หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 1039

วินาทีถัดมาเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยวก็ดังขึ้นข้างหูอชิ “แม่งเอ๊ย! ไอ้เด็กเวรนี่! กล้าดียังไงที่ทำแบบนี้!”

ดวงตาของวัยรุ่นคนนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจากสิ่งที่อชิลงมือ เขาโมโหมาก

เมื่อได้ยินเสียงโวยวายของเขา วัยรุ่นคนอื่นๆ ก็เริ่มระมัดระวังตัวทันที

แม้พวกกลุ่มวัยรุ่นอันธพาลจะระแวดระวังกลอุบายเล็กๆ น้อยๆ ของพวกเด็กๆ แต่เด็กชายทั้งสองก็ยังกล้าที่จะโต้กลับพวกเขา

ก้อนกรวดบนพื้นยังคงรัวใส่กลุ่มชายร่างสูงอย่างต่อเนื่อง

พวกเขาต่างกลัวว่าก้อนกรวดเหล่านั้นจะกระเด็นเข้าตาของตน ดังนั้นพวกเขาจึงหลบเหล่าก้อนกรวดที่พุ่งใส่พวกเขาตามสัญชาตญาณ

ดังนั้นนี่จึงเป็นโอกาสที่ดีของสองพี่น้อง

อชิรีบลุกขึ้น คว้าก้อนกรวดจำนวนนึ่งยัดใส่มือเบนนี่ก่อนที่ทั้งคู่จะมุดลอดช่องว่างระหว่างโจรเหล่านั้นหนีออกไปได้

ที่ด้านหลังเด็กทั้งสอง กลุ่มวัยรุ่นอันธพาลที่ตั้งสติได้นั้นก็รีบวิ่งตามหลังเด็กๆ มา

อชิวิ่งตรงไปข้างหน้าพร้อมกันหันไปเขวี้ยงก้อนหินใส่พวกมันบ้างเป็นบางครั้งเพื่อชะลอความเร็วพวกมัน

อชิและเบนนี่ใช้ความพยายามทั้งหมดไปกับการวิ่งไปยังสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา

ในที่สุดพวกเขาก็วิ่งมาถึงชุมชนมีผู้คนเดินขวักไขว่ไขว่าไปมา วัยรุ่นพวกนั้นไม่สามารถวิ่งไล่ตามเด็กชายทั้งสองท่ามกลางผู้คนมากมายได้ พวกมันจึงทำได้แค่ยืนมองดูอยู่ไกลๆ ขณะที่อชิและเบนนี่พยายามเข้าไปในกลุ่มฝูงชนขวักไขว่เหล่านั้น

“อชิ…” เบนนี่ที่หอบหายใจหลังจากวิ่งมาเป็นเวลานาน “พวกนั้นมันเป็นใครกัน? ทำไมถึงทำแบบนั้นกับพวกเราล่ะ?”

อชิขมวดคิ้วกับคำถามนั้นขณะที่นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของกลุ่มโจร พวกเขาโดนจ้างมา แต่อชิเองก็นึกไม่ออกเช่นกันว่าใครเป็นคนจ่ายเงินว่าจ้างพวกเขา

หลังจากใช้เวลาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อชิก็ยังคงไม่พบคำตอบ เขาส่ายหน้าให้เบนนี่เป็นคำตอบและพูดว่า “เราควรรีบกลับได้แล้ว เพราะพวกมันอาจรอดักเจอเราอยู่ที่อื่น!”

เบนนี่นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้าและพยักหน้าด้วยความร้อนรน เขายังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในใจ

ดังนั้นอชิและเบนนี่จึงเดินจูงมือกันออกจากชุมชนและออกจากจุดนั้นด้วยทางออกอื่นๆ

พวกเขาเรียกรถแท็กซี่และมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน เป็นเวลามืดสนิทแล้วตอนที่เด็กชายทั้งสองถึงบ้าน

อชิและเบนนี่ค่อยๆ ย่องเบาๆ เข้าไปในบ้าน

อชิและเบนนี่ทำทีเหมือนว่าพวกเขาเพิ่งตื่นขณะที่ขยี้ตาด้วยความงัวเงีย

รษิกายิ้มให้พวกเขา “ลูกๆ เป็นยังไงกันบ้าง? ยังปวดหัวกันอยู่หรือเปล่า?”

ทั้งคู่รีบส่ายหน้า “ไม่ปวดแล้วครับ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น รษิกาก็เชื่อและเอ่ยขึ้นว่า “แม่ได้ยินจากคุณลิสามาว่าลูกนอนทั้งวันและยังไม่ได้กินอะไรเลย ลูกหิวกันแล้วใช่ไหม? มาเถอะเดี๋ยวแม่จะพาลงไปกินข้าวข้างล่าง”

รษิกาต้องการพาพวกเขาลงไปที่ชั้นล่าง

อชิและเบนนี่นึกขึ้นได้ว่าพวกเขามีรอยแผลที่แขน ดังนั้นเด็กชายทั้งสองจึงไม่ยอมลุกจากเตียงต่อหน้าแม่ของพวกเขา “คุณแม่ครับเดี๋ยวพวกเราตามลงไปข้างล่างทีหลังครับ”

รษิกาขมวดคิ้ว แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เธอเพียงแค่เร่งพวกเขาโดยการพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็รีบลงไปนะ”

เด็กๆ พยักหน้าตอบรับอย่างเชื่อฟัง

รษิกาไม่ได้พูดอะไรต่อและเดินลงบันไดไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม