“ริศา คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”น้ำเสียงรีบร้อนที่ดังขึ้นจากหน้าประตูทำลายความคิดของสาริศา เธอหันหลังไปมอง ก็เห็นว่าออสตินกำลังวิ่งเข้ามาหาเธอ
พอตระหนักได้ว่าท่าทางของเธอกับธนพัตในตอนนี้นั้นมันสามารถถูกเข้าใจผิดได้ง่าย สาริศาก็รีบผลักธนพัตออกและยืนตรงในทันที
แต่ว่าออสตินไม่มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้ เขาจะปล่อยของเธอเอาไว้และสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า พอเห็นว่าสาริศาไม่ได้มีบาดแผลอะไร สุดท้ายออสตินก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“คุณรู้ไหมว่าเกือบทำให้ผมตกใจตายแล้ว ต่อไปไม่อนุญาตให้เอาตัวเองไปอยู่ในอันตรายแบบนี้แล้วนะ!”
สาริศารู้สึกอึดอัดด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่ใกล้ชิดของออสติน แต่พอคิดได้ว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงตัวเองจริงๆ เธอก็ทำได้เพียงลดเสียงลงและพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
ธนพัตที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้นตอนนี้เหมือนฉันน้ำแข็งบางๆ อยู่บนใบหน้าของเขา เยือกเย็นจนน่ากลัว ผู้ชายคนนี้อีกแล้ว นี่กล้าจะแบบนี้เลยเหรอ สรุปแล้วเขากับสาริศาเป็นอะไรกันแน่!
ออสตินก็สัมผัสได้ถึงความเยือกเย็นจากธนพัต หลังจากปล่อยสาริศาแล้ว เขาก็ยืนอยู่ตรงข้ามธนพัตด้วยดวงตาที่เร่าร้อน ในใจเต็มไปด้วยความหึงหวงยังอธิบายไม่ได้
สาริศายอมทำขนาดนั้นเพื่อผู้ชายคนนี้ ไม่มีทางที่ในใจจะไม่มีเขาอยู่ ดูท่าทางเส้นทางรักของเขากับสาริศาในอนาคตจะต้องล้มลุกคลุกคลานเพราะผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้แน่ๆ
ถึงแม้ต้องยอมรับว่าผู้ชายคนนี้เก่งรอบด้าน แต่ว่าตัวเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาตรงไหนเลย สาริศาคือคนที่เขาต้องได้มาให้ได้ เขาไม่มีวันยอมถอยแม้แต่ครึ่งก้าวอย่างแน่นอน
แล้วอีกอย่างในเมื่อก่อนธนพัตไม่ได้คว้าสาริศาเอาไว้ งั้นก็หมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนมีปัญหา ไม่อย่างนั้นก็คงไม่แยกกันรอ และเขา ก็ไม่เชื่อว่ากระจกที่แตกไปแล้วจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก!
ชายหนุ่มทั้งสองคนมองเห็นความมุ่งมั่นและความพากเพียรในดวงตาของกันและกัน ดังนั้นก็เลยไม่มีใครยอมละสายตาจากกันไปก่อน เพราะนั่นมันเหมือนเป็นการยอมถอย และสำหรับสาริศาแล้ว พวกเขาทั้งสองคนจะไม่มีใครยอมถอยอย่างแน่นอน
สาริศาก็พอจะเดาได้ว่าทำไมออสตินกับธนพัตเจอหน้ากันเมื่อไหร่ก็เหมือนไก่ชน ก็อดไม่ได้ที่จะถากถางตัวเองในใจ ไม่คิดเลยว่าจะมีวันหนึ่งที่เธอจะทำให้ผู้ชายทั้ง 2 คนมาหึงหวงเธอได้
“ออสติน คุณจะมาหาฉันทำไมเนี่ย”สาริศาถามทำลายความเงียบ เธอจะปล่อยให้ผู้ชายทั้งสองคนยืนจ้องหน้ากันแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เธอรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิในห้องโถงนี้มันเริ่มลดลงแล้ว
พอได้ยินเสียงสาริศา สุดท้ายออสตินตัวละสายตากลับมา แล้วก็ตอบเธออย่างอ่อนโยนด้วยท่าทางที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง “เมื่อกี้จัดหาที่ทางให้เขาเรียบร้อยแล้ว ก็เลยมาดูว่าคุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”
เมื่อวันก่อนสาริศาบอกกับเขาเป็นการส่วนตัวว่า ธนพัตไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของธีร์ หวังว่าเขาจะช่วยเธอปิดเป็นความลับ ดังนั้นสิ่งที่เขาพูดก็เลยค่อนข้างคลุมเครือ
สาริศารู้ทันทีว่าออสตินหมายถึงธีร์ ก็เลยถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรนว่า “เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“ไม่เป็นไร”ออสตินส่ายหน้า “แต่ผมคิดว่าคุณไปอยู่กับเขาซะดีกว่านะ”
“อืม”สาริศารีบพยักหน้าในทันที “พวกเรารีบกลับไปกันเถอะ!”
ทำไมเธอถึงประมาทขนาดนี้ ลืมได้ยังไงว่าธีร์ยังรอเธออยู่? หลังจากผ่านเรื่องแบบนี้มา เขาต้องตกใจมากแน่ๆ เธอควรรีบกลับไปปลอบใจเขาสิถึงจะถูก
“เขาคือใคร?”พอเห็นว่าสาริศาจะออกไป ธนพัตก็จับแขนของเธอไว้และเอ่ยถาม ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูด ช่างไม่ชอบความรู้สึกที่เขาเป็นคนนอกเลยจริงๆ
พอได้ยินธนพัตถามถึงธีร์ สาริศาก็นึกถึงเรื่องที่เขาบังคับให้เธอทำแท้งเมื่อตอนนั้น
“ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ” เธอสะบัดมือธนพัตออก แล้วก็พูดอยากเย็นชา หลังจากนั้นก็หันหลังเดินออกจากห้องโถงไป คนแบบเขาไม่มีสิทธิ์พูดถึงธีร์ และก็ยิ่งไม่มีสิทธิ์ให้ธีร์เรียกเขาว่าพ่อ!
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เดี๋ยวพี่รีบกลับบ้านตอนนี้เลย พวกเธอรอพี่ที่บ้านก่อนนะ”พอพูดจบชัชวาลก็วางสาย แล้วก็หมุนพวงมาลัยกลับบ้านทันที
ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ชัชวาลก็บินมาถึงตระกูลนิธิธราสกุล
“คุณลุง!”ธีร์พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของชัชวาลและยิ้มอย่างมีความสุข แต่บนใบหน้าของชัชวาลนั้นกลับไม่มีรอยยิ้มเลย มีแค่ความเป็นห่วงเท่านั้น เขาสังเกตธีร์ แล้วก็เอาแต่ถามไม่หยุดว่า “ไม่เป็นไรใช่ไหม? ไม่ได้บาดเจ็บอะไรใช่รึเปล่า? ไม่สบายตรงไหนไหม? ”
“พี่ พวกเราไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
หลังจากที่ย้ำกับชัชวาลครั้งแล้วครั้งเล่าว่าไม่เป็นอะไร คิ้วของชัชวาลที่เอาแต่ขมวดเข้าหากันในที่สุดก็คลายออก แล้วก็มีสีหน้าที่สบายใจ สาริศาเห็นแล้วรู้สึกปวดใจมาก หลายปีมานี้เหมือนกับเธอมีเรื่องให้พี่ต้องคอยเป็นห่วงอยู่เรื่องเลย
หลังจากอยู่บ้านหลายวัน ธีร์ก็ลืมเรื่องตกใจที่ตัวเองได้เจอไปจนสนิท มีชีวิตชีวาเหมือนเคย ทำให้สาริศาที่กังวลว่าธีร์จะมีรอยในใจก็สบายใจตามไปด้วย
วันนี้ตอนที่กำลังกินอาหารเช้าอยู่นั้น สาริศาก็พูดเรื่องหนึ่งกับชัชวาล
“พี่คะ ฉันอยากไปเยี่ยมแม่ฉันหน่อย”ตั้งแต่กลับประเทศมา เธอยังไม่เคยไปเยี่ยมกันยาเลย และไม่รู้ว่าตอนนี้สุขภาพของเธอเป็นยังไงบ้าง?
“ได้สิ อยากให้พี่ไปด้วยไหม? ” ไม่เจอกันตั้งหลายปี ชัชวาลกลัวว่าจู่ๆ ไปหากันยาแบบนี้แล้วเธอจะรู้สึกอึดอัด
พอนึกถึงว่าช่วงนี้ชัชวาลยุ่งวุ่นวายกับเรื่องที่บริษัทมากจนเท้าแทบไม่ติดพื้น สาริศาก็ไม่อยากจะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดของเขา
“ไม่ต้องหรอกพี่ ฉันไปเองได้ พี่ไปจัดการงานที่บริษัทเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...