เช้าวันรุ่งขึ้น ในที่สุดกันยาก็ฟื้นตื่นขึ้นมา
“แม่ แม่ตื่นแล้วเหรอคะ”
เมื่อเห็นกันยาตื่นขึ้นมา สาริศาทั้งดีใจทั้งเป็นห่วง
“แม่รู้สึกอย่างไรบ้าง บาดแผลยังเจ็บอยู่หรือเปล่า”
“แม่ไม่เป็นไร ทำให้หนูเป็นห่วงแล้ว” กันยาที่เพิ่งจะฟื้นขึ้นมา ร่างกายจึงยังคงอ่อนแอเล็กน้อย น้ำเสียงในการพูดจึงค่อนข้างแหบพร่า
เมื่อเห็นสีหน้าของสาริศาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง กันยาจึงพยายามตบมือเธอเบา ๆ อย่างยากลำบาก รู้สึกผิดในใจ ที่ตัวเองไม่สามารถช่วยเหลือลูกสาวได้ หลายปีมานี้มีแต่เป็นภาระให้กับเธอ ทำให้เธอเป็นห่วง ถึงขั้นที่สูญเสียความสุขในการแต่งงานของเธอ
ความจริงแล้วหลายวันมานี้ กันยาทำไมจะดูไม่ออก ที่สาริศาไม่ยอมปริปากพูดถึงธนพัต ทุกครั้งที่ตัวเองเอ่ยถึงธนพัต สาริศาก็จะตอบแบบขอไปที แล้วก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที เธอเป็นแบบนี้ เห็นได้ชัดว่ามีความขัดแย้งกับธนพัต
นึกถึงการแต่งงานของสาริศากับธนพัต กันยารู้สึกเพียงว่าตัวเองติดค้างลูกสาวคนนี้มาก
อีกหลายวันต่อมา สาริศายังคงอยู่ที่โรงพยาบาลดูแลกันยา
สาริศาพบว่าตั้งแต่ที่ฟื้นจากการผ่าตัด กันยาก็มักจะมีกะจิตกะใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เหมือนกับมีเรื่องเครียดในใจ แต่ว่าทุกครั้งที่เธอถาม กันยาก็ตอบเพียงว่าไม่มีอะไร ทำให้สาริศายิ่งรู้สึกเป็นห่วงเธอ
วันนี้ ตอนที่ชัชวาลมาเยี่ยมกันยานั้น สังเกตเห็นว่าเธอมักจะมามองทางตัวเองเป็นระยะ ๆ ในแววตามีความลังเลใจและความเศร้าใจ ท่าทางที่อยากจะพูดบางอย่างออกมาแต่ก็หยุดชะงักไป
ชัชวาลรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจ “น้ากันยาครับ น้ามีอะไรอยากจะพูดกับผมหรือเปล่าครับ” เขาลองถามขึ้น
เมื่อได้ยินคำถามของชัชวาล กันยากลับเงียบ หลังจากไม่พูดไม่จาอยู่สักพัก เธอมองไปยังสาริศาที่อยู่ข้าง ๆ ไม่รู้ว่าคำพูดของตัวเองควรจะพูดออกมาดีหรือไม่
สาริศาถูกเธอมองจนทำให้รู้สึกแปลกใจ ไม่รู้ว่าคุณแม่เป็นอะไรไป หรือว่าจะพูดอะไรบางอย่างกับชัชวาล แต่ไม่สะดวกที่จะพูดตัวต่อหน้าตัวเอง
“เพชรเธอ……ใกล้จะถึงวันเสียชีวิตของเธอแล้วใช่ไหม”
กันยาพยายามอีกครั้ง ในที่สุดก็พูดออกมา
เมื่อได้ยินกันยาถามเรื่องนี้ ชัชวาลก็หรี่ตาลง “ครับ วันมะรืนครับ”
ใบหน้าของเขามีร่องรอยความเศร้า
“น้าอยากจะไปเยี่ยมเพชรด้วย ได้ไหม” กันยาถามอย่างระมัดระวัง มีความอ้อนวอนราง ๆ อยู่ในน้ำเสียง
สาริศาเกิดความมึนงงขึ้นในเวลานี้ ทำไมกันยาถึงจำวันคล้ายวันเสียชีวิตของพชิราได้ แต่ทันใดก็นึกขึ้นได้ว่ากันยาเคยทำงานเป็นพี่เลี้ยงที่บ้านของตระกูลนิธิธราสกุล บางทีอาจจะเคยดูแลพชิราในตอนนั้นก็ได้
เมื่อได้ยินกันยาบอกอยากจะไปเยี่ยมพชิรา ในใจของชัชวาลก็เกิดความซาบซึ้งใจ “ได้แน่นอนอยู่แล้วครับ น้ากันยา ถ้าหากว่า เพชรรู้ว่าท่านไปเยี่ยม เธอจะต้องดีใจอย่างแน่นอน”
เห็นที ในโลกใบนี้ นอกจากเขาแล้ว ยังมีคนที่ยังคิดถึงเพชรอยู่
ฉับพลันก็นึกขึ้นได้ว่ากันยาเพิ่งทำการผ่าตัดเสร็จ ชัชวาลจึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “น้ากันยาครับ น้าเพิ่งจะทำการผ่าตัดเสร็จ ร่างกายไหวเหรอครับ อย่าได้ฝืนตัวเองนะครับ”
“ไหว น้าไม่เป็นไร” กันยารีบตอบกลับทันที ราวกับกลัวชัชวาลจะเปลี่ยนใจอย่างไรอย่างนั้น
“แค่ก ๆ……แค่ก……”
ด้วยความที่พูดเร็วเกินไป ทำให้เกิดการสำลักขึ้น กันยาเริ่มไออย่างรุนแรง สาริศาจึงรีบก้าวไปด้านหน้าลูบหลังให้กับเธอ
สภาพแวดล้อมของสุสานเงียบสงบมาก สองข้างทางมีต้นไซเปรสเขียวชอุ่มเป็นแถว ๆ และยังมีเสียงนกร้องดังขึ้นเป็นระยะ ๆ แต่กลับไม่ได้ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลาย ยิ่งทำให้ความรู้สึกหนักหน่วงมากขึ้นไปอีก
ตำแหน่งสุสานของพชิราค่อนข้างอยู่ด้านใน พวกเขาลงจากรถแล้วจึงต้องเดินไปสักระยะหนึ่งถึงจะถึงสุสานของพชิรา
สาริศานำดอกกุหลาบสีขาวที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้วางลงบนหลุมฝังศพเบา ๆ รอยยิ้มของพชิรางดงามดุจดอกไม้ สาริศามองจนค่อนข้างใจลอย
ถอยหลังกลับสองก้าว แล้วหันหลังไปมอง เห็นกันยากำลังร้องไห้น้ำตานองหน้า
สาริศาเดินเข้าไปแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาให้กับกันยา สักพักผ้าเช็ดหน้าก็เปียกชุ่มไปหมด
เห็นกันยาที่ร้องไห้จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สาริศาก็ไม่รู้ว่าควรจะปลอบใจอย่างไรดี ทำได้เพียงยืนเป็นเพื่อนอยู่ข้าง ๆ
ขณะที่สาริศากำลังมองดูรูปภาพของพชิราอย่างใจลอยนั้น ฉับพลันรอบ ๆ ก็มีกลุ่มนักข่าวพุ่งเข้ามาหาเธอ และล้อมตัวเธอเอาไว้ ไมโครโฟนแต่ละตัวยื่นเข้ามาหาเธอราวกับปืนใหญ่
“คุณสาริศาคะ ขออนุญาตถามว่าคุณมาเคารพคุณพชิราทำไมคะ คุณธนพัตรู้ไหมคะว่าคุณมา”
“ไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้คลิปที่แชร์ว่อนในโซเชียล มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกคุณหรือไม่ครับ”
“คุณสาริศาคะ ไม่ทราบว่าคุณคิดอย่างไรกับคุณพชิรา......”
“คุณสาริศาครับ คุณคิดอย่างไรถึงได้มาที่นี่ คุณธนพัตกับคุณพชิราเคยรักกันมากขนาดนี้มาก่อน คุณไม่มีอาการหึงหวงเหรอครับ”
“……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...