หัตถ์เทวะราชันมังกร นิยาย บท 709

เฉินผิงหวั่นเกรงยิ่งว่าราชาพิษจะไม่ใช้พิษกับตน เขาปรารถนาให้ราชาพิษปล่อยสัตว์พิษใส่ตนให้หมด เช่นนั้นเฉินผิงก็จะได้ซึมซับพลังพิษเข้าสู่ร่างกายแล้วใช้จิตตวิสุทธิเพื่อเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นพลังวิญญาณ จากนั้นเขาก็จะได้ใช้พลังวิญญาณมาเพิ่มพลังของตนเอง

“เฉินผิง คุณบ้าไปแล้วเหรอ?” อู่เม่ยเอ๋อร์มองเฉินผิงด้วยสายตาเหลือเชื่อ

มีเพียงหลงอู่ที่เข้าใจเจตนารมณ์ของเฉินผิง เขาจึงยิ้มพลางกล่าวว่า “ให้เฉินผิงไปที่หมู่บ้านหม่าวแล้วจัดการเรื่องที่นั่นก็ดีเหมือนกัน แบบนั้นก็จะได้ไม่มีปัญหาตามมาในภายหลัง”

ในเมื่อหลงอู่เห็นด้วยกับเฉินผิง ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก

เสี่ยวหลานมองเฉินผิงแล้วเอ่ยเตือนขึ้นมาว่า “เฉินผิง เรื่องไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คุณคิดหรอกนะ คุณควรจะคิดให้ดีๆ”

เฉินผิงจึงตอบอย่างหนักแน่นว่า “ผมไม่จำเป็นต้องคิดหรอก ถ้าหากผมไม่ไปกับคุณ คุณรู้ไหมว่าตอนกลับไปที่หมู่บ้านหม่าว คุณต้องเจอกับบทลงโทษเช่นใดกัน อย่าคิดมาหลอกผมว่าราชาพิษจะยอมยกโทษให้เลย ผมไม่เชื่อหรอกนะ”

เสี่ยวหลานไม่คาดคิดว่าเฉินผิงจะใส่ใจเรื่องของเธอหรือเต็มใจยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อเธอ เพราะฉะนั้นเธอจึงรู้สึกลังเลก่อนที่จะกล่าวขึ้นมาว่า “ฉันต้องบอกคุณเรื่องหนึ่ง พ่อบุญธรรมสั่งให้ฉันพาตัวคุณกลับไปทั้งที่ยังเป็นๆ อยู่ก็เพื่อเปลี่ยนคุณให้กลายเป็นราชาซากศพ ในการที่จะให้กำเนิดราชาซากศพขึ้นมา จำเป็นต้องโยนคนเป็นๆ เข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยสัตว์พิษแล้วให้สัตว์พิษพวกนั้นรุมกัดกิน ยิ่งไปกว่านั้น คนผู้นั้นก็จะถูกขังเอาไว้ที่นั่นถึงเจ็ดวัน ถ้าหากเขารอดชีวิตหลังผ่านไปเจ็ดวันได้ เขาก็จะกลายมาเป็นราชาซากศพ ทว่าจนป่านนี้ก็ยังไม่มีใครทำสำเร็จเลยสักคน”

คำพูดของเสี่ยวหลานสร้างความตกตะลึงให้แก่ทุกคน พวกเขาไม่คาดคิดว่าราชาพิษจะทำเรื่องโหดเหี้ยมและใช้มนุษย์มาทดลองเช่นนั้น

“เฉินผิง คุณห้ามไปนะ ได้โปรดอย่าไป...” ซูอวี่ฉีกอดแขนของเฉินผิงเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เธอไม่อาจปล่อยให้เฉินผิงไปเผชิญอันตรายเช่นนั้นได้

ในทางกลับกัน เมื่อได้ยินคำอธิบายของเสี่ยวหลาน เฉินผิงก็ชักจะรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ ทีแรกเขาคิดจะหาสัตว์พิษที่หมู่บ้านหม่าว ในเมื่อราชาพิษอยากจะเปลี่ยนเฉินผิงให้กลายเป็นราชาซากศพ นั่นเป็นเรื่องที่เฉินผิงใคร่จะถามมากกว่า เขาทนรอที่จะได้ซึมซับพิษทั้งหมดจากสัตว์พิษพวกนั้นไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว วิธีเช่นนั้นอาจจะทำให้พลังของเขาก้าวหน้าไปอีกขั้นได้

“อย่าห่วงไปเลย ผมไม่เป็นอะไรหรอกน่า!” เฉินผิงปลอบโยนซูอวี่ฉีก่อนจะหันไปทางเสี่ยวหลาน “เริ่มออกเดินทางกันเดี๋ยวนี้เลยเถอะ ผมทนรอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว”

แม้แต่เสี่ยวหลานก็รู้สึกประหลาดใจที่ตนเองพูดเช่นนั้นออกไป เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงมีความรู้สึกดีๆ ให้เฉินผิงกับเพื่อนๆ ของเขา บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับสายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอู่เม่ยเอ๋อร์ก็เป็นได้

จากนั้นเฉินผิงกับเสี่ยวหลานก็มุ่งหน้าไปที่สนามบิน แล้วบินไปทางตะวันตกเฉียงใต้ก่อนจะเดินทางไปที่หมู่บ้านหม่าว

ในขณะเดียวกัน หลงอู่ก็มิได้มัวเอ้อระเหยอยู่ในหงเฉิง เขาพาซูอวี่ฉีและหญิงสาวคนอื่นๆ ขึ้นเรือไปทะเล ถึงแม้ว่าซูอวี่ฉีกับกู่หลิงเอ๋อร์จะไม่รู้ว่าเขาจะพาพวกเธอไปที่ไหน แต่พวกเธอก็ไม่ได้ถามให้มากความ นอกเสียจากตามเขาไปเสียแต่โดยดี

เฉินผิงนั่งอยู่ข้างๆ เสี่ยวหลานบนเครื่องบิน เขากอดแขนข้างหนึ่งของเสี่ยวหลานเอาไว้แล้วเอนซบเธอ ถึงแม้ว่าเสี่ยวหลานจะมีสีหน้าไร้อารมณ์ แต่เธอก็ไม่ได้ผลักเขาออกไป ทว่ากลับปล่อยให้เขาเกาะติดเธอต่อไป

เมื่อผู้โดยสารคนอื่นๆ เห็นภาพเหตุการณ์ฉากนี้เข้าก็ส่งสายตาดูหมิ่นมาให้เฉินผิง เขาไม่อายที่เอนซบผู้หญิงอยู่แบบนั้นบ้างเลยรึไง? ปกติมีแต่ผู้หญิงที่เป็นฝ่ายเกาะติดผู้ชายไม่ใช่เหรอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หัตถ์เทวะราชันมังกร