บุริศร์กลับมานั่งทบทวนอยู่สักพัก ตอนนั้นในห้องน้ำชาย มีเพียงเขาและเด็กแสบคนนั้นอยู่กันสองคนเท่านั้น
เขาไม่คิดว่าเด็กสี่ห้าขวบจะทำเรื่องเช่นนี้กับเขาได้
แต่ว่านอกจากเด็กแสบนั่นแล้ว จะมีใครรู้เรื่องนี้อีกล่ะ หรือว่าตอนนั้นจะยังมีใครอยู่ในห้องน้ำโดยที่เขาไม่รู้
คิ้วบุริศร์ย่นขึ้นมา
พฤกษ์รู้สึกว่าความโกรธในออฟฟิศกำลังค่อยๆเจือจางลงจนเขาหายใจไม่ทั่วท้อง เขาทนไม่ไหวจนต้องปลดกระดุมที่คอเสื้อ ราวกับว่าสิ่งนี้จะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นอย่างนั้นล่ะ
จู่ๆบุริศร์ก็พูดขึ้น
“ไปรับแคทเธอรีรึยัง”
เขาพบกับแคเธอรีที่สนามบินแต่ว่าไม่ได้รับเธอมา เพราะเขาไม่รู้ว่าหน้าตาอีกฝ่ายเป็นเช่นไร เขาให้พฤกษ์ทำป้ายชูเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครเดินมาหาพวกเขา
พฤกษ์เห็นว่าบุริศร์เปลี่ยนเรื่องคุยเขาจึงรีบพูด “ทางฝั่งอเมริกาแจ้งผมว่าแคเธอรีมาถึงแล้วครับ บางทีพวกเราจะไปถึงช้าเกินไป หรือบางทีเธออาจจะไม่ได้มาเที่ยวบินนี้ ประธานบุริศร์ แคทเธอรีคนนี้หยิ่งและไม่เห็นใครในสายตา ถึงอย่างนั้น เธอก็เป็นสถาปนิกเพียงคนเดียวที่คุณออกหน้าไปรับถึงสนามบิน ตอนนี้เธอปล่อยนกพิราบของคุณไป แน่นอนเรื่องนี้…
“รีบจัดการเรื่องวิดีโอให้เรียบร้อย อีกห้านาทีถ้าผมยังเห็นวิดีโอนั่นในอินเทอร์เน็ตอีก คุณไปเตรียมหาสุสานดีๆเอาไว้ได้เลย ผมจะซื้อให้ รีบออกไป!”
อยู่ๆบุริศร์ก็ขัดคำพูดของเขา ทำให้คนหมดทางไปต่อ
พฤกษ์รีบหุบปากและวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ห้านาทีหรอ
แฮกเกอร์คนนั้นไม่รู้ว่าติดตั้งโทรจันไว้อย่างไร มีเวลาเพียงห้านาทีที่จะถอดรหัสโทรจันนี้ ประธานบุริศร์สั่งแบบนี้เท่ากับบอกให้เขาไปตายชัดๆ
หลังจากพฤกษ์ออกไปจากออฟฟิศของเขา บุริศร์ก็รีบเปิดคอมของเขาขึ้น
เขาพบว่าระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทถูกแฮ๊ค ตอนนี้ระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทไม่ทำงาน
ใครกัน
ใครต้องการจัดการกับเขา
คิ้วของบุริศร์ย่นขึ้น จากนั้นเขาก็เริ่มพิมพ์บนแป้นพิมพ์ แถวของรหัสที่พิมพ์ลงไปก็พังเปลี่ยนกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว
เพื่อที่จะไม่ต้องเห็นคนแก่คมทิพย์ กานต์จึงขังตัวเองอยู่ในห้อง เขาเปิดคอม จึงได้เห็นว่าระบบการรักษาความปลอดภัยของบริษัทฮัวยูกรุปจำกัดกำลังเป็นอัมพาตและไม่ทำงาน
โปรแกรมโทรจันที่ลงไป ทำให้บุริศร์หืดขึ้นคอแล้ว
ทันใดนั้น คอมพิวเตอร์ของเขาก็กระพริบขึ้น ไฟร์วอลล์ตัวแรกของเขาถูกพิชิตแล้ว
คิ้วของกานต์ย่นขึ้น
ดูเหมือนว่า บริษัทฮัวยูกรุปจำกัดจะยังมีผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์มือดีอยู่
กานต์รีบวางมือเล็กๆลงบนคีย์บอร์ด แกรก เขาค่อยๆเริ่มหว่านเมล็ด
บุริศร์พบว่าร่องรอยของอีกฝ่ายถูกล็อคไว้อย่างรวดเร็ว
“ไม่ว่าแกจะเป็นใคร วันนี้ฉันจะจับแกออกมาประจานให้ได้!”
บุริศร์ไม่ได้โกรธมาเป็นเวลานาน ยิ่งไม่ได้ลงมาจัดการเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเองมาเป็นเวลานานมาก
ต้องบอกว่า แฮ๊กเกอร์คนนี้มีความสามารถจริงๆ แต่ในความเห็นของเขา อีกฝ่ายยังอ่อนหัดอยู่บ้าง
กานต์เห็นว่าหน้าจอของตัวเองไม่สามารถเคลื่อนไหวใดๆ จึงรู้ตัวว่าถูกล็อคโดยอีกฝ่าย
ซวยแล้ว!
เจอยอดฝีมือ!
กานต์ต้องการที่จะถอนตัว แต่ตอนนี้หน้าจอไม่ได้อยู่ในการของคุมของเขา
อีกฝ่ายเจ้าเล่ห์นัก
ดูเหมือนว่าจะติดตั้งอุปกรณ์ภายนอกในช่วงเวลาตอนท้าย ถ่ายโอนที่อยู่ไอพีออกไป แต่ว่าบุคคลนี้จะต้องคุ้นเคยกับเขาและตระกูลโตเล็ก เป็นใครกันนะ
ถ้าหากว่าเป็นศัตรูของเขา เรื่องนี้น่ากลัวมาก!
“ไปตรวจสอบซะ! ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม ผมต้องรู้แหล่งที่มาของวิดีโอนี้ และข้อมูลของแฮ๊กเกอร์คนนี้!”
“ครับ!”
พฤกษ์รู้สึกว่าภาระที่แบกรับนั้นมหาศาล เขาวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
กานต์หมดพลังทิ้งตัวลงบนเก้าอี้
ดูเหมือนว่าเจ้านายกระจอกของเขาจะไม่ได้โง่เง่านัก
เมื่อครู่อีกนิดเดียวเขาก็เกือบจะถูกเปิดเผยตัวตน
ในอนาคตเขาจะต้องคิดให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น
“กานต์ ออกมาทานข้าวได้แล้ว”
นรมนเคาะประตูเรียกกานต์ กานต์ตกใจรีบผละตัวออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
ทันทีที่เขาเปิดห้องออก สายตาของนรมนก็เพ่งมองมา เมื่อเธอเห็นเกมส์บนจอคอมพิวเตอร์ เธอก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา
“บอกกี่ครั้งแล้ว เล่นเกมส์ให้น้อยลงหน่อย หนูก็ไม่ฟัง แล้วก็ อีกครู่หนึ่งขอโทษป้าคมทิพย์เขาด้วยนะ รู้มั๊ย”
กานต์ทำคิ้วย่นขึ้นอีกครั้ง
ให้เขาขอโทษผู้หญิงชราคนนั้น คิดผิดรึเปล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...