บทที่8 ขายความลับของตัวเอง
“มน เธอมานี่เร็ว ฮ่าฮ่าฮ่า ขำเป็นบ้า! กรรมสนองคนเลวแล้วล่ะ!”
เสียงหัวเราะอึกทึกของคมทิพย์ทำให้กานต์ที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“ขอร้องล่ะ คุณหัวเราะเบาๆหน่อยได้ไหม ไม่เป็นสุภาพสตรีเลยสักนิด แก่แล้วเสียเปล่า มิน่าอายุยี่แปดแล้วยังไม่ได้แต่งงาน!”
คำพูดของกานต์ทำให้คมทิพย์รู้สึกอับอาย
“ตัวแสบ พูดว่าอะไรนะ พูดใหม่อีกรอบหนึ่งสิ เชื่อไหมว่าหญิงชราจะไปตีก้นเธอ”
คมทิพย์พูดจบก็ม้วนแขนเสื้อขึ้น ท่าทางดูราวกับพี่สาวคนโต
กานต์มองเธอด้วยสายตาเหยียดหยาม และวิ่งไปหานรมนแต่เขากลับเปลี่ยนสีหน้าในทันที
“มามี๊ ให้ผมเก็บให้เถอะครับ มามี๊ไปนั่งพักในห้องนั่งเล่นเถอะ”
กานต์ม้วนแขนเสื้อขึ้น และนำอาหารที่นรมนเพิ่งทำเสร็จออกมา และยังช่วยจัดแจงวางตะเกียบอย่างเรียบร้อย
เมื่อคมทิพย์เห็นกานต์เป็นเด็กรู้เรื่องรู้ราวเช่นนั้น ก็ทำให้ความอับอายของเธอนั้นกลับกลายเป็นความอ่อนโยน
“ตัวแสบ ฉันเห็นกับความกตัญญูของเธอจะไม่เอาเรื่องกับเธอนะ”
“หญิงชรา เอาแต่นั่งรอจะทานข้าวอย่างเดียวไม่ช่วยเหลืออะไรสักนิด เป็นครูจริงๆหรือนี่”
กานต์ยั่วโมโหคมทิพย์ขึ้นอีกครั้ง
“เธอรู้เอาไว้ด้วย ที่นี่มันบ้านของฉัน!”
“พวกเราให้เงินค่าห้องกับคุณ คุณให้เงินค่ากับข้าวพวกเราด้วยรึเปล่าล่ะ”
กานต์มองคมทิพย์ด้วยสายตาแห่งความรังเกียจ เขาโมโหคมทิพย์จนโพล่งออกไป
เมื่อนรมนเห็นกานต์เป็นเช่นนี้ เธอจึงกระแอมขึ้นและพูดว่า “กานต์ พูดกับป้าคมทิพย์อย่างนี้ไม่ได้นะ หนูรู้ไหมว่าตัวเองกำลังจะไปเรียนหนังสือกับคุณป้า หนูจะไม่เคารพคุณครูไม่ได้นะ”
กานต์หน้ามุ่ยในทันที
เขาไม่อยากไปอยู่กับคมทิพย์ แต่เมื่อนึกถึงกิจจา นึกถึงบุริศร์ เขาก็นิ่งสงบลง
เมื่อคมทิพย์ได้ยินว่ากานต์จะเข้าเรียนที่โรงเรียนอนุบาลของเธอ ทันใดนั้นเธอก็ได้สติกลับคืนมา
“มน เธอจะให้เขาไปเรียนที่โรงเรียนฉันจริงๆหรอ”
“อื้อ กานต์ต้องเข้าอนุบาลแล้ว ฉันเองก็มีงาน อยู่กับเขาที่บ้านไม่ได้ ได้ยินว่าโรงเรียนอนุบาลที่เธอทำงานอยู่นั้นดีมาก เรื่องนี้ต้องรบกวนเธอด้วยแล้ว”
“ไม่รบกวน ไม่รบกวน”
คมทิพย์แอบอมยิ้ม กานต์ฮัมเพลงของเขาไปไม่พูดไม่จา
“ใช่แล้ว เมื่อกี๊เธอหัวเราะเรื่องอะไร”
นรมนถามหลังจากที่จัดอาหารบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
คมทิพย์นึกถึงข่าวที่เธอเพิ่งดูเมื่อสักครู่
เธอจึงรีบยื่นโทรศัพท์ไปที่เบื้องหน้าของนรมน และหัวเราะขึ้นอย่างสะใจ
“มนต์ เธอดูสิ บุริศร์ดูเด็กเยี่ยวใส่หน้า ฮ่าฮ่าฮ่า สะใจ ในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็ถูกคนจัดการซะที”
“ใช่ ผู้ชายคนนั้นเจอฤทธิ์เด็กแสบเข้าไปแล้ว แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันจะสาดหน้าเขาด้วยน้ำกรด จริงสิ เขากับกิจจาลูกของเขมิกาก็เข้าเรียนที่โรงเรียนอนุบาลของฉันเหมือนกัน เธอแน่ใจหรอว่าจะให้ตัวแสบไปเรียนที่นี่”
มือของนรมนหยุดชะงักอยู่ครู่หนึ่ง
ลูกของพวกเขา…
นรมนหายใจเข้าลึกๆและพูดเบาๆ “กานต์ไม่ใช่เด็กที่ใครจะรังแกได้ง่ายๆ วางใจเถอะ”
“อื้อ ข้อนี้ฉันยอมรับ”
คมทิพย์และนรมนยังคงนั่งเมาส์กันต่อไป ในขณะที่บุริศร์กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยู่ในออฟฟิศ
ใครเป็นคนเอาเรื่องนี้ไปโพสต์นะ
“ประชาสัมพันธ์ของบริษัทเราให้พวกเขากินข้าวฟรีๆหรือยังไง วิดีโอนี้ถูกสตรีมไปยังเว็บ พวกเขาทำอะไรกันอยู่”
บุริศร์โยนโทรศัพท์ลงตรงหน้าพฤกษ์
พฤกษ์ได้แต่เหงื่อไหลเย็นวาบไปทั้งตัว
เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ออกไป กว่าที่จะสกัดไว้มันก็ถูกเผยแพร่ออกไปแล้ว
“ประธานบุริศร์ตอนนี้เราก็กำลังดำเนินการแก้ไข แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายได้ลงโปรแกรมโทรจันเอาไว้ คอมพิวเตอร์ของเราจึงติดไวรัส ช่างกำลังซ่อมอยู่ ผมคิดว่า เป็นคนที่ไม่ค่อยพอใจเราใช่รึเปล่า มีคนจงใจทำเรื่องนี้”
คำพูดของพฤกษ์ทำให้บุริศร์หรี่ตาลง
หรือว่าเรื่องนี้มีคนจงใจพุ่งเป้าไปที่เขาจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...