“โอ๊ย…”
ชายปิดหน้าส่งเสียงออกมา
ชายที่ได้รับการโจมตีอย่างหนักหน่วงตรงจุดนั้น มันมิใช่เรื่องตลกเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซี่ยเชียนฮวันยังเป็นหมออีกด้วย
ลงไม้ลงมือได้อย่างแม่นยำและโหดเหี้ยมมาก
เขาปล่อยเซี่ยเชียนฮวันออก เจ็บจนทรุดคุกเข่าลงกับพื้นและพูดไม่ออกเลย
เดิมทีเซี่ยเชียนฮวันคิดจะฉวยโอกาสกระชากหน้ากากเขาด้วยซ้ำ อยากเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา
แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว
ชายผู้นี้มีร่างกายกำยำแข็งแกร่ง หากยังพัวพันกับเขาต่อ เกรงว่าครึ่งชั่วยามเขาต้องหายจากความเจ็บและจุกนี้เป็นแน่
เซี่ยเชียนฮวันหันไปเห็นไก่ย่างที่วางอยู่ข้าง ๆ นางพุ่งตัวไปคว้ามันมา และใช้มันทุบตรงจุดนั้นของเขา ทวีความเจ็บปวดอย่างน่าสังเวชให้เขาอีกครั้ง
ชายปิดหน้า “...“
เขาร้อนจนแทบทนไม่ไหว
หญิงสาวผู้นี้ช่างร้ายกาจยิ่งนัก
“ครั้งนี้นับว่าข้าให้บทเรียนแก่เจ้าก็แล้วกัน ต่อไปหากเจ้ากล้าดีลงมือกับผู้หญิงอีก ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นไก่ตอนเลยคอยดู!”
เซี่ยเชียนฮวันพลางวิ่งหนี แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันกลับมาดุด่า
ชายปิดหน้ากัดฟันกรอด
เขาพยายามจะไล่ตามเซี่ยเชียนฮวันไป
ทว่า ตรงนั้นของเขาเจ็บปวดทรมานยิ่งนัก ไม่แม้แต่จะลุกยืนได้
“อย่าหนีนะ…ข้างนอกอันตราย…”
เขากัดฟันอดทนกับความเจ็บปวดนั้นตะโกนออกมา
เมื่อครู่ที่เขาบอกนางว่าในป่าในเขาล้วนแต่มีหมาป่าดุร้ายนั้น เขาไม่ได้โกหกแต่อย่างใด
ทว่า เซี่ยเชียนฮวันใช้พละกำลังและความเร็วทั้งหมดวิ่งหนีจนเงาร่างนางพ้นสายตาเขาไปแล้ว
อีกทางด้านหนึ่ง
ในที่สุดเซียวเย่หลันก็มาถึงคฤหาสน์ในชนบทแห่งหนึ่ง
ทันทีที่เขาเข้าไป นึกไม่ถึงเลยว่าคำพูดประโยคแรกที่เอ่ยออกมานั้นจะไม่ใช่คำถามอาการป่วยของซูอวี้เออร์ แต่เป็นคำถามที่โพล่งออกมาภายใต้จิตสำนึกว่า “ตอนนี้ยามใดแล้ว ?”
มันทีที่นางเห็นเซียวเย่หลันเดินเข้ามา นางก็มาต้อนรับด้วยความโศกเศร้า น้ำตาคลอเบ้ากล่าวอย่างสะอึกสะอื้นว่า “ท่านอ๋อง! ในที่สุด ในที่สุดอวี้เออร์ก็ได้เจอท่านอ๋อง…”
เซียวเย่หลันตกใจสะดุ้งเล็กน้อย
เขามองซูอวี้เออร์อย่างพิจารณา ก่อนจะกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “เจ้าไม่ได้ป่วยหนักจนล้มหมอนนอนเสื่อหรอกหรือ”
“สองวันก่อนหม่อมฉันป่วยหนักมาก ท่านหมอบอกว่าหม่อมฉันคิดถึงมากจนป่วยหนัก มีเพียงแค่ทางเดียวคือได้เห็นหน้าผู้เป็นที่รักเท่านั้น ถึงจะบรรเทาอาการป่วยของหม่อมฉันได้ วันนี้พอรู้ว่าท่านอ๋องจะมา หม่อมฉันก็อาการดีขึ้นมากเลยเพคะ”
ซูอวี้เออร์เห็นสีหน้าของเซียวเย่หลันไม่ค่อยจะดีนัก นางจะเริ่มรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
เดิมทีนางคิดว่าขอเพียงแค่เซียวเย่หลันมา นางจะทำท่าทางน่าเอ็นดูน่าสงสาร พูดจาออดอ้อนเพียงไม่กี่ประโยค เขาก็จะใจอ่อน และพานางกลับจวนจ้านอ๋อง
แต่เหตุใดความเป็นจริงถึงไม่เหมือนอย่างที่นางจินตนาการเอาไว้เลย
เซียวเย่หลันกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าได้ยินว่าเจ้าป่วยหนัก อยากเห็นหน้าข้าเป็นครั้งสุดท้าย”
แม้ว่าสีหน้าของซูอวี้เออร์ตอนนี้จะไม่ค่อยดีนัก นางดูเหมือนคนป่วยจริง แต่ไม่ได้ป่วยถึงขั้นเจียนตายอย่างที่เขาได้ข่าวมา
“หม่อมฉัน เอ่อ หม่อมฉันไม่รู้เรื่องเพคะ บางทีคนผู้นั้นอาจจะใส่ความ บังอาจกล่าววาจาเกินความจริงก็ได้เพคะ” ซูอวี้เออร์กล่าวอย่างตะกุกตะกัก
นางรู้สึกกลัดกลุ้มใจมาก
ตั้งแต่คบหากับเซียวเย่หลันมา เขาอ่อนโยนกับนางมาโดยตลอด ไม่เคยเย็นชาต่อนางเหมือนดั่งวันนี้มาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หลังหย่า ราชาสงครามอ้อนขอข้าคืนดี
มาอัพเพิ่มไวๆๆนะคะ...
มาอัพต่อเร็วๆนะคะ...
นางออกควายไงคะ ไม่รู้อะไรซักอย่างตั้งท้อง อยู่ไปวันๆ...
นางเอกหน้าโง่ วันๆไม่ทำเห้ ไร รักษาแต่คน ไม่เคยคิดจะสู้กลับ ไร้น้ำยา...
ทำไมหายอีกแล้ว มาอัพต่อค่ะ...
ดีใจกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณแอดมินค่ะ...
รออ่านอย่าใจจดจ่อ อัพต่อพลีสสส...
กลับมาต่อ รออ่านอยู่ค่ะ...
ตามคะ ขอบคุณค่ะ...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอค่ะ กำลังสนุกเลย...