หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม นิยาย บท 1425

ใบหูของรษิกาแดงก่ำขณะคิดว่าชายหนุ่มหมายความว่าอย่างไรตอนที่พูดคำว่า “รับผิดชอบ” เธอชำเลืองมองเด็กๆ อย่างรู้สึกผิด

เด็กๆ ก็รู้ทัน แต่ทำเป็นไม่ได้ยินและกินอาหารต่อ

รษิกาถอนหายใจเฮือกและมองเลอศิลป์อย่างขัดเขิน “ฉันต้องการเวลาไตร่ตรองอีกหน่อย!”

เลอศิลป์ยักไหล่ก่อนจะยิ้มให้ “งั้นผมก็แค่ตามจีบคุณให้มากขึ้น”

เด็กๆ ลิงโลดอยู่ในใจเมื่อได้ยินพ่อแม่ของพวกเขาคุยกัน

สงสัยจังว่าแม่รู้ตัวไหมว่าท่าทีของแม่ที่มีต่อพ่อน่ะเปลี่ยนไปเยอะ ด้วยความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วแบบนี้ ไม่ช้าพวกเราก็จะกลายเป็นครอบครัวที่แท้จริง!

กว่าจะเสร็จสิ้นมื้อเย็นก็ดึกแล้ว เลอศิลป์ไม่ได้อยู่ต่อ เขาเอ่ยปากลาและกลับไป

รอยยิ้มของชายหนุ่มค่อยๆ จางหายและถูกแทนที่ด้วยสีหน้ารำคาญใจทันทีที่ก้าวออกจากบ้านของรษิกา

ตอนที่กำลังกินอาหาร รษิกาเล่าให้เขาฟังคร่าวๆ เรื่องการร่วมงานกันระหว่างสถาบันวิจัยของเธอกับตระกูลดำรงกุล

หญิงสาวยิ้มแย้มตลอดเวลาที่บอกเขา แต่เลอศิลป์รู้สึกขมขื่นใจ

เห็นชัดว่าเจตนินกำลังจีบผู้หญิงของฉัน แต่ก็อย่างที่บรรดาผู้เฒ่าพูดไว้ เราสองคนไม่ได้ทำงานในวงการเดียวกัน ต่อให้ฉันอยากลงมือทำอะไรสักอย่าง ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ยังไง

ชายหนุ่มยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด

เขาตัดสินใจเบนรถเข้าจอดข้างทางแล้วหยิบโทรศัพท์มาโทรหาจักรภพ

จักรภพเพิ่งผล็อยหลับตอนที่โทรศัพท์ส่งเสียงปลุก

เมื่อเหลือบมองชื่อผู้โทรก็เห็นว่าเป็นเลอศิลป์ เขาพลันนึกถึงเรื่องเก่าขึ้นมาแบบไม่ค่อยเต็มใจ

สงสัยจริงว่าคราวนี้เป็นเรื่องอะไร

ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา ถ้าตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์เข้าสู่วงการยาจริงๆ สถานะในแวดวงอุตสาหกรรมของตระกูลคชาเรศมิล่มจมอีกครั้งหรือ?

หมอนี่ต้องการยึดครองบริษัทยาของตระกูลดำรงกุล!

จักรภพตื่นเต็มตา เขาลุกขึ้นนั่งบนเตียง ในหัวมีหลายความคิดวิ่งวุ่น

“อย่าบอกนะว่านายคิดจะทำแบบนี้เพราะรษิกา นายหึงเจตนิน ด้วยความโมโหก็เลย…”

เลอศิลป์ขัดการคาดเดาของเขาอย่างหงุดหงิด “แล้วนายมีความคิดดีๆ ไหมล่ะ? ตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์ไม่ได้มีประสบการณ์มากนักในอุตสาหกรรมยา แต่ตระกูลดำรงกุลน่ะมีรากฐานมั่นคง ฉันเลยต้องขอคำแนะนำจากนาย”

ตามที่รษิกาบอก ตระกูลดำรงกุลจัดหาสมุนไพรที่จำเป็นสำหรับการผลิตยาตัวใหม่ให้เธอ ซึ่งรษิกาย่อมติดต่อกับเจตนินน้อยลงถ้าเราได้ครอบครองบริษัทสมุนไพรของตระกูลดำรงกุล ต่อไปเราจะสามารถจัดหาสมุนไพรให้ได้ทุกเมื่อที่เธอต้องการ เราสองคนจะได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น

ด้วยความเข้าอกเข้าใจที่จักรภพมีต่อเลอศิลป์ เขารู้ว่าตัวเขาเดาถูก ถึงแม้เลอศิลป์จะไม่ยอมตอบคำถามของเขาตรงๆ

แน่นอนว่าเขาอยากช่วยเพื่อน แต่ไม่มีอะไรที่เขาทำได้

“อย่างที่นายพูดนั่นแหละ ตระกูลดำรงกุลมีอิทธิพลมากในวงการยา พูดตรงๆ นะ ฉันเองก็เคยพยายามจะเข้ายึดครองบริษัทของพวกเขา แต่ไม่ว่าจะทำยังไง พวกนั้นก็ไม่ยอมขายบริษัทให้ ฉันถึงกับโก่งราคาขึ้นไปห้าครั้งและพยายามผูกมิตรด้วย แต่พวกเขาก็ไม่ยอม”