“ขอร้องแม่เจ้าสิ!” เฉินฝานยกอีกถ้วยหนึ่งขึ้น
“ปึก!”
“ดูซิว่าข้าจะกล้าตีเจ้าหรือไม่ ?”
“อ๊าก!” จูต้าอันที่ไม่ทันระวังตัวส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ต่อมาเขาพยายามจะลุกขึ้น แต่เฉินฝานไม่ให้โอกาสเขาเลย
“ปึก!”
“กล้าไหม!”
“ปึก!”
“กล้าไหม!”
เขาพูดคำว่ากล้าไหมหนึ่งครั้ง ก็ฟาดจูต้าอันหนึ่งครั้ง
กำลังมือที่เฉินฝานฟาดลงไปหนักขึ้นทุกครั้ง
ศีรษะของจูต้าอันกลายเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว เลือดไหลออกมามากขึ้นเรื่อย ๆ เขาปากแข็งในตอนเริ่มต้น แต่ภายหลังส่งเสียงร้องเจ็บปวดดังสนั่นและร้องขอความเมตตาไม่หยุด
ชายสองคนที่มาจากหอนางโลมอี๋ชุนย่วนวางมือลงและมองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยจูต้าอันสักคน
ไอ้เฉินฝานนี่ เหตุใดถึงไม่เหมือนอย่างที่รู้จัก
เฉินฝานที่พวกเขารู้จัก นอกจากผู้หญิงในเรือนตนเองแล้วก็สู้ใครไม่ได้เลย คำว่าอันธพาลของหมู่บ้านล้วนได้มาเพราะอยู่กับจูต้าอันและล้วนเพราะมีจูต้าอันคอยหนุนหลัง
ทำไมตอนนี้กลับ……
“ปึกๆๆ!” เฉินฝานยังทุบไม่หยุด
“นายท่านเจ้าคะ นายท่าน!” ฉินเย่ว์โหรวนั่งลงข้างเฉินฝาน “หยุดตีได้แล้ว หยุดตีได้แล้ว ถ้ายังตีต่อไปเขาจะตายได้นะเจ้าคะ!”
ครอบครัวไม่อาจไร้ผู้นำ หากเฉินฝานเข้าคุก พวกเขาจะกลายเป็นผู้หญิงไร้นาย
ผู้หญิงที่ไร้นาย ใคร ๆ ก็จะมารังแก
“พวกเจ้า!” เฉินฝานวางมือพร้อมสาดสายตาไปยังผู้ชายจากอี๋ชุนย่วนสองคนอย่างเยือกเย็น
ใบหน้าของเฉินฝานเต็มไปด้วยเลือดของจูต้าอัน สยดสยองน่ากลัว
แม้แต่ชายหนุ่มจากอี๋ชุนย่วนทั้งสองคนก็ยังตกใจกลัวจนต้องถอยหลัง
พวกเขาใช้ชีวิตมานานขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เห็นคนทุบคนอย่างเหี้ยมโหดเช่นนี้
“ลากกลับไปซะ อย่าทำให้ห้องข้าเปื้อนล่ะ!”
ชายหนุ่มจากอี๋ชุนย่วนลากจูต้าอันออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากจูต้าอันออกไปแล้ว เฉินฝานเช็ดเลือดเปื้อนบนใบหน้าและเดินกลับไปนั่งตรงหน้าฉินเย่ว์โหรวที่ยังนั่งอยู่กับพื้น
“ที่พื้นมันเย็น เย่ว์โหรว ร่างกายของเจ้าไม่สู้ดีนัก รีบลุกขึ้นเถอะ!”
เฉินฝานยื่นมือให้ แต่กลับถูกฉินเย่ว์โหรวหลบอย่างคล่องแคล่ว
“นายท่านนั่งเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าน้อยไปตักน้ำมาให้ท่านล้างหน้าเจ้าค่ะ”
แม้ว่าเสียงของฉินเย่ว์โหรวยังคงอ่อนหวานเหมือนเดิม สีหน้าก็ยังอ่อนโยนนอบน้อมไม่เปลี่ยน แต่เฉินฝานสัมผัสได้ถึงความห่างเหินจากน้ำเสียงที่พูด
นางยังรู้สึกโกรธที่เขาขายนาง
ช้าก่อน
คนที่ขายฉินเย่ว์โหรวคือเจ้าของร่างเดิมไม่ใช่เขาเสียหน่อย!
“ข้าไม่ได้……”
ฉินเย่ว์โหรวไม่รอฟังคำอธิบายของเฉินฝาน แต่นางหันหลังเดินไปตักน้ำทันที
เมื่อเห็นแผ่นหลังที่เดินกะเผลกของฉินเย่ว์โหรวแล้ว เขาพลางยักไหล่อย่างจนใจ
ช่างเถอะ ไม่อธิบายล่ะ อธิบายไปก็ไม่เข้าใจ เมื่อมาใช้ร่างกายของเจ้าของร่างเดิม คงต้องแบกความผิดนี้ไว้ก่อนชั่วคราว
หลังจากฉินเย่ว์โหรวล้างหน้าเปื้อนเลือดของเฉินฝานจนสะอาดแล้ว นางก็ไปเก็บกวาดห้องต่อ
เฉินฝานไม่ได้เข้าไปช่วย ประการที่หนึ่งเพราะฉินเย่ว์โหรวไม่ต้อนรับเขา ประการที่สองเพราะร่างกายยังไม่สู้ดีนัก
เขาเพิ่งทะลุมิติข้ามมาไม่นาน ความทรงจำอันวุ่นวายของเจ้าของร่างเดิมทำให้เขาปวดหัวตื้อไม่หาย ยังไม่ทันปรับตัวดีจูต้าอันก็พาคนเข้ามา
ร่างกายของเจ้าของร่างเดิมทั้งซูบผอมและอ่อนแอ เมื่อครู่นี้ก็เพิ่งใช้กำลังทุบจูต้าอันไปอย่างหนัก ตอนนี้รู้สึกทนไม่ไหวเล็กน้อย
ทันใดนั้น ก็มีเสียงท้องร้องดังขึ้นกลางห้อง
ฉินเย่ว์โหรวหันหน้ามองเฉินฝานด้วยสีหน้าเกรงกลัว
เฉินฝานกุมท้องแล้วยิ้มเหยาะ “เอ่อ…….เมื่อครู่นี้ข้าใช้กำลังมากไปหน่อยเลยรู้สึกหิวเล็กน้อยน่ะ”
“นายท่าน ข้าน้อยจะรีบไปเตรียมอาหารมาให้เจ้าค่ะ”
ฉินเย่ว์โหรววางมือจากสิ่งที่ทำและเดินออกไปอย่างรีบร้อน ขาของนางไม่สันทัดตั้งแต่แรก พอรีบเร่งก็แย่กว่าเดิม นางเดินไปไม่กี่ก้าวก็สะดุดล้มไปกับพื้นทันที
“ทำไมไม่ระวังขนาดนี้” เฉินฝานเร่งเข้าไปจะช่วยนาง
ฉินเย่ว์โหรวพลันลุกขึ้นด้วยความตื่นตระหนกขณะที่เฉินฝานยังไม่ทันเข้าใกล้ “นายท่าน ข้าน้อยขออภัย ๆ ข้าน้อยเป็นคนโง่เขลา ข้าทำให้นายท่านหิวแล้วยังไม่มีอะไรกินอีก ได้โปรดท่านอย่าโกรธนะเจ้าคะ!”
“ข้า……” เฉินฝานมองฉินเย่ว์โหรวที่กล่าวขอโทษไม่หยุดพลางทำหน้าจนใจ
เขาแสดงสีหน้าอะไรผิดหรือ ถึงทำให้นางรู้สึกว่าเขากำลังโกรธ!
ทันใดนั้น พลันมีความทรงจำผุดขึ้นมา
ก่อนที่เฉินฝานจะทะลุมิติมาที่นี่ เวลาเจ้าของร่างเดิมหิว หากฉินเย่ว์โหรวนำอาหารมาให้ไม่ทัน เขาก็จะทุบตีนางอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่รีรอทันที
ฉินเย่ว์โหรวในเวลานี้ไม่ต่างจากนกที่ตื่นธนู ในสายตาของนาง ทุกอิริยาบถของเฉินฝานเป็นท่าทางจะทุบตีนางทั้งหมด
“นายท่าน โปรดรอข้าอีกเพียงครู่เดียว รอไม่นาน รอไม่นานเจ้าค่ะ!”
ฉินเย่ว์โหรววิ่งเร็วกว่าเมื่อครู่นี้ แผ่นหลังที่เดินกะเผลกและสั่นไหวของนาง ดูโคลงเคลงกว่าเมื่อครู่นี้มาก
เฉินฝานมองแล้วรู้สึกแย่จนพูดไม่ออก
ช่างเป็นคนน่าสงสารเหลือเกิน
ดวงอาทิตย์บนฟ้า ร่วงสู่ขอบภูเขาไปแล้ว
ฉินเย่ว์โหรวกำลังทำงานอยู่ในครัว เฉินฝานรอในห้องจนรู้สึกเบื่อเขาจึงเดินออกไป
เพิ่งทะลุมิติก็มีเรื่องต่าง ๆ มากมายเกิดขึ้น เขายังไม่ทันได้เห็นเลยว่าตนเองมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร
กำแพงอิฐหลังคาสังกะสีจำนวนห้าหลังกับห้องครัวหนึ่งห้อง ห้องครัวก่ออิฐหลังคาสังกะสีเหมือนกัน
เพียงแต่ว่า……
นอกจากห้องที่เขาอยู่เมื่อครู่นี้ ห้องที่เหลือ ไม่มีหลังคาหรือไม่ก็กำแพงสึกหรอไม่สมบูรณ์
หากลมพัดแรงหน่อย ก็จะมีเสียงกรอบแกรบดังออกมา
ไม่ต้องพูดถึงฤดูฝน แค่ลมฤดูหนาวนี้ ยังไม่รู้เลยว่าจะทนไหวหรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ