หวนเวลามาพบท่าน นิยาย บท 5

จุดจบของการทำร้ายแม่นมจางก็คือไม่มีข้าวเย็นกิน

ไห่ถังไปถามที่ห้องครัว คนของห้องครัวกล่าวว่าฮูหยินมีคำสั่งว่ามื้อค่ำนี้จะไม่มีการจัดสำรับอาหารให้กับเรือนหลีฮวา

ภายในเรือนหลีฮวา นอกจากไห่ถังและแม่นมจางแล้วก็ยังมีสาวใช้อีกสามคน และแม้แต่พวกนางสามคนก็จะไม่ได้ทานอาหารไปด้วยเช่นกัน

เดิมทีพวกนางเชื่อฟังเพียงคำสั่งของแม่นมจางคนเดียวเท่านั้น ตอนนี้เฝิงจื่อซูดันมาทำให้พวกนางไม่มีข้าวกิน ทำให้พวกนางรู้สึกโกรธเคือง

ไห่ถังกล่าวกับเฝิงจื่อซูด้วยความกังวล “วันนี้ไม่มีข้าวให้กิน หากพรุ่งนี้ก็ไม่มีจะทำอย่างไรดี?”

“ฟ้อง!” เฝิงจื่อซูล้วงหาอะไรไปมาภายในลิ้นชักจนเกิดเสียงดัง

“ฟ้อง? ท่านกั๋วกงไม่ชอบให้คนอื่นไปฟ้องนี่เจ้าคะ” ไห่ถังกระซิบ

ในที่สุดเฝิงจื่อซูก็ล้วงแส้เส้นหนึ่งออกมาจากลิ้นชักและกล่าวว่า “ในที่สุดก็หาเจอ”

ไห่ถังมองแส้ที่อยู่ในมือของนาง “แส้เส้นนี้นำกลับมาจากชิงโจวไม่ใช่หรือเจ้าคะ? ฮูหยินกล่าวว่าเป็นผู้หญิงไม่ควรใช้กำลัง ไม่เช่นนั้นจะถูกคนอื่นดูถูกเอาได้ ฉะนั้นคุณหนูเก็บไว้ในลิ้นชักอย่างเดิมจะดีกว่าเจ้าค่ะ”

เฝิงจื่อซูคล้องแส้ไว้ที่เอว “เสี่ยวไห่ถัง เป็นผู้หญิงไม่ควรใช้กำลังก็ถูกแล้ว แต่หากถูกคนอื่นรังแกแล้วยังไม่ต่อสู้กลับเรียกว่าโง่ ตายไปก็ไม่มีใครสงสาร”

ชาติที่แล้ว นางก็เป็นเช่นนี้

“แต่” เฝิงจื่อซูยิ้มและสะบัดแส้ “จัดการกับปัญหาการกินข้าว ไม่จำเป็นต้องใช้กำลังการต่อสู้”

ไห่ถังมองนางด้วยความประหลาดใจ

“ออกไปดูว่าท่านพ่อจะกลับมาเมื่อไร” เฝิงจื่อซูหยิกแก้มน้อยๆ ของนาง “หากท่านพ่อกลับมาให้รีบมาบอกข้า”

“คุณหนูคิดจะทำอะไรหรือเจ้าคะ?” ไห่ถังถามด้วยความสงสัย

“ไปเถอะ มัวพูดมากอยู่ทำไม?” เฝิงจื่อซูนั่งลงและค่อยๆ ดึงหนามที่ติดแส้ออก นี่คือแส้ที่อาจารย์มอบให้กับนางและบริเวณด้ามของแส้ก็มีชื่อของนางสลักเอาไว้

ลูกศิษย์จื่อซู!

เมื่อชาติก่อน นางก็เพิ่งจะรู้ตัวตนของอาจารย์หลังจากที่นางแต่งงานเข้าไปอยู่ในตระกูลหานแล้วเช่นกัน

หานเหวินเซวียนไม่ชอบอาจารย์ ฉะนั้นจึงไม่อนุญาตให้นางยุ่งเกี่ยวกับอาจารย์ นางก็ดันเชื่อฟังเขาและตัดความสัมพันธ์กับอาจารย์ ทำให้อาจารย์เสียใจอย่างมาก

นึกถึงเมื่อตอนที่กำลังจะแต่งงาน อาจารย์ที่ยังไม่รู้ความคิดของนางและได้นำของขวัญจำนวนมากมามอบให้ แต่ถูกนางปล่อยให้รออยู่ที่ภายนอกห้องโถงหลักกว่าหนึ่งชั่วยาม

หลังจากนั้น หานเหวินเซวียนก็ไปบอกเขาว่าคนของจวนเจียงหนิงโหวไม่คบค้ากับคนอย่างเขา ตอนนั้นนางแอบหลบซ่อนอยู่ภายนอกและมองเห็นใบหน้าที่ผิดหวังของอาจารย์ ตอนนี้เมื่อนึกถึงก็แทบอดไม่ได้อยากตบหน้าตัวเองสักสองสามครั้ง

ยึดติดอยู่กับเรื่องราวในชาติก่อน ทำให้นางแทบไม่สามารถปลดปล่อยตัวเองออกมาได้

ครึ่งชั่วยามผ่านไปไห่ถังก็กลับมา “คุณหนู นายท่านกั๋วกงกลับมาแล้ว ตอนนี้อยู่ที่เรือนหย่งหมิงเจ้าค่ะ”

เฝิงจื่อซูลุกขึ้นช้าๆ “ตามข้าไปที่นั่น”

“เจ้าค่ะ!” แม้ว่าไห่ถังจะไม่รู้ว่านางไปที่นั่นทำไม แต่ก็คิดว่าคุณหนูจะต้องมีเหตุผลของนางอย่างแน่นอน

เฝิงจื่อซูรู้ว่าหากท่านพ่อกลับมาช้า นางซั่งกวนจะต้องเก็บอาหารมื้อดึกเตรียมไว้อย่างแน่นอน

ในเมื่อเรือนหลีฮวาไม่จัดเตรียมอาหารค่ำ เช่นนั้นนางก็จะไปขอข้าวกิน

ปัจจุบันเฝิงกั๋วกงดำรงตำแหน่งรองผู้ตรวจการ ณ ศาลาว่าการกำกับการ ชื่อเดิมของผู้ตรวจการที่ศาลาว่าการคือ ประตูทั้งแปดทิศ ที่คอยทำการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่กระทำการทุจริตโดยเฉพาะ ช่วงนี้ฝ่าบาทยังมีพระราชโองการให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่เมืองฝูโจวและเจ้าหน้าที่เมืองหลวงที่ทำการทุจริตสมรู้ร่วมคิดกัน ฉะนั้นเฝิงกั๋วกงจึงต้องออกไปทำงานแต่เช้าและกลับมาค่ำมืดดึกดื่น

ศาลาว่าการมีการจัดเตรียมเรื่องอาหารการกิน ทว่าอาหารที่นั่นไม่อร่อย ผู้ตรวจการจึงต้องทำตัวเป็นแบบอย่างเพื่อต่อสู้กับการทุจริตและส่งเสริมความซื่อตรง ฉะนั้นจึงเริ่มจากเรื่องการทานอาหาร

จื่อซูกล่าว “ไม่ต้องลำบาก ข้าคิดว่าท่านพ่อคงทานไม่หมดอย่างแน่นอน”

เฝิงกั๋วกงจ้องมองนางอย่างสงสัยและมองไปที่นางซั่งกวนด้วยแววตาที่ไม่พอใจเล็กน้อย ทว่าเขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่โบกมือให้สาวใช้หลิงไปหยิบถ้วยและตะเกียบเข้ามา

สาวใช้หลิงจึงจำเป็นต้องไปหยิบถ้วยและตะเกียบ

อาหารมื้อนี้เฝิงกั๋วกงไม่ได้พูดอะไร จื่อซูเองก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ก้มหน้าก้มตาทานอาหารอย่างขมขื่น นางกินเข้าไปอย่างมูมมาม ทว่าก็ไม่ได้ทานเยอะเกินไป กับข้าวสามอย่างนางกินไปเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น และอีกครึ่งหนึ่งนางก็ไม่ได้แตะต้อง

หลังจากเฝิงกั๋วกงทานไปได้ไม่เท่าไรก็หยุดลงและมองนางรับประทาน รอให้นางทานเสร็จก็ถามขึ้นมา “คืนนี้เจ้าดูหิวเช่นนี้ เจ้าไม่ได้กินอาหารค่ำมาก่อนหรืออย่างไร?”

จื่อซูเช็ดมุมปากของนางด้วยผ้าเช็ดหน้า จิบชาและลุกขึ้นยืนยิ้มให้กับเขา “ทำร้ายแม่นมจางเข้า ฮูหยินเลยสั่งไม่ให้ข้าทานอาหารค่ำ คาดว่าสองสามวันนี้ก็คงไม่มี พรุ่งนี้ข้าจะกลับมาอีกครั้ง”

“เดี๋ยวก่อน!” แววตาของเฝิงกั๋วกงมืดลงและมองไปที่ลูกสาวที่ไม่ค่อยกล้าพูดคุยกับตัวเอง “เหตุใดเจ้าถึงทำร้ายแม่นมจาง?”

จื่อซูยิ้มอย่างเย็นชา “เพราะข้าไม่ยอมเป็นภรรยารองของหานเหวินเซวียน”

“เหตุใดเจ้าถึงต้องเป็นภรรยารองของหานเหวินเซวียน?” เฝิงกั๋วกงพูดเสียงสูงและรู้สึกโมโหเล็กน้อย

นางซั่งกวนตกใจจนหน้าซีดเผือด “จื่อซู เจ้าหยุดพูดจาเหลวไหลเดี๋ยวนี้ ใครบอกให้เจ้าเป็นภรรยารองของหานเหวินเซวียน? เฟยเอ๋อร์ต่างหากที่เป็นภรรยารอง เจ้าเป็นภรรยาเอก”

จื่อซูมองหน้านาง “จริงหรือ? แต่วันนี้พวกท่านไม่ได้พูดกับข้าเช่นนี้ ท่านบอกว่าเฟยเอ๋อร์ตั้งครรภ์ลูกของหานเหวินเซวียนแล้ว และให้ข้ายกตำแหน่งนั้นให้กับนาง ข้าไม่ยอม และพวกท่านก็กล่าวหาว่าข้าใจร้ายและไร้ความปรานี ไม่คิดถึงหัวอกของคนเป็นพ่อ และยังบอกว่าตอนนี้แม่ทัพซั่งกวนเป็นที่รักและโปรดปรานขององค์จักรพรรดิ ท่านพ่อจำเป็นต้องดึงเขาเข้าพวก เมื่อกลับมาถึงเรือนหลีฮวา แม้แต่แม่นมจางก็บอกว่าข้าโง่ ข้าไม่กล้าลงมือกับพวกท่าน คิดว่าไม่กล้าลงมือกับคนแก่คนเดียวอย่างนั้นหรือ? แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทำไม่ได้ เพราะทำร้ายหญิงชราคนนั้นไปแล้ว คุณหนูลูกภรรยาเอกอย่างข้าในจวนกั๋วกงแห่งนี้ก็ไม่มีแม้แต่ข้าวให้กิน”

เฝิงกั๋วกงมองนางเงียบๆ และกล่าวออกมา “ต่อไปหากใครรังแกเจ้า เจ้าก็มาบอกข้า”

จื่อซูยิ้ม “ไม่จำเป็น ใครรังแกข้า ข้าแค่รังแกกลับก็เท่านั้น”

เมื่อพูดจบนางก็แสดงความเคารพและเดินออกไป โดยไม่ให้โอกาสนางซั่งกวนได้อธิบายแม้แต่นิดเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวนเวลามาพบท่าน