เว่ยจื้อโหยวเดินแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยไก่ป่าและกระต่ายป่า ในมือยังถือหน่อไม้มาด้วย 2 หน่อ วันนี้นางใช้เวลาเดินในป่ามากไปหน่อย ตอนนี้ถึงกับหมดแรงไปเลยทีเดียว
เมื่อเดินมาได้ใกล้จะถึงบ้าน นางก็ต้องหยุดยืนขมวดคิ้วแน่นเสียงด่าทอน้องชายน้องสาวดังมาจากหน้าบ้าน คงจะเป็นนังมนุษย์ป้าสะใภ้มหาภัยแน่ ๆ หาไม่แล้วใครจะกล้าและหน้าด้านมาด่าเด็กที่อายุยังไม่ถึง 10 หนาวด้วยซ้ำ จิตใจไร้สำนึกขนาดนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
เว่ยจื้อโหยวสาวเท้าเดินกลับบ้านทันที นางเข้าด้านหลังบ้าน หลังจากนำตะกร้าเข้าไปวางไว้ในห้องนอนของนางเสร็จแล้วจึงปิดประตูใส่กุญแจเอาไว้ ไม่รอช้านางรีบเดินออกไปด้านหน้าบ้านก็พบน้องชายและน้องสาวยืนมองป้าสะใภ้อยู่ข้างหน้าต่าง
“ข้ากลับมาแล้ว พวกเจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่”
“พี่สะใภ้ท่านกลับมาเสียที ข้าหนวกหูจะตายแล้วเจ้าค่ะ นางจะเข้ามาในบ้านแต่ข้ากับน้องไม่ยอมเปิดประตูเพราะทุกครั้งที่นางเข้ามานางจะมาหยิบฉวยเอาของในครัวไปจนหมด”
“พวกเจ้าทำดีแล้ว ไม่ต้องกลัวข้าจะจัดการเอง”
“เจ้าค่ะ”
“โอ้ย หนวกหูจริง ๆ ผู้ใดปล่อยสุนัขมาเห่าหอนหน้าบ้านผู้อื่นช่างไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจชาวบ้านชาวช่อง”
สิ้นเสียงของเว่ยจื้อโหยว นางเฉียนหุบปากสนิททันที หลังจากคิดได้ว่าเว่ยจื้อโหยวด่าว่านางเป็นหมานางก็โมโหเดือดดาลขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้า นังแพศยา นังปีศาจจิ้งจอกเจ้ากล่าวว่าผู้ใดเป็นสุนัข”
"ข้าไม่ได้ว่าผู้ใดนี่เจ้าคะ ข้าเพียงแต่บอกว่าผู้ใดปล่อยให้สุนัขมาเห่าหอนหน้าบ้านผู้อื่นไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจเอาเสียเลย"
“นี่เจ้า เจ้าว่าข้าเป็นสุนัขหรือ ไม่รู้จักกตัญญูต่อญาติของสามีนับว่าแย่แล้ว นี่ยังไม่เคารพผู้อาวุโสอีกหรือ พ่อแม่เจ้าคงสอนมาเช่นนี้สินะ”
“ข้าไม่ได้เอ่ยชื่อนี่เจ้าคะ ท่านอยากรับก็รับไปเถอะเจ้าค่ะ แล้วท่านไม่ต้องมานับญาติกับสามีข้า สองครอบครัวตัดขาดกันแล้วเป็นท่านที่บีบบังคับให้พวกเขาแยกบ้านออกมา อีกทั้งยังฮุบเอาทรัพย์สินของพ่อแม่สามีข้าเอาไว้อีกด้วย นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสในตระกูลกระทำกันหรือ แล้ววันนี้ท่านมาเห่าหอนอะไรที่หน้าบ้านข้า คิดจะมารังแกน้อง ๆ ของสามีข้าเช่นนั้นหรือ หรือเห็นว่าสามีของข้าไม่อยู่คิดจะมารังแกบีบคั้นให้พวกเราต้องตายไปหมดท่านถึงจะพอใจ ทั้งสองบ้านถือว่าตัดขาดกันไปแล้วท่านลืมไปแล้วกระมัง”
“เจ้า … เจ้า นังหน้าด้านไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส”
“ข้าหรือไม่รู้จักเคารพผู้อาวุโส แล้วผู้อาวุโสอย่างท่านทำเช่นนี้สมควรแล้วหรือ บ่อยครั้งที่ท่านเข้ามาหยิบฉวยของในบ้าน รังแกน้องสามีข้า ท่านเห็นบ้านเดิมของข้าตายไปหมดแล้วหรือ หรือว่าท่านต้องการจะไปคุยกับข้าในชั้นศาล ก็ได้นะเจ้าคะพรุ่งนี้ข้าจะให้ท่านพ่อของข้านำหนังสือแยกบ้านไปแจ้งกับทางการ แล้วมาดูกันว่าที่ผ่านมาท่านทำอะไรไว้ อย่าคิดว่าไม่มีผู้ใดรู้หากทางการสืบสวนขึ้นมาท่านก็ไปนอนคุกเสียเถอะเจ้าค่ะ”
นางเฉียนได้ยินเว่ยจื้อโหยวจะแจ้งทางการนางตกใจมาก นางไม่คิกว่าเด็กสาวบอบบางเช่นนางจิ้งจอกน้อยคนนี้จะร้ายกาจเพียงนี้ หากมันไปแจ้งกับทางการจริง ๆ นางคงต้องสูญเสียทรัพย์สินและอาจจะติดคุกจริง ๆ
“หึ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะพวกสารเลว”
“ไม่รับฝากเจ้าค่ะ แล้วพวกข้าก็ไม่ได้สารเลวเหมือนท่านด้วย หากว่าท่านยังมาระรานบ้านสามีข้าอีกครั้ง ข้าจะแจ้งทางการทันที และข้าก็ทำจริงด้วยเจ้าค่ะ”
เว่ยจื้อโหยวไม่รู้หรอกว่านางเฉียนทำเลวอะไรเอาไว้บ้างเพียงแต่นางพูดออกไปเพื่อขู่นางเฉียนเท่านั้น ไม่คิดว่าคำพูดของนางจะไปจี้จุดนางเฉียนเข้า เมื่อนางเฉียนกลับไปแล้ว อวิ๋นซวนกับอวิ๋นเฟย ต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ข้าคิดว่านางคงไม่กล้ามารังแกพวกเจ้าไปอีกนาน”
“พี่สะใภ้เก่งมากขอรับ”
“นั่นสิเจ้าคะ พี่สะใภ้ตอกหน้าท่านป้าสะใภ้ไปแบบนี้ สะใจข้าจริง ๆ”
“เอาล่ะ ๆ ไม่ต้องพูดแล้ว เข้าบ้านกันเถอะวันนี้ข้าจะทำน้ำแกงไก่ใส่หน่อไม้ให้กิน ก่อนอื่นอาซวนเจ้าเอาไก่กับกระต่ายไปให้บ้านท่านพ่อข้าหน่อย ระวังตัวด้วยรีบไปรีบกลับล่ะ”
“ขอรับพี่สะใภ้”
“พี่สะใภ้เหตุใดจึงได้ไก่กับกระต่ายกลับมามากมายเพียงนี้ ท่านคงไม่ได้เข้าป่าทางด้านซ้ายใช่หรือไม่”
“ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้เข้าไปเลย ก็เจ้าบอกว่าไม่มีชาวบ้านคนไหนเข้าไปไม่ใช่หรือไง”
“เจ้าค่ะ”
“เช่นนั้นเจ้าจุดไฟหุงข้าวก่อน ข้าจะทำความสะอาดไก่ ส่วนที่เหลือจะฝากท่านพ่อกับท่านลุงไปขายพรุ่งนี้เช้า”
“เจ้าค่ะพี่สะใภ้”
อวิ๋นซวนที่รับหน้าที่นำไก่และกระต่ายมาส่งให้ที่บ้านเหลียนก็มาถึงอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ตอนมาเขาก็กลัวจะเจอกับป้าสะใภ้อยู่บ้างขากลับให้ท่านลุงไปส่งน่าจะดี
“ท่านยายเหลียน ท่านตาเหลียนอยู่หรือไม่ขอรับ ข้าอาซวนขอรับ เปิดประตูให้ข้าที”
“ท่านแม่เหมือนอาซวนเรียกอยู่หน้าบ้านนะเจ้าคะ”
“พวกเจ้าทำงานครัวไปเถอะข้าออกไปเอง”
“เจ้าค่ะท่านแม่"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย