ได้ยินดังนั้น ดวงตาของธนพัตก็ผุดความเจ็บปวดอีกครั้ง “ตอนนั้นเป็นผมที่เลือกไม่เชื่อเธอ ตอนนี้มีสิทธิ์อะไรที่จะไปตามเธอกลับมา”
หากตอนนั้นเขาเชื่อคำพูดของสาริศา ก็คงไม่เกิดเรื่องราวมากมายเช่นนี้ และลูกของพวกเขาก็คงจะยังอยู่ เขากระทำความผิดที่ไม่อาจให้อภัยได้เช่นนี้ แม้แต่ตัวเองยังไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ แล้วเขาจะกล้าขอร้องสาริศาให้กลับมาหาเขาได้อย่างไรอีก
ได้ยินดังนั้นท่านประเสริฐก็โกรธขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจ รู้สึกโมโหที่ไม่ได้ดั่งใจ
“แกคิดแบบนี้ได้ยังไง เป็นผู้ชายต้องกล้าที่จะเผชิญกับความผิดพลาดของตัวเอง และก็เพราะสำนึกผิดแล้ว แกถึงต้องตามสาริศากลับมา แล้วใช้ชีวิตที่เหลือชดเชยในสิ่งที่แกเคยกระทำผิดต่อเธอ”
อย่างนั้นเหรอ ได้ยินท่านประเสริฐพูดเช่นนี้ จิตใจธนพัตก็เกิดความไม่มั่นใจ เขาสามารถตามสาริศากลับมาได้อีกครั้งจริงเหรอ แล้วเธอจะยังชอบตัวเองเหรอ
เห็นแววตาที่สับสนของธนพัต ท่านประเสริฐเองก็รู็สึกอึดอัด ความรักของเด็กสองคนนี้ต่างประสบความทุกข์ทรมานมามากแล้ว โดยเฉพาะริศา
เพราะความผิดพลาดของพวกเขาในตอนนั้น สาริศาต้องเสียลูกของตัวเองไป และก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายเธอจะยอมให้อภัยธนพัตไหม
ท่านประเสริฐกล่าวต่อ “พัท หลายปีแล้ว ปู่รู้ว่าแกลืมริศาไม่ได้ ถ้าหากชีวิตนี้คิดว่าเธอคือคนที่ใช่ อย่างนั้นแกก็ไม่ต้องไปคิดเรื่องอดีตเหล่านั้นอีก มัวแต่ห่วงหน้าพะวงหลังแบบนี้ รังแต่จะทำให้พวกแกสองคนเสียเวลา”
“แกเชื่อปู่สิ ไปขอโทษเธอดี ๆ จากนั้นตามเธอกลับมา หลายปีแล้ว เธอก็ยังไม่ได้แต่งงานใหม่ ปู่ว่า ในใจของเธอน่าจะยังมีแกอยู่”
คำพูดท่านประเสริฐวนเวียนอยู่ในใจไม่หยุดหย่อน ธนพัตมีความรู้สึกโล่งใจ ใช่ ตัวเองนั่งคิดอยู่ตรงนี้จะมีประโยชน์อะไร สาริศาจะให้อภัยตัวเองหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับความพยายามของตัวเองถึงจะรู้
ต่อให้ในใจเธอจะไม่มีตัวเองแล้ว เขาก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรั้งสาริศากลับมา จะไม่ทิ้งความเสียใจให้กับตัวเอง
นึกถึงครั้งก่อนที่อธิบายให้กับสาริศาตอนที่อยู่บนเรือสำราญ ขอให้เธอกลับมาอยู่กับตัวเองนั้น ดวงตาที่เธอมองมาที่ตัวเองมีมิตรภาพอย่างชัดเจน ความหวังจึงได้ผุดขึ้นในหัวใจของธนพัต บางทีคุณปู่อาจจะพูดถูก ในใจของสาริศาอาจจะยังมีเขาอยู่
เมื่อคิดตกได้แล้ว ธนพัตก็ไม่ลังเลอีก หัวใจที่อยู่ในสภาพสับสนมาโดยตลอด ก็ได้ชัดเจนขึ้นในเวลานี้ ในใจของเขาตอนนี้ มีเพียงความคิดเดียวคือจะต้องออกไปหาสาริศา เขาจะต้องเจอสาริศาเดี๋ยวนี้
“ทราบแล้วครับคุณปู่ ผมจะไปตามหาเธอเดี๋ยวนี้” เมื่อกล่าวจบธนพัตก็สาวเท้าก้าวยาวเดินออกจากห้องทำงาน โดยไม่แม้แต่รอฟังคำตอบจากท่านประเสริฐ
รู้ว่าในใจเขารีบร้อน ท่านประเสริฐก็ไม่ได้ถือสา หลานของเขาคนนี้ได้มอบหัวใจทั้งดวงให้กับสาริศา หวังว่าเด็กสาวคนนั้นจะยอมให้อภัยเขา
เมื่อออกจากบริษัท ธนพัตก็ขับรถปานจรวดมุ่งหน้ามาที่สำนักพิมพ์ของสาริศา
ทันทีที่เข้ามาสำนักพิมพ์ ธนพัตก็เห็นถึงใบหน้าที่คุ้นเคย เขาจำได้ว่าเธอน่าจะชื่อเมย์ เคยได้ยินสาริศาเคยเอ่ยถึงเธอมาก่อน ทั้งสองคนน่าจะเข้ากันได้ดีทีเดียว
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณสาริศาอยู่ไหมครับ” ธนพัตก้าวมาข้างหน้าอย่างรีบร้อน ดึงเมย์แล้วถามขึ้น
แน่นอนว่าธนพัตสำหรับเมย์แล้วไม่ใช่คนแปลกหน้า วินาทีที่เงยหน้าขึ้นมองเขาก็ตกใจชะงักค้างแล้ว เขามาที่สำนักพิมพ์ทำไม แต่ร่างกายกลับตอบสนองด้วยการยื่นมือแล้วชี้ไปทางห้องทำงานของสาริศาอย่างไม่รู้ตัว
“ขอบคุณครับ” ทิ้งประโยคขอบคุณแล้ว ธนพัตก็รีบเดินมุ่งไปยังห้องทำงานของสาริศา
จนร่างธนพัตหายลับไปจากหน้าของตัวเอง เมย์ถึงได้รู้สึกตัว เมื่อกี้คือธนพัตเหรอ! นึกถึงธนพัตทิ้งสาริศาเมื่อห้าปีก่อน ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความโกรธแลความเสียใจ
ผู้ชายเฮงซวยคนนี้ เมื่อกี้ตัวเองน่าจะไล่เขาให้ออกไป ทำไมถึงไปบอกกับเขาว่าพี่ริศาอยู่ที่ไหน ต้องโทษที่เขาปรากฏตัวอย่างกะทันหันเลย
ในขณะเดียวกัน พนักงานคนอื่น ๆ ของสำนักพิมพ์เห็นร่างของธนพัต ต่างระเบิดขึ้นทันที
“ฉันเห็นไม่ผิดใช่ไหม เมื่อกี้คนนั้นคือคุณธนพัตใช่ไหม”
แต่ยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ถูกเสียงสาริศาที่ดังลอยมาจากด้านในขัดจังหวะขึ้น
“พี่ ให้เขาเข้ามาเถอะ”
สาริศาพูดขนาดนี้แล้ว ชัชวาลจะขวางเขาก็ไม่ได้ จึงได้ให้ธนพัตเข้ามาในห้องทำงานแต่โดยดี เพียงแต่ว่าแววตานั้นเต็มไปด้วยความระแวดระวัง
หากธนพัตกล้าจะทำร้ายสาริศาแม้แต่ปลายผม เขาไม่มีทางปล่อยเขาอย่างแน่นอน!
สาริศาไม่ได้รู้สึกแปลกใจมาก ซึ่งต่างจากชัชวาลที่มีการป้องกัน เหมือนเธอรู้อยู่แล้วว่าธนพัตจะต้องมาหาตัวเองอย่างแน่นอน
ส่งบุรินทร์เข้าเรือนจำ เรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่มา
เดินมาถึงด้านหน้าของสาริศา ธนพัตในที่สุดก็เห็นใบหน้าที่ตัวเองพร่ำเพ้อถวิลหา ที่อยู่ในชุดสูทสีดำ เธอดูเข้มแข็งกว่าเมื่อก่อนมาก และดวงตาของเธอก็เฉียบคมกว่าเมื่อก่อนเช่นกัน
“พี่ พี่ออกไปก่อนเถอะนะ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเขา” ไม่ได้มองธนพัต สาริศากล่าวแล้วยิ้มให้กับชัชวาล
“ริศา……” ชัชวาลกลับลังเล ไม่ขยับตัว
รู้ว่าชัชวาลกำลังเป็นห่วงตัวเอง สาริศาส่งสายตาให้เขาว่าไม่ต้องเป็นห่วง “ไม่เป็นไรค่ะพี่ พี่ออกไปก่อนเถอะ”
เห็นสาริศายืนกราน ชัชวาลจึงได้แต่หันหลังออกไป ก่อนจะออกไปได้ทิ้งไว้หนึ่งประโยค “มีเรื่องให้โทรหาพี่ พี่รออยู่ด้านล่างตึก”
จึงเหลือซึ่งไว้เพียงสองคนในห้องทำงาน สาริศาเงยหน้าขึ้นมามองทางธนพัต สายตาเย็นชา “คุณมาทำไม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...