เลอศิลป์คิ้วขมวดเป็นปมแน่นขณะที่เขาตอบเสียงต่ำ “ก็ได้ ฉันจะควบคุมตัวเองให้ดีที่สุด”
จักรภพถอนหายใจด้วยความโล่งอกและหันไปทางห้องของอัครพล “ฉันคิดว่าตอนนี้คุณปู่น่าจะตื่นแล้ว เข้าไปข้างในกันเถอะ บอกตามตรง เขาจะดีใจมากที่ได้พบนายเพราะนายไม่ได้มาเยี่ยมนานแล้ว”
“ช่วงนี้ฉันค่อนข้างยุ่งมาก” เลอศิลป์พูดขณะที่เขาสบตากับจักรภพ
“แต่นายก็ยังมีเวลาไปเมืองธนาคิมกับคุณหมอรษิกานี่นะ” จักรภพพูดแหย่เล่น
เมื่อเลอศิลป์นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองนั้นสีหน้าของเขาก็เคร่งเครียด “ฉันเพิ่งมีงานที่ต้องไปดูแลที่เมืองธนาคิม”
เลอศิลป์ยิ้มอย่างไร้คำพูด
ชายทั้งสองเดินไปที่ห้องของอัครพล จักรภพเคาะประตู หลังจากได้ยินเสียงของอัครพลจากในห้อง พวกเขาจึงเปิดประตูและเดินเข้าไป
“คุณปู่ครับ เลอศิลป์มาหาครับ” จักรภพพูดกับอัครพลด้วยรอยยิ้มหลังจากเข้ามาในห้อง
“สวัสดีครับ คุณอัครพล” เลอศิลป์ทักทายด้วยความสุภาพ
อัครพลเพิ่งตื่นจากการงีบหลับ เขาพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง
จักรภพรีบเดินไปยื่นมือให้อัครพลในขณะที่เลอศิลป์เติมน้ำลงในแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะ หลังจากนั้นก็เดินไปหาอัครพลและส่งแก้วให้เขา
อัครพลจิบน้ำแล้วยิ้มให้ชายหนุ่มข้างๆ “ที่บริษัทไม่ค่อยยุ่งแล้วเหรอ?”
เลอศิลป์พยักหน้า “ช่วงนี้ที่บริษัททำงานค่อนข้างช้า เพราะงั้นผมเลยตัดสินใจมาเยี่ยมคุณ ช่วงนี้คุณปู่เป็นยังไงบ้างครับ?”
“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว พวกคนหนุ่มสาวก็อย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วยนะ อย่าทำงานหนักเกินไป” อัครพลพูดด้วยความพอใจ
"ได้เลยครับไม่ต้องเป็นห่วง” เลอศิลป์ให้สัญญา
“การให้คำปรึกษาทางการแพทย์จะเริ่มในสัปดาห์หน้าที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่อยู่แถวชานเมือง คุณเตรียมตัวหรือยัง? เป็นยังไงบ้าง?” ชายชราไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในใจของคนรุ่นหลาน เขามองไปที่รษิกาด้วยสายตาเป็นห่วง
“ฉันเตรียมการส่วนใหญ่ไว้เสร็จแล้วค่ะ เมื่อเร็วๆ นี้ฉันได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับโรคประจำตัวในเด็กด้วย” รษิกาตอบ
หลังจากทราบว่าการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ครั้งล่าสุดที่จัดขึ้นโดยตระกูลดำรงกุลมีกลุ่มเป้าหมายคือเด็กที่มีโรคประจำตัว รษิกาจึงค้นหาบันทึกก่อนหน้านี้เกี่ยวกับโรคโดยเฉพาะ เธอยังวิเคราะห์ประวัติทางการแพทย์ของเด็กๆ ที่ครอบครัว ดำรงกุลเคยให้การรักษา หลังจากศึกษาเอกสารเหล่านั้นรษิกาก็ได้รับความรู้เพิ่มเติม
อัครพลยิ้มอย่างใจดี “ดูเหมือนว่าคุณได้ใช้ความพยายามอย่างมาก แต่อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป คุณเป็นนักเรียนของหาญชัยนะ คุณควรมั่นใจในตัวเองบ้าง”
รษิกาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
อัครพลจึงหันไปมองจักรภพ “ไปเอาจดหมายรับรองในลิ้นชักที่ห้องทำงานมาให้ฉันหน่อย” เขาสั่งจักรภพ
จักรภพพยักหน้าและลุกขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินไปที่บันได เขามองไปที่เลอศิลป์อย่างเป็นกังวล เขากลัวว่าเลอศิลป์จะเริ่มโต้เถียงกับรษิกาถ้าเขาลุกออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
👍🏻...
....
จบดื้อๆเฉยๆ งงมากค่าาาา...
ขาด 1867,1868...
ขาด1860, 1861...
ขาด1804...
อัพๆๆ ค่ะ แอดดดดดดด แอดดดดดดดด อัพๆๆๆ ค่ะ แอดดดดด ^_^...
ขาด1773,1774...
ขาด1768,1770...
ขาด1663,1664,1665,1666,1668...