เมื่อสาริศาได้ยินคำพูดของธนพัตแล้วก็พลันหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
ธนพัตเป็นคนตลกจริงๆ สามารถนำเหตุการณ์การจดทะเบียนสมรสในครั้งแรกมารวมกับตอนนี้ได้
หลังจากสาริศาตอบรับเสร็จก็รีบลุกขึ้นเตรียมตัว วันนี้จะเป็นวันที่พวกเราจดทะเบียนสมรสกัน สาริศาจึงต้องแต่งตัวให้สวยงาม
สาริศาสวมชุดสีม่วงที่เธอชื่นชอบ จากนั้นขับรถออกจากโรงรถ ตั้งใจจะออกไป
แต่เวลานี้กลับถูกธีร์เรียกรั้งไว้
“หม่าม๊า...จะไปไหนครับ” ธีร์ยังคงงัวเงียอยู่เล็กน้อย มองสาริศาที่รีบร้อนและถามอย่างไม่เข้าใจ
“วันนี้ปะป๊ากับหม่าม๊าจะไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานกิจการพลเรือน ธีร์เป็นเด็กดีอยู่บ้านนะครับ”
สาริศาพูดประโยคนี้จบ ก็ก้าวเข้าไปลูบศีรษะของธีร์ ไม่รอให้ธีร์ตอบก็วิ่งออกไปเลย
เพราะเธอรู้ว่าพี่เลี้ยงที่บ้านจะดูแลเขาอย่างดี ธีร์ซึ่งถูกสาริศาลูบศีรษะครู่หนึ่งตื่นเต็มตา แต่ก็ไม่เห็นเงาของสาริศาแล้ว
ธีร์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ แล้วขึ้นชั้นบนไปนอนบนเตียงต่อให้เต็มอิ่ม
เมื่อไปถึงสำนักงานกิจการพลเรือน มันเป็นเวลาสามสิบนาทีต่อมา
เมื่อสาริศาเห็นเนกไทสีม่วงที่คอของธนพัต จึงยิ้มอย่างรู้เท่าทัน
ธนพัตเห็นชุดเดรสสีม่วงที่สาริศาใส่อยู่ ก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนด้วยเช่นกัน
เขารู้ว่าเธอต้องสวมชุดเดรสสีม่วงแน่นอน ดังนั้นถึงได้ใส่เนกไทสีม่วง ดูเหมือนว่าการเดาของตัวเองจะไม่ผิด
“อรุณสวัสดิ์ที่รัก” ธนพัตก้าวเข้าไปกอดสาริศาแน่น ปลายจมูกมีแต่กลิ่นหอมหวานสดชื่นของสาริศา
หลังจากธนพัตดอมดมแล้ว ไม่รู้ทำไม มันรู้สึกเต็มไปด้วยความสุข
หรือสาเหตุเพราะความหอมหวานนุ่มนวลในอ้อมแขน
“เอาล่ะ เข้าไปกันเถอะ” สาริศาเห็นว่าธนพัตยังคงกอดตัวเองอยู่ จึงดันเขาออก แล้วเดินควงแขนธนพัตเข้าไป
“รีบเหรอ”
ธนพัตหยอกล้อสาริศาแล้วเริ่มถ่ายรูป
หลังจากผ่านขั้นตอนทางการแล้ว ทั้งสองจึงได้มีทะเบียนสมรสสีแดงอยู่ในมือ
เมื่อมองดูทะเบียนสมรสในมือของกันและกัน บนใบหน้าทั้งคู่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มมีความสุข หลายปีผ่านไป ในที่สุดพวกเขาก็ได้อยู่ร่วมกันและแต่งงานกันสมปรารถนา
การจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องของช่วงเวลาสั้นๆ แต่การพยายามไม่ให้ใบทะเบียนสมรสนี้กลายเป็นของเสียถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไปตลอดชีวิต
ทั้งสองสบตากัน เชื่อว่าทั้งคู่สามารถประคับประคองรักใคร่กลมเกลียวกันได้และจะไม่แยกจากกันชั่วชีวิต
ธนพัตก้าวเข้าไปทีละก้าว แล้วครอบครองริมฝีปากเล็กของสาริศา กดย้ำซ้ำๆ
นี่คือสิ่งที่ธนพัตรอคอยมานานแสนนาน
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้ด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ตอนนี้พวกเขาเอาชนะทุกอย่างแล้ว กลับไปยังจุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้าครั้งที่สองระหว่างทั้งคู่ และทบทวนอีกครั้ง
สาริศาดิ้นรนผลักธนพัตออก และยิ้มเยาะเล็กน้อย
“เมื่อครู่ยังบอกฉันรีบ ตอนนี้คุณไม่รีบเลยมั้ง”
เมื่อธนพัตได้ยินประโยคนี้ ก็เอาแขนโอบรอบเอวของสาริศา และพูดคำหนึ่งที่ข้างหูเธอ ทำให้ใบหน้าของสาริศาแดงขึ้นทันที
“ผมรีบ รีบร้อนอยากได้คุณ”
เมื่อทั้งสองกลับบ้าน ธีร์เห็นพวกเขา และรู้ว่าพวกเขาในเวลานี้อารมณ์ดีกันแค่ไหน
ธีร์ก้าวเข้าไปและยื่นมือไปหาสาริศา แล้วเอ่ยถามทั้งธนพัตและสาริศาที่สีหน้างุนงง
“ปะป๊ากับหม่าหม๊าแต่งงานกันแล้ว ก็ต้องให้ซองแดงไม่ใช่เหรอครับ”
ธีร์มองพวกเขาที่ไอคิวโง่เขลาด้วยสีหน้ารังเกียจ และยังยื่นมือต่อไป
ในท้ายที่สุด สาริศารู้กระบวนการทั้งหมดและได้ซ้อมกับธนพัตเรียบร้อยแล้ว ตนยังต้องกังวลอะไรอีก!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สาริศาก็หลับตาลงและผล็อยหลับไป
เป็นครั้งแรกที่สาริศาผล็อยหลับไปท่ามกลางความสบายใจ ทำให้ธนพัตอดรู้สึกขำไม่ได้
“คุณภรรยา”
“ตื่นได้แล้ว”
หนวกหูจัง!
“คุณภรรยา วันนี้เป็นวันสำคัญนะ”
สาริศากำลังอยู่ในห้วงฝัน เมื่อได้ยินคนเรียกชื่อของตัวเองอยู่ข้างหูตลอดเวลา จึงรู้สึกหงุดหงิดใจ
“คุณภรรยา”
เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ราวกับอยู่ชิดริมหู
“คณภรรยา วันนี้เราจะแต่งงานกันนะ”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ สาริศาก็ลุกขึ้นนั่งทันที นั่นสิ วันนี้พวกเขาจะแต่งงานกัน!
หลังจากรู้เรื่องนี้ สาริศาก็รีบวิ่งลงจากเตียง แล้วค้นหาชุดของตัวเองในห้อง
เมื่อเห็นภาพนี้ธนพัตก็ถึงขั้นอ่อนใจ
“ที่รักกำลังเล่นวิ่งเปลือยกายเหรอ”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ สาริศาก็ก้มลงมองดูร่างกายตัวเองโดยอัตโนมัติ ใส่แค่กางเกงชั้นในตัวเดียว!
สาริศารู้สึกอับอายมากจนไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ได้แต่มองธนพัตค่อยๆ เดินเข้ามาหาพร้อมกับยกทรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานเย็น กรุ่นใจ
สวย แต่ โง่ดักดาน แล้วไงคุณนางเอก...
ทำไมนางเอกต้องเป็นควายตลอด...