กิจการเต้าหู้เจริญรุ่งเรือง รายได้นับวันจะยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายแล้วก็คงที่อยู่ที่ประมาณวันละห้าละตำลึง
แน่นอนว่า เมื่อรวมกับเงินประจำอีกสองร้อยตำลึงภายในวัง ก็รวมเป็นเจ็ดร้อยตำลึง
รายได้ต่อวันเจ็ดร้อยตำลึง !
เมื่อแบ่งโดยเท่าเทียมแล้ว แต่ละคนจะมีเงินเข้าบัญชีสามร้อยห้าสิบตำลึง นี่เป็นความมั่งคั่งอันมหาศาลทีเดียว และต้นทุนในแต่ละวันเพียงแค่สิบตำลึงเท่านั้น
กำไรมหาศาลจริง ๆ !
หลี่จุ่นเริ่มเปิดสาขาบนถนนทั้งสี่สายในเมืองหลวง แน่นอนว่ายังคงแขวนป้ายชื่อร้าน “เต้าหู้ตำรับจ้าว”
กิจการของแต่ละร้านล้วนกำลังเฟื่องฟูเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรเสียเต้าหู้เป็นสูตรลับเฉพาะของตระกูล เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตระกูล อีกทั้งยังไม่มีการแข่งขันใด ๆ และเพราะเป็นของแปลกใหม่ ทำให้กิจการนี้นับวันจะดีขึ้นเรื่อย ๆ
หลี่จุ่นคาดเดาว่า กิจการจะรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาอันสั้นนี้ จนกว่าการกินเต้าหู้จะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไป จึงจะค่อย ๆ ถดลอยลง
แต่ว่า
ขอเพียงเป็นของกิน เป็นอาหารรสเลิศ ย่อมมีคนกินไปตลอด และย่อมมีคนกินซ้ำ ด้วยเหตุนี้ สุดท้ายก็จะมีเสถียรภาพอยู่ในเส้นปริมาณที่คงที่
“เฟยเอ๋อร์ ถึงเวลานำเสนอหน้าร้านสุดพิเศษแล้ว และถึงเวลาที่จะนำเสนอสินค้าอื่นบางชนิดแล้ว”
วันนี้ ตอนที่จ้าวเฟยเอ๋อร์มารายงานสถานการณ์รายได้ ในที่สุดหลี่จุ่นก็ตัดสินใจขยายกิจการ เสนอแผนออกมา
“ท่านอ๋อง เชิญว่ามา”
จ้าวเฟยเอ๋อร์รู้ว่าหลี่จุ่นยังมีวิธีกินเต้าหู้แบบอื่น ๆ อยู่อีกมาก ด้วยเหตุนี้จึงรู้แต่แรกแล้วว่า หลี่จุ่นยังมีแผนการขั้นต่อไป
“ข้าวางแผนที่จะนำเสนอร้านอาหารที่ขายเฉพาะอาหารเช้าบนถนนทุกสาย แน่นอนว่าอาหารเช้าต้องมีซาลาเปาหมั่นโถวเป็นตัวหลัก จากนั้นก็เสริมเต้าฮวยและน้ำเต้าหู้เข้าไปเป็นต้น” หลี่จุ่นกล่าว
จ้าวเฟยเอ๋อร์แสดงแววตาประหลาดใจทันที รู้สึกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ
ร้านที่ขายเฉพาะอาหารเช้า ?
นี่เป็นความคิดใหม่เลยนะ !
ตอนนี้บนถนนฉางอันยังไม่มีร้านค้าลักษณะนี้ หากพวกเขาทำออกมา จะต้องเป็นเจ้าแรก ต้องมีคนจำนวนมากมาลองอย่างแน่นอน
“ไม่เพียงเท่านี้”
หลี่จุ่นยิ้มมุมปากอย่างมีกลยุทธ์ แล้วพูดว่า
“พวกเราต้องตั้งเป้าหมายเป็นทั้งคนธรรมดา และต้องตั้งเป้าหมายเป็นคนรวยด้วย ดังนั้นราคาอาหารเช้าหน้าร้านต้องสูงสักหน่อย อีกทั้งต้องมีหลากหลายชนิด ราคาที่ตั้งเป้าสำหรับคนธรรมดาต้องต่ำสักหน่อย อีกทั้งไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน เพียงใช้ลักษณะของรถเข็นแผงลอย ให้แผงลอยจำนวนหนึ่งขายอาหารเช้าโดยเฉพาะ
จ้ายเฟยเอ๋อร์เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง จากนั้นก็จากไปอย่างพึงพอใจ
หลี่จุ่นดื่มชาร้อนหนึ่งคำให้ชุ่มคอ
อยากจะหาคนเดินหมาก แต่เพิ่งนึกออกว่าอวี้เจียเดินทางกลับไปแคว้นหลางตั้งแต่สองวันก่อนด้วยเรื่องเจรจาไมตรี ส่วนโหลวฮวนฮวนไปคราวนี้ก็ห้าวันแล้ว ไม่รู้ว่าหาถ้ำใต้ดินเจอหรือไม่ ถึงยังไม่กลับมาเสียที
“หญิงสาวคนนี้คงไม่ใช่ว่าหาถ้ำใต้ดินเจอแล้ว จึงฝ่าค่ายกลเข้าไปจนถูกฆ่าตายแล้วหรอกนะ ? !” หลี่จุ่นเกิดความคิดเช่นนี้ขึ้นมาในใจโดยไร้เหตุผล จึงอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
“คงไม่หรอกน่า ผู้หญิงคนนั้นมีวรยุทธ์สูงส่ง น่าจะไม่ใช่คนธรรมดา ไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นหรอก !”
หลี่จุ่นแอบปลอบใจตัวเอง
ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนตนเอง หลี่จุ่นจึงจำต้องเรียกหาหยางจง นายบ่าวสองคนยกน้ำร้อนมาแช่เท้าด้วยกัน และพูดคุยสัพเพเหระ จึงฆ่าเวลาช่วงก่อนนอนไปได้เช่นนี้
วันรุ่งขึ้น
จู่ ๆ หลี่จุ่นก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาอย่างฉับพลัน นึกถึงเฉาวานวาน นางคณิกาชั้นสูงของหอชุนฮวา จึงพาหยางจงไปหอชุนฮวาอีกครั้ง
เมื่อเฉาวานวานเห็นหลี่จุ่นเดินทางมา ก็แสดงสีหน้าประหลาดใจ จากนั้นกลับแสดงแววตาขุ่นเคือง แล้วพูดว่า
“คุณชาย วานวานคิดว่าท่านลืมข้าน้อยเสียแล้ว ? วานวานรอคอยคุณชายมาตั้งหลายวันแล้ว ในที่สุดก็รอจนคุณชายมาเสียที”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...