เมื่อเผชิญกับข้อกล่าวหาของเลอศิลป์ ทุกคนก็รีบอธิบายว่า “ได้ผลครับ! ตอนที่คุณอยู่ข้างในคลื่นสมองของคุณรษิกาผันผวนอย่างมาก!”
แววตาของเลอศิลป์ดูน่ากลัวขึ้นมามาก “ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงยังไม่ฟื้น?”
เมื่อเจอคำถามนั้น ผู้เชี่ยวชาญก็มองหน้ากัน “เพราะ… การกระตุ้นยังไม่มากพอ คุณต้องพูดถึงสิ่งที่เธอสนใจก่อนหน้านี้ เราทุกคนรู้สึกว่าเธอใกล้จะฟื้นคืนสติแล้ว”
หลังจากคำพูดนั้น สีหน้าของเลอศิลป์ก็เย็นชายิ่งขึ้นไปอีก
มันทำให้พวกเขาไม่มีข้อสงสัยเลยว่าชายคนนั้นจะไล่พวกเขาออก หากพวกเขายังรีรอที่จะเสนอวิธีแก้ปัญหาต่อไป
“เราขอแนะนำให้ลูกสองคนของคุณรษิกามาคุยกับเธอ บางทีเธอคงจะฟื้นขึ้นมาได้”
ผู้เชี่ยวชาญจำคำคัดค้านของเลอศิลป์ก่อนหน้านี้ได้ดี ดังนั้นเขาจึงดูระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
ให้อชิและเบนนี่มาเหรอ?
การขมวดคิ้วทำให้สีหน้าของเลอศิลป์บูดบึ้ง และความขุ่นเคืองก็เต็มเปี่ยมในดวงตาของเขา
ตอนนี้เธอหมดสติไปแล้ว แต่ถ้าเธอฟื้นมา เธอคงไม่อยากให้เด็กๆ ทั้งสองเห็นเธอในสภาพนี้อย่างแน่นอน เธอคงไม่อยากให้พวกเขากังวล แต่จากที่ผู้เชี่ยวชาญบอกมา นั่นเป็นวิธีเดียวที่เหลืออยู่
“ผมเข้าใจความกังวลของคุณ คุณเลอศิลป์ แต่หากคุณรษิกายังคงหมดสติอยู่ เด็กๆ ก็จะได้รู้เรื่องนี้ไม่ช้าก็เร็ว ยิ่งพวกเขารู้เรื่องนี้ช้ามากเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้นเท่านั้น”
ผู้เชี่ยวชาญกัดฟันยืนกรานที่จะให้เด็กๆ เข้ามาให้ได้
สายตาของเลอศิลป์หม่นลงครั้งแล้วครั้งเล่า
สักพักเขาก็ยอมจำนน “เข้าใจแล้ว”
"ถ้างั้น..."
ผู้เชี่ยวชาญกำลังจะพูดต่อเมื่อชายที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาจู่ๆ ก็หันหลังกลับเข้าไปในห้องพักฟื้น
เมื่อเห็นเช่นนั้น พวกเขาก็สบตากันอย่างสับสน
ก่อนกลับเข้าไปในห้อง เขาบอกแค่ว่า "เข้าใจแล้ว" นั่นมันหมายความว่ายังไง? เขาจะพาลูกสองคนของเธอมาหรือเปล่า?
ในห้องพักฟื้น เลอศิลป์ยืนอยู่ข้างรษิกาและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “หมอแนะนำให้ผมพาอชิกับเบนนี่มาคุยกับคุณ คุณคงไม่อยากให้พวกเขารู้เรื่องนี้ใช่ไหม?”
ถ้าเป็นอย่างนั้น เขาจะให้เด็กสองคนไปที่โรงพยาบาลทำไม? ถ้าเห็นแม่หมดสติ พวกเขาจะร้องไห้อย่างแน่นอน
ชั่วพริบตา ความรู้สึกผิดที่เขาพยายามอย่างหนักที่จะระงับไว้ก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง
เนื่องจากรษิกายังไม่รู้สึกตัว จึงอาจจะเป็นไปได้ว่าเลอศิลป์คงอารมณ์ไม่ดี
ครรชิตไม่กล้าถามคำถามอีกต่อไป เขาพึมพำเป็นการรับทราบ จากนั้น เขาก็ลุกขึ้นและมุ่งหน้าไปที่บ้านของรษิกา
ในขณะเดียวกันอชิและเบนนี่ยังไม่เข้านอน พวกเขายังคงนั่งอยู่บนโซฟารอให้แม่กลับบ้าน
อย่างไรก็ตาม อีกไม่นานก็จะสามทุ่มครึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของรษิกาเลย พวกเขาโทรหาเธอ แต่โทรศัพท์ของเธอก็ปิดอยู่
แท้จริงแล้วพวกเขาทั้งสองต่างหวาดกลัวและวิตกกังวล
“มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับแม่หรือเปล่า? อชิ” เบนนี่คว้ามือพี่ชายของเขาอย่างประหม่า
อชิกัดปาก หัวใจของเขาหนักอึ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
👍🏻...
....
จบดื้อๆเฉยๆ งงมากค่าาาา...
ขาด 1867,1868...
ขาด1860, 1861...
ขาด1804...
อัพๆๆ ค่ะ แอดดดดดดด แอดดดดดดดด อัพๆๆๆ ค่ะ แอดดดดด ^_^...
ขาด1773,1774...
ขาด1768,1770...
ขาด1663,1664,1665,1666,1668...