หวานเย็น กรุ่นใจ นิยาย บท 200

ท่านประเสริฐไม่ได้มาคนเดียว มีลูกน้องตามมาด้านหลังมากมาย หอบหิ้วของพะรุพะรัง ถือยาบำรุงมาเยอะแยะ

ท่านประเสริฐมองสาริศาอย่างรักใคร่เอ็นดู มองท้องของเธอแล้วพูดว่า “ริศา ในที่สุดเธอก็ทำได้แล้ว! วิเศษจริง! ยาบำรุงพวกนี้มีผลดีต่อคนท้องมากเป็นพิเศษ คุณกินอย่างสบายใจได้เลยนะ ตอนนี้สิ่งที่เธอทำคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลกีรติเมธานนท์”

สาริศาดีใจมากที่คุณปู่มาเป็นแขกที่บ้าน รีบเชิญเข้ามาในบ้าน รีบหาน้ำชามาต้อนรับ

ท่านประเสริฐเห็นเธอทำงานยุ่งไปหมด ก็รีบพูดว่า “เด็กดี ไม่ต้องรีบร้อนไปทำงานแล้ว มีงานอะไรก็ให้คนรับใช้ทำ เธอต้องดูแลเด็กในท้องให้ดี ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ลาออกจากงาน มาอยู่บ้านตั้งใจเป็นภรรยาของธนพัตก็ดีแล้วไง”

สาริศารู้สึกว่าตอนนี้นอกจากท้องไส้ปั่นป่วนแล้ว ทุกอย่างก็ยังดีอยู่ ไม่ถึงขั้นต้องออกจากงาน

อีกอย่าง หลายปีมานี้การต่อสู้ในสำนักพิมพ์ก็ไม่ง่าย ให้เธอลาออกไม่ทำแล้ว เธอก็ยังทำใจไม่ได้

สาริศาพูดว่า “คุณปู่คะ คุณปู่วางใจได้เลยค่ะ หนูรู้ตัวดีค่ะ”

“ได้ๆ แล้วแต่เธอ เธอมีความสุขก็พอแล้ว!”

พอท่านประเสริฐได้ข่าวว่าสาริศาตั้งท้องแล้ว ไม่ต้องบอกว่าดีใจมากแค่ไหน เขาชอบธนพัตหลานคนนี้ที่สุด แน่นอนว่าต้องรักลูกเขามากด้วย

ช่วงนี้สาริศารู้สึกว่าท่านประเสริฐจะยิ่งใจดีเป็นกันเองกับตนมากขึ้นแล้ว

แม้ว่าท่านประเสริฐจะอายุมากแล้ว แต่ยังคงมีความน่าเกรงขาม ทุกคนต่างเคารพเขามาก และกลัวเขามาก แม้ออร่าจะเทียบกับธนพัตไม่ได้ แต่ว่าที่เห็นได้ ในตอนนั้นท่านประเสริฐมีอิทธิพลอย่างมากในแวดวงธุรกิจคนหนึ่ง แต่ตอนนี้เมื่อเขาอยู่ต่อหน้าสาริศา กลับดูเหมือนญาติผู้ใหญ่สูงอายุคนหนึ่งอย่างนั้น

ท่านประเสริฐมองสาริศากำลังเตรียมขนม ก็อดถามไม่ได้ว่า “สาริศา เขาว่ากันว่าจะเป็นหญิงหรือชาย คนเป็นแม่จะสัมผัสได้อย่างรุนแรงที่สุด เธอคิดว่าเด็กในท้องเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”

เธอยังไม่ทันได้คิดถึงคำถามนี้ ผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้……

เห็นใบหน้าที่ไม่รู้เรื่องอะไรของสาริศา ท่านประเสริฐก็รู้ว่านี่เป็นท้องแรก คงไม่รู้อะไรเลยแน่ ก็ไม่ได้ตำหนิเธอ แค่จะบอกว่า“เปรี้ยวเป็นชายเผ็ดเป็นหญิง ริศา ช่วงนี้ความอยากอาหารเธอเป็นยังไง อยากกินเปรี้ยวมั้ย ฉันจำได้ตอนคุณย่าเธอตั้งท้อง อาเจียนมากเป็นพิเศษ ชอบกินเปรี้ยวมาก ยิ่งเปรี้ยวยิ่งดี มะนาวถูกเธอกินไปหลายตะกร้าเลย”

มะนาวเหรอ สาริศานึกขึ้นมาก็เปรี้ยวปากเลย

“เปล่าค่ะ คุณปู่ ช่วงนี้หนูมักจะอาเจียนค่ะ รสเปรี้ยวหรือรสเผ็ดก็ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรค่ะ”

“อยากอ้วกก็เป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องตกใจ ผ่อนคลายหน่อย ฉันเห็นสีหน้าเธอไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน ต้องบำรุงลูกในท้องให้ดีล่ะ”

ใช่ สาริศาเองก็รู้สึกช่วงนี้สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ความอยากอาหารก็แย่มาก แล้วยังอ้วกด้วย คนก็ผอมซูบลงไปมาก

ท่านประเสริฐพูดว่า “ความจริง ต่อให้เป็นเด็กผู้หญิง ฉันก็จะรักและเอ็นดูมากนะ อบรมเลี้ยงดูให้เธอมาเป็นทายาทตระกูลกีรติเมธานนท์ โตขึ้น จะส่งไปเรียนต่างประเทศ ให้เรียนโรงเรียนชั้นนำ เธอไม่ต้องกังวล กังวลคิดมากไปไม่ดีต่อลูก”

สาริศาได้ยินประโยคนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัว

สาริศาคิดไม่ถึงว่าท่านประเสริฐจะให้ความสำคัญกับลูกของพวกเขามากขนาดนี้ ถึงกลับพูดกันตรงๆ ว่าจะให้เด็กคนนี้มาเป็นทายาทตระกูลกีรติเมธานนท์

ต้องรู้ว่า ตระกูลกีรติเมธานนท์ ไม่ได้มีธนพัตเป็นสายเลือดเพียงสายเดียว ทางบุรินทร์นั้น ธีภพกับไรยาเองก็มีลูกแล้ว

ท่านประเสริฐยิ้มพลางเอ่ยว่า “เจ้าพัทเหมือนฉันที่สุด ฉันก็เลยรักเขามากกว่าหน่อย อีกอย่าง เด็กคนนี้จิตใจดี ที่เธอเห็นเขาดุและเย็นชาแบบนั้น นั่นเป็นเพราะเรื่องเมื่อสิบปีก่อน ตอนเด็กๆเขาให้ความใกล้ชิดสนิทสนมกับคนอื่นมาก เป็นคนที่พูดเก่งคนหนึ่งเลย มาวันนี้ฉันก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่อาจควบคุมอะไรได้มากนัก สงสารเจ้าพัทจริงๆเลย”

นัยยะที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของท่านประเสริฐ ชัดเจนอย่างยิ่ง เขาไม่เพียงชอบธนพัต แต่รักใคร่เอ็นดูหลานชายคนนี้ยิ่งนัก

สาริศาได้ฟังคำพูดของท่านประเสริฐ ในใจก็ครุ่นคิดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

บุรินทร์คนนี้ร้ายกาจเจ้าเล่ห์จริงๆ โลภมากไม่รู้จักพอ เขาถือหุ้นจำนวนมากอยู่ในมือ ก็ยังอิจฉาธนพัต ลอบทำร้ายลักพาตัวถึงขนาดจะกำจัดธนพัตทิ้งไป พี่ชายคนนี้น่ากลัวเหลือเกิน

สาริศารู้สึกเศร้าใจแทนธนพัต นอกจากความรักของคุณปู่แล้ว คนอื่นๆในครอบครัวก็เห็นเขาเป็นศัตรู

เห็นชัดๆว่าสิ่งที่เขาควรจะได้รับแต่กลับไม่ได้รับ ตนเองสร้างบริษัทใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาได้ด้วยมือตนเอง

ไม่เพียงต้องพยายามต่อสู้ในเรื่องของธรุกิจ เขายังต้องแกล้งทำเป็นพิการด้วย การเสแสร้งแกล้งทำเป็นคนพิการนั้นเป็นเรื่องที่ลำบากและเหนื่อยมาก

ท่านประเสริฐพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับสาริศาอีกหลายอย่าง อยู่ต่ออีกพักหนึ่ง เขาก็ลุกขึ้น “เอาละ ฉันควรจะไปแล้ว ก็ผ่านมาเยี่ยมเธอ เห็นเธอสบายดี ฉันก็โล่งใจแล้ว บำรุงเด็กในท้องให้ดีนะ”

สาริศาคิดจะสวมเสื้อคลุมไปส่งท่านประเสริฐ แต่ถูกห้ามเอาไว้ เขาพูดว่า “กลับไปเถอะ เธอไม่ต้องไปส่งหรอก”

ท่านประเสริฐเพิ่งไปได้ไม่นาน บ้านสาริศาก็มีคนมากดกริ่งอีก สาริศาคิดว่าท่านประเสริฐลืมของอะไรไว้ ก็รีบไปเปิดประตู

แต่พอเปิดประตู มองเห็นคนด้านนอก เธอก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ