บทที่ 604 ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ
“สมควรตายจริงๆ !”
ท่านขุนอินเขวี้ยงมือถือด้วยความโมโห แต่คิดไปคิดมา จึงหยิบขึ้นมาและกดโทรออก
บุริศร์เดินออกไปจากเมืองใต้ดิน มาถึงในโรงพยาบาลของยมราชโดยตรง
มีคนในโรงพยาบาลไม่น้อย น่าจะเป็นคนที่ท่านขุนอินส่งมาคุ้มครองยมราช
บุริศร์ก็ไม่ได้พูดอะไร เดินตรงเข้าไปทันที
พยาบาลเห็นบุริศร์มา จึงรีบเข้ามาขวางและพูดว่า “ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ”
“ไปให้พ้น!”
บุริศร์อารมณ์ไม่ดี เห็นใครก็ขัดตา
พยาบาลร่างเล็กยังคิดจะขวางเอาไว้ แต่มองเห็นบุริศร์ในตอนนี้มีท่าทางดุร้าย จึงไปขดตัวหลบอยู่ด้านข้าง
บุริศร์มาถึงห้องทำงานของยมราชอย่างรวดเร็ว
“ใครให้เธอเข้ามา? ออกไปซะ!”
ยมราชคิดว่าเป็นพยาบาลเข้ามา เธอไม่แม้แต่เงยหน้าขึ้น ดุด่าอย่างรุนแรง
บุริศร์นั่งลงตรงหน้าเธอ เอ่ยถามเสียงเบา “ กิจจาล่ะ?”
ได้ยินเสียงที่แตกต่างออกไป ยมราชถึงจะเงยหน้าขึ้น เมื่อมองเห็นว่าเป็นบุริศร์ก็ชะงักไปเล็กน้อย ถามออกไปอย่างอารมณ์เสีย “คุณมาทำอะไรที่นี่?ยังไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์คุณจะมาเอาเด็กไปแล้ว?”
“ผมแค่อยากเห็นว่าเขาสบายดีไหมแค่นั้นเอง”
“ไปเข้าเรียนอยู่”
คำพูดของยมราชทำให้บุริศร์อึ้งไปเล็กน้อย
“เข้าเรียน?”
“ทำไม?อายุของเขาไม่ควรไปเข้าเรียนหรือไง?เด็กอายุสี่ขวบต้องเข้าโรงเรียนอนุบาล คุณวางใจได้เลย โรงเรียนอนุบาลที่ฉันสมัครเป็นโรงเรียนที่แพงที่สุดใน เมืองAการศึกษาอะไรต่างก็ดีที่สุด”
ยมราชเข้าใจว่าบุริศร์กังวลตรงนี้ จึงรีบพูดออกมา
บุริศร์รีบทำหน้าตาให้เป็นเหมือนเดิมและพูดว่า “ไม่เป็นไร ผมแค่แปลกใจเล็กน้อย”
“แปลกใจอะไร?กลัวฉันไม่ให้การศึกษาที่ดีแก่เขาเหรอ?สิบปีนี้ฉันจะดูแลเขาเหมือนเป็นลูกชายแท้ ๆ ของฉัน คุณวางใจเถอะ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร คุณอย่ามาหาฉันที่นี่ ฉันไม่อยากเจอคุณ”
ยมราชไม่ปิดบังสักนิดว่าไม่ต้อนรับบุริศร์
ตรงกันข้ามกลับตรงไปตรงมา
บุริศร์หัวเราะเล็กน้อยและกล่าวว่า “ผมมาที่นี่เพราะมีเรื่องจะขอร้อง”
“ฉันไม่สนว่าคุณจะขอร้องอะไร ฉันไม่ตกลง”
ยมราชโต้ตอบบุริศร์กลับไปด้วยประโยคเดียว
บุริศร์ถอนหายใจและกล่าวว่า “โพนี่พูดไม่มีผิด นิสัยของคุณช่างน่ารังเกียจจริงๆ มิน่าล่ะถึงแต่งงานกับท่านขุนอินได้”
มือของยมราชหยุดนิ่งทันที เธอเงยหน้ามองบุริศร์ และถามอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “นี่คุณรู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับขุนอินได้อย่างไร?”
“แน่นอนว่ามีคนบอกผมน่ะสิ”
บุริศร์ตอบอย่างสบายใจ แต่สีหน้าของยมราชกลับดูไม่ได้
“ไม่เพียงแค่นั้น ผมยังรู้ว่าทำไมคุณถึงชอบกิจจามากขนาดนั้น เพราะเขาโตเท่าลูกของคุณใช่ไหม?ความทรงจำของคุณยังหยุดอยู่ตอนที่ลูกชายของคุณอายุสี่ขวบช่วงเวลานั้น คุณมีภาวะซึมเศร้า ดังนั้นลูกชายของคุณ……”
“พอได้แล้ว!”
ความทรงจำของยมราชถูกคนเปิดออก ราวกับว่าบาดแผลที่สมานตัวแล้วถูกคนจับแยกออกอีกครั้ง เจ็บจนสั่นไปทั้งตัว
“คุณรู้ทั้งหมดนี้จากที่ไหน?”
“ผมบอกไปแล้ว โพนี่บอกผมเอง พ่อของเธอคือรุ่นพี่ของคุณ”
ได้ฟังบุริศร์พูดแบบนี้ ยมราชมองบุริศร์เหมือนอยู่กันคนละโลก สีหน้าท่าทางเหี่ยวแห้ง
“รุ่นพี่?”
“ใช่แล้ว!”
ยมราชก้มหน้าลง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
ผ่านไปประมาณสิบนาที ยมราชถึงจะเอ่ยปากออกมา
“คุณอยากให้ฉันช่วยคุณทำอะไร?”
“ให้ขุนอินติดต่อตรินท์ ปล่อยภรรยาของผม ไม่งั้นผมจะพาคุณไป”
คำพูดของบุริศร์ทำให้ยมราชหัวเราะอย่างขื่นขม
“ตอนนี้เขาเป็นพวกเดียวกับคุณ ตั้งแต่เขาลักพาตัวภรรยาของผมไปนับตั้งแต่ตอนนั้น เขาก็ไม่ใช่น้องชายของผมแล้ว”
บุริศร์พูดตัดเยื่อใย
ขุนอินอึ้งไป น้ำท่วมปากจริงๆ
ตรินท์ต้องการธรรศ แต่ธรรศเบื้องบนไม่ปล่อยคนมา หากไม่มีธรรศ ตรินท์ก็ไม่ปล่อยตัวนรมน ทางฝั่งบุริศร์ก็ไม่สามารถยอมรับได้ สิ่งที่พวกเขาพูดก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้
ขุนอินอยู่ตรงกลางกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ
ทำอะไรไม่ได้ เขาจะโทรหาเบื้องบนอีกครั้ง เล่าเรื่องบุริศร์และเรื่องที่ทำ
อีกฝ่ายคิดพิจารณาสักพัก ถึงจะตอบกลับขุนอิน
ขุนอินที่ได้รับคำตอบหัวใจหล่นไปอยู่ที่พื้น
เขารีบโทรหาตรินท์โดยเร็ว “เบื้องบนตกลงว่าจะส่งธรรศให้คุณ แต่คุณจำเป็นต้องพาตัวนรมนมาให้พวกเราที่นี่ นอกจากนี้การแลกเปลี่ยนไม่สามารถดำเนินการได้ในเมืองใต้ดินอีก ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีอะไร จะต้องไม่ทำให้บุริศร์รู้ตัวว่าคุณออกไปจาก เมืองA พวกเราจะหาสถานที่แลกเปลี่ยนที่อื่น”
“ไม่ได้!”
นรมนเป็นผู้ฟังอยู่ข้างๆ รีบห้ามทันที
“รามิล ถ้าเป็นใน เมืองA ในเมืองใต้ดิน มีคนของบุริศร์อยู่ มีคนของตระกูลโตเล็กอยู่ ถึงแม้คุณจะไม่ใช่ตรินท์ แต่คนของตระกูลโตเล็กจะปกป้องคุณ ฉันก็จะให้บุริศร์ปกป้องคุณ แต่ในกรณีที่ออกไปจากขอบเขตอำนาจของบุริศร์ พวกเขาคิดจะทำอย่างไรกับคุณก็ไม่อาจช่วยคุณได้”
รามิลได้ฟังนรมนพูดแบบนี้ ก็ค่อนข้างแปลกใจ
“คิดไม่ถึงว่าคุณจะคิดเพื่อผม?คุณไม่เคียดแค้นผม?ถ้าไม่ใช่ผม คุณคงไม่เจอกับอุปสรรคมากมายแบบนี้ จนเกือบจะตายระหว่างทางที่มา เมืองAแล้ว คุณลืมหมดแล้วหรือไง?”
“ไม่มีคุณ ฉันก็ตาย คุณไม่ได้ทำร้ายร่างกายของฉัน แต่เป็นป้าโอ ถ้าไม่มีคุณ ตอนนี้ฉันอาจจะเอาชีวิตไม่รอดจริงๆ ถึงแม้คุณจะวางแผนกับฉัน แต่คุณก็ช่วยชีวิตฉัน คุณลากฉันไปอยู่ข้างกายยมราช ถ้าฉันเดาไม่ผิด นภดลก็เป็นการจัดการของคุณใช่ไหม?”
ได้ฟังนรมนพูดแบบนี้ รามิลส่ายหน้าและตอบว่า “ผมไม่ได้จัดการเรื่องนภดลจริงๆ เป็นคุณนายตระกูลโตเล็กที่ปล่อยข่าวลือออกมา กระจายตำแหน่งที่อยู่ของนภดล ออกไป นภดลคือเภสัชกร บนโลกนี้มีคนต้องการเขามากเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทำธุรกิจนี้ในเมืองใต้ดิน ดังนั้นตอนที่พวกเราปล่อยข่าวนี้ออกไป นภดลกลับถูกคนของเมืองใต้ดินจับไป”
“ดังนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ เรื่องทุกอย่างเป็นการวางแผนและจัดการของพวกคุณ ฉันต้องพูดว่า พวกคุณกล้าหาญมาก ถ้าในนั้นมีช่วงที่เชื่อมต่อกันไม่ได้ ฉันคงจะตายไปแล้วจริงๆ ”
รามิลพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ ดังนั้นคุณไม่เคียดแค้นผมเหรอ?”
“ฉันแค่ดูที่ผลลัพธ์ ผลลัพธ์กลายเป็นว่าฉันโชคดีจากความโชคร้าย ร่างกายของฉันแข็งแรงสมบูรณ์ จากนี้สามารถใช้ชีวิตบั้นปลายกับบุริศร์ได้ยาวนานมากๆ แค่นี้ก็พอแล้ว”
“ชีวิตบั้นปลายที่ยาวนาน แต่ไม่จำเป็นว่าจะได้อยู่ด้วยกันเสมอไป คุณบอกว่า บุริศร์รักน้องชายของเขาที่สุด ถ้าเขารู้ว่าธรรศฆ่าน้องชายของเขา คุณคิดว่าเขาจะยังอยู่กับคุณอย่างไม่รู้สึกแสลงใจไหม?”
คำพูดของรามิลทำให้นรมนชะงักไป
เธอไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ คงจะไม่หรอก?บุริศร์รักเธอมาก คงจะไม่ทอดทิ้งเธอไปเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...