะต้องมีข่าวคราวจากท่านขุนอินเร็วๆ นี้”
คนข้างกายของท่านขุนอินตัวสั่น
แต่บุริศร์กลับไม่พูดอะไร นั่งอยู่เฉยๆ แบบนั้น เพียงแต่รู้สึกไม่สบายใจมากๆ
“ฉันจะออกไป”
เขาลุกขึ้นทันที กลับถูกคนห้ามเอาไว้
“ประธานบุริศร์ ท่านรอข่าวอยู่ที่นี่เถอะครับ”
“ไปให้พ้น”
เดิมทีบุริศร์ก็รู้สึกอึดอัดด้วยความโมโหอยู่แล้ว แต่ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนขวางเขาเอาไว้ ความโกรธของเขาพุ่งสูงขึ้นทันที สีหน้ายิ่งมืดมน
ผู้ส่งข่าวกล่าวด้วยความรู้สึกลำบากใจ “ประธานบุริศร์ ในเมื่อที่นี่คืออาณาจักรของท่านขุนอิน ท่านควรจะ……”
“อาณาจักรของเขา?งั้นฉันต้องให้เขากลายเป็นทรราชของที่นี่ถึงจะถูก ก่อนหน้านี้ฉันมาที่นี่คนเดียว พวกแกจับฉันไว้ที่นี่ ทำไม?วันนี้พวกแกคิดว่ายังจับฉันได้อีกเหรอ?จะทางทะเลบกหรืออากาศพวกแกเลือกได้เลย ฉันอยากเห็นว่าแท้จริงแล้วทรราชท่านขุนอินของพวกแกมีอำนาจมากแค่ไหน หรือฉันมีอำนาจมากกว่า และอีกอย่าง ฉันไม่กลัวที่จะบอกพวกแกว่า ฉันจะไปหายมราช บอกท่านขุนอินซะ ภายในสามชั่วโมงถึงฉันยังไม่ได้เจอภรรยาของฉัน เขาก็อย่าคิดว่าจะได้เจอภรรยาของเขาอีกเลยตลอดชีวิต”
พูดจบ บุริศร์ก็เตะคนตรงหน้าลอยไป และเดินตรงออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
ทุกคนต่างพากันอึ้ง
ภรรยาของท่านขุนอิน?
คิดไม่ถึงว่าท่านขุนอินจะมีภรรยาด้วย ?
ไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับยมราช ถ้าไม่ได้รู้ทุกอย่างจากโพนี่ บุริศร์ก็คงไม่รู้
เขาสามารถมองออกว่า ท่านขุนอินไม่ได้ไม่มีความสามารถนำโรงพยาบาลของยมราชมาอยู่ในขอบเขตอำนาจของเมืองใต้ดิน เพียงแต่เขาใจไม่แข็งพอ
และเนื่องจากใจไม่แข็งพอ แถมยังมีความรักและความผูกพัน ในเมื่อมีความรักและความผูกพัน ก็มีการเสียดุล ผ่านไปนานจึงกลายเป็นทุนในการต่อรอง
เมื่อบุริศร์เดินออกมาจากเมืองใต้ดินอย่างรวดเร็ว คนของท่านขุนอินจึงนำคำพูดของเขาบอกกับท่านขุนอินทันที
เขาเหมือนมดที่อยู่ในหม้อไฟจริงๆ ร้อนรนสุดๆ
ตรินท์ขู่เข็ญเขา บุริศร์ก็ขู่เข็ญเขา นี่จะให้เขาทำอย่างไร?หรือต้องขอร้องเบื้องบนจริงๆ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...