หลี่โม่กลับมาถึงบ้าน
กู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางตื่นขึ้นมาจากการหมดสติแล้ว กู้หยุนหลานได้ทำอาหารเย็นเอาไว้และทั้งสามคนก็กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร
สีหน้าของกู้เจี้ยนหมินกับหวังฟางยังนับว่าปกติดี หลี่โม่เหลือบมองเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกวางใจได้อย่างสมบูรณ์
หวังฟางมองหลี่โม่อย่างไม่ค่อยพอใจ “แกไปไหนมาอีกแล้ว? แกบอกว่าตัวเองเป็นกุ๊ยไม่มีงานทำไม่ใช่หรือไง แล้วแกไปทำอะไรอยู่ได้ทั้งวัน”
“มีธุระต้องออกไปทำนิดหน่อยน่ะครับ”
หลี่โม่อธิบายอย่างสบาย ๆ สายตาของเขามองไปทางกู้หยุนหลาน
กู้หยุนหลานพยักหน้าเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกหลี่โม่ว่าไม่เป็นอะไรแล้ว
“แกจะไปมีธุรงธุระอะไรได้ กลัวจะออกไปเที่ยวเล่นไปวัน ๆ สิไม่ว่า วัน ๆ หยุนหลานยุ่งแค่ไหนรู้บ้างไหม ไม่รู้จักแบ่งเบาให้หยุนหลานเสียบ้างเลย”
“แม่คะ อย่าว่าหลี่โม่เลย หลี่โม่เขาออกไปช่วยทำธุระให้หนูน่ะค่ะ อย่าไปดุเขาเลย”
หวังฟางค้อนมองกู้หยุนหลานเล็กน้อยและไม่ได้พูดอะไรต่อไปอีก
กู้หยุนหลานทานกับข้าวสองอย่างด้วยความเร่งรีบสองสามคำ แล้วตามหลี่โม่กลับไปที่ห้อง
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม วันนี้ฉันเป็นห่วงแทบตายอยู่แล้ว”
กู้หยุนหลานกอดหลี่โม่และซบหน้าผากลงบนไหล่ของหลี่โม่
หลี่โม่โอบกอดกู้หยุนหลานด้วยรอยยิ้ม “ผมไม่เป็นไร จัดการปัญหาเสร็จแล้ว ตระกูลหม่าจ้างคนมาก่อเรื่อง ตอนนี้มีคนมาแก้ไขให้แล้วล่ะ”
“อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว วันนี้ฉันหยุดงานไปหนึ่งวัน ยังมีงานอีกเยอะแยะที่ยังทำไม่เสร็จ เดี๋ยวฉันคงต้องกลับไปทำงานล่วงเวลานะคะ”
“ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณ คุณทำงานล่วงเวลาอยู่คนเดียวผมไม่วางใจ”
กู้หยุนหลานพยักหน้าเบา ๆ หลังจากปล่อยหลี่โม่แล้วเธอก็เก็บของอย่างง่าย ๆ แล้วไปที่บริษัทพร้อมกับหลี่โม่
เมื่อมาถึงห้องทำงานบริษัทก็เห็นกู้เจี้ยนกั๋วนั่งอยู่ในห้องทำงานด้วยสีหน้าขึงตึง
“เกิดอะไรขึ้น ไอ้ไร้ประโยชน์นั่นพูดอะไรไม่เข้าหูเหรอครับ ผมหาคนไปสั่งสอนมันสักหน่อยดีไหม”
กู้ซิ่งเหว่ยถือโอกาสพูดขึ้น
“แกจะหาใครมา? ก่อนหน้านี้ฉันจ้างอันธพาลมาขนาดนั้น แต่ไม่มีใครเอาชนะไอ้หลี่โม่ได้เลย เมื่อครั้งที่แล้วที่ฉันถูกลักพาตัว นักเลงตั้งเยอะขนาดนั้นยังถูกหลี่โม่ซัดหมอบกับพื้นกันหมดไม่ใช่หรือไง ฉันก็ไม่รู้เหมือนว่าไอ้หมอนี่มันทำได้ยังไง”
กู้เจี้ยนกั๋วก็อยากจะหาใครมาช่วยแก้แค้น แต่เมื่อนึกถึงพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวของหลี่โม่แล้วกู้เจี้ยนกั๋วก็กังวลว่าหลังจากเกิดเรื่องหลี่โม่จะมาแก้แค้นตัวเองเสียมากกว่า
“คราวนี้มันเทียบพวกอันธพาลพวกนั้นไม่ได้หรอก ผมรู้จักกับยอดฝีมือคนหนึ่ง เขาเป็นแชมป์ชกมวยของเมืองเรา แถมยังเป็นแชมป์สามสมัยซ้อนด้วย มีชื่อเสียงในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบอิสระที่ต่างประเทศไม่เบาเลย ว่ากันว่าเขาได้รับเข็มขัดทองคำด้วยนะครับ”
กู้ซิ่งเหว่ยพูดอย่างอวดดี เหตุผลที่เขารู้จักกับนักชกฝีมือดีเหล่านี้ก็เพราะเขาต้องการหาคนที่มาจัดการกับหลี่โม่นั่นเอง
เพียงแต่การจ้างคนเหล่านี้ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ซึ่งกู้ซิ่งเหว่ยไม่สามารถควักเงินจำนวนมากขนาดนั้นได้ จึงทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมให้กู้เจี้ยนกั๋วพ่อของเขามาจ่ายเงินให้แทน
กู้เจี้ยนกั๋วได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มสนใจขึ้นมา กู้เจี้ยนกั๋วไม่เข้าใจเรื่องศิลปะการต่อสู้อะไรพวกนั้น แต่เขารู้ว่าเข็มขัดทองคำนั้นเป็นสิ่งที่มีเพียงแชมป์เปี้ยนเท่านั้นถึงจะมีได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณชาย แห่ง ประตูมังกร
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...รออ่านบทต่อไป...
อ่านมาได้ ห้าสิบกว่าตอน ทนไม่ไหวแล้ว...บาย...
ไอ้หลี่โม่โดนตบทุกตอน แม่งโคตรซาดิสต์เลย...
ติดตามความปัญญาอ่อนของคนแต่ง อิเมียมันเกลียดผัวมันทุกตอน แล้วมันอยู่กันได้ไงสี่ปี...
เมียโกรธผัวทุกตอน แล้วมันรักของมันได้ไง อิหยังว่ะ...
มีแต่ตบตีทั้งเรื่อง อ่านไปก็เซ็งพระเอกโดนตบทุกตอน อิหยังว่ะ...