ร้านเทวภักษ์เป็นร้านอาหารบรรยากาศส่วนตัวที่ดีที่สุดในเมืองหัสดิน อาหารทุกจานที่เสิร์ฟนั้นเป็นเครื่องยืนยันว่าร้านนี้ดีมากแค่ไหน และที่นี่ก็รับเฉพาะลูกค้าที่มีชื่อเสียงมากเท่านั้น โดยจะต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน
เมธินีจัดการจองโต๊ะเมื่อวานนี้โดยใช้เส้นสายของเธอเอง
การตกแต่งภายในร้านอาหารนั้นสวยงามมาก มีหน้าจอแยกให้ทุกๆ โต๊ะ ทางเข้าแต่ละห้องทำด้วยไม้ และอาคารก็ไม่มีหลังคา เมื่อตกกลางคืน โคมระย้าที่อยู่ด้านบนจะให้กลิ่นอายแบบโบราณและสุดแสนจะสมบูรณ์แบบ จนเหมือนกับกำลังทานข้าวใต้แสงจันทร์เลยทีเดียว
ทุกคนเดินเข้าไปในร้านและนั่งลงตรงโต๊ะที่อยู่มุมห้อง
ไม่นานนัก บริกรก็นำอาหารมาเสิร์ฟ
ด้วยความกังวลว่าเด็กหญิงจะรู้สึกอึดอัดใจ รษิกาจึงพุ่งความสนใจไปที่เธออย่างเต็มที่ เธอป้อนอาหารให้เด็กหญิง และเช็ดปากให้ทุกครั้งเท่าที่จะทำได้
อชิและเบนนี่นั่งอยู่ข้างๆ พวกเธอ เมื่อเห็นไอรดาดื่มด่ำกับอาหารก็ทำให้พวกเขาใจละลาย และพวกเขาก็พยายามแกะกุ้งให้ได้มากที่สุดเพื่อเธอ
ไอรดาไม่หยุดเคี้ยวขณะที่เธอจดจ่ออยู่กับอาหารกองโตตรงหน้า
“นี่รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น? เจ้าหญิงน้อยของบ้านฟ้าศิริสวัสดิ์หายตัวไปนะ! ตระกูลนั้นตามหาตัวเธอไปทั่วเมืองกันให้ควั่ก แต่ยังไม่เจอเธอเลย”
จู่ๆ ก็มีเสียงดังมาจากโต๊ะข้างๆ
อีกคนพูดขึ้นมาซึ่งฟังดูน่ากลัวกว่าเมื่อครู่นี้ “เธอคงไม่ได้โดนลักพาตัวไปนะ หรือโดนล่ะ? แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำแบบนี้จะต้องใจกล้ามากๆ เลย ใครกันนะที่กล้าแตะต้องเธอ? เธอเป็นลูกสาวสุดที่รักของเลอศิลป์ ฟ้าศิริสวัสดิ์เชียวนะ! คนที่ทำแบบนี้น่ะรนหาที่ตายชัดๆ”
การเคลื่อนไหวของรษิกาช้าลงทันทีที่ได้ยินชื่อเลอศิลป์ และเธอก็เริ่มจะมึนตึงไป
บทสนทนานั้นดำเนินต่อไป “ใช่ไหมล่ะ? เจ้าหญิงน้อยอาจจะเป็นใบ้และไม่เคยพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว แต่เธอก็ยังใช้ชีวิตที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบ โชคดีอะไรอย่างนั้น!”
เป็นใบ้อย่างนั้นหรือ?
ความสงสัยฉายในแววตาของรษิกาขณะที่เธอนิ่งค้างไป
ลูกสาวสุดที่รักของเลอศิลป์เป็นใบ้อย่างนั้นหรือ?
เด็กคนนี้ที่เธอพามาด้วยก็ไม่พูดอะไรเลยสักคำ
จากบุคลิกลักษณะและเสื้อผ้าของเธอ ก็ดูเหมือนว่าเป็นคนของตระกูลฟ้าศิริสวัสดิ์อีกด้วย
และเสียงของชายที่รับสายคนนั้น! เสียงของเขา…
เมื่อคิดได้เช่นนั้น รษิกาก็พยายามระงับความประหลาดใจเอาไว้ขณะหันไปหาเด็กหญิงที่นั่งอยู่ด้านซ้ายของเธอ
ดูเหมือนว่าเด็กหญิงจะจับสังเกตได้ว่าเธอจ้องมองมา เด็กหญิงจึงเงยหน้าขึ้นมามองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความฉงนสงสัย
ทันทีที่สายตาของทั้งสองบรรจบกัน รษิกาก็รู้สึกราวกับว่าถูกฟ้าผ่าเข้ากลางหัว
“เด็กคนนี้… หรือเธอจะเป็นลูกสาวของเลอศิลป์กันนะ?”
เมธินีวางช้อนส้อมลงและจ้องหน้าเด็กหญิงอยู่ครู่หนึ่ง “มันจะไม่บังเอิญเกินไปหน่อยเหรอ?” เธอถามอย่างมีความหวัง
เด็กชายทั้งสองตามเธอไปอย่างว่าง่ายโดยไม่ถามอะไรเลย
ขณะกำลังจะเดินผ่านเด็กหญิงคนนั้นไป รษิกาก็รู้สึกเหมือนมีคนมากระตุกแขนเสื้อเบาๆ
เธอรู้สึกขัดแย้งในใจและหันไปมองเด็กคนนั้นเพียงเพื่อจะพบว่า เด็กหญิงเกาะกุมแขนเสื้อเธอเอาไว้แน่น และดูลุกลี้ลุกลนเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นท่าทีที่ว้าวุ่นใจของเด็กหญิงคนนั้น มันก็เหมือนกับมีคนมากระชากหัวใจของรษิกา
ไม่ว่าระหว่างเธอกับเลอศิลป์จะเกิดอะไรขึ้นมาก่อนก็ตาม แต่เด็กคนนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย
ในที่สุดเธอก็ปลอบโยนเด็กน้อยไปว่า “ฉันต้องไปก่อนนะ ผู้หญิงคนนี้จะอยู่ดูแลเธอเอง ดังนั้น รออยู่ตรงนี้นะคะ โอเคไหม? คุณพ่อกำลังมารับแล้วนะคะ”
เมื่อพูดจบ เธอก็ดึงมือของเด็กน้อยออกและรีบเดินไปจากห้องอาหารโดยไม่หันหลังกลับมามองเลย
ในขณะเดียวกัน เมธินีก็รีบสั่งการให้บริกรมาเอาชุดจานชามทั้งสามชุดที่ใช้แล้วไปเก็บโดยเร็วที่สุด
ไม่นานนัก หลังจากบริกรทำตามคำสั่งเสร็จสิ้น ประตูไม้ของห้องอาหารก็ถูกผลักให้เปิดออกมา
บอดี้การ์ดในชุดดำกลุ่มหนึ่งยืนเรียงกันเป็นสองแถว และเปิดช่องเป็นทางเดินตรงกลางระหว่างพวกเขาไว้
เมื่อเห็นอย่างนั้น เมธินีก็ยืดตัวตรงและจ้องไปยังทางเข้า เธอพยายามอย่างที่สุดที่จะทำตัวให้สงบ
จากนั้น เธอก็เห็นเลอศิลป์ที่ดูเย็นชาเดินเข้ามาในห้องอาหาร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หย่าร้างแล้วห่างไป แต่หัวใจยังคงเดิม
👍🏻...
....
จบดื้อๆเฉยๆ งงมากค่าาาา...
ขาด 1867,1868...
ขาด1860, 1861...
ขาด1804...
อัพๆๆ ค่ะ แอดดดดดดด แอดดดดดดดด อัพๆๆๆ ค่ะ แอดดดดด ^_^...
ขาด1773,1774...
ขาด1768,1770...
ขาด1663,1664,1665,1666,1668...