องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 115

จวนจิ่งอ๋อง

เช้าตรู่หวังเยียนหรันก็พาสาวใช้เสี่ยวจูมาแล้ว หลี่จุ่นเพิ่งล้างหน้าแต่งผมเสร็จ กำลังกินอาหารเช้าอยู่ที่ลานบ้าน

“มาแล้วหรือ”

หลี่จุ่นเงยหน้าปราดตามองสองดรุณี จากนั้นก็ให้หยางจงยกอาหารเช้ามาให้พวกนางหน่อย

หวังเยียนหรันนั่งกับหลี่จุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ ยิ้มแย้มแจ่มใสพูด

“หลี่จุ่น เจ้ามันสุดยอดไปเลย!”

เมื่อวานหลี่จุ่นมอบหมายเรื่องเทคนิคการโฆษณากับนางเล็กน้อย นางบอกต่อกับตงซานว่าน จากนั้นก็ได้ผลลัพธ์ดีมากทันที

หลี่จุ่นยิ้มน้อย ๆ แล้วถาม “เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้พิมพ์ไปเท่าไรแล้ว”

หวังเยียนหรันส่ายหน้าตอบ “ตอนนี้พิมพ์ไปได้แค่สามส่วนเอง พิมพ์ตอนแรก ๆ ไปก็แกะสลักตัวอักษรไป ถึงดูเหมือนสะดวกมาก แต่การแกะสลักตัวอักษรก็กินเวลานานเหมือนกันนะ”

หลี่จุ่นพยักหน้าพูด “ใกล้แล้วละ”

เขาเขียนด้วยภาษาในชีวิตประจำวัน ดังนั้นไม่ต้องทำตัวอักษรมาก อีกระยะหนึ่งน่าจะแกะสลักตัวอักษรทั้งหมดเสร็จแล้ว

เขาให้ร้านหนังสือลู่หมิงใช้ไม้แกะสลักตัวอักษร ตัวอักษรนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในสมัยจีนโบราณ ค่อนข้างทนและติดหมึกง่าย

หวังเยียนหรันพยักหน้าอย่างเหลือเชื่อเหมือนกัน เอ่ย “อืม เถ้าแก่ตงก็บอกว่าใกล้แล้วเหมือนกัน ถึงวันที่เจ็ดเดือนหนึ่งจะแกะออกมาทั้งหมดไม่ได้ แต่วันที่เก้าต้องเสร็จหมดแน่นอน!”

ร้านหนังสือจิงหงเริ่มขายวันที่เจ็ด ร้านหนังสือส่วนตัวอื่น ๆ จึงได้แต่เริ่มขายในวันถัดไป หรือก็คือวันที่แปด ถึงจะเริ่มขายช้าอีกหน่อยเป็นว่าที่เก้าก็ยังได้

ถึงอย่างไรตอนนี้ก็มีแต่ร้านหนังสือจิงหงกับร้านหนังสือลู่หมิงที่โฆษณาไซอิ๋ว มีคู่แข่งแค่ร้านเดียว

แต่ตอนนี้ร้านหนังสือลู่หมิงยังมีความได้เปรียบอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือการโฆษณา!

ร้านหนังสือลู่หมิงใช้การแจกใบปลิวตามท้องถนน แปะใบปิดขนาดใหญ่ซึ่งเป็นรูปแบบการโฆษณาแบบใหม่ ทำให้คนจำนวนมากรู้ว่าร้านหนังสือลู่หมิงก็จะขายไซอิ๋วเหมือนกัน!

นี่เป็นจุดที่ได้เปรียบมากจุดหนึ่ง

เสร็จวันที่เก้าหรือ

หลี่จุ่นผงกศีรษะน้อย ๆ แล้วพูด “วันที่เก้าก็ได้ ถึงอย่างไร ด้วยระดับโฆษณาของร้านหนังสือจิงหง ต่อให้ช้าอีกสองวันก็ไม่กินส่วนแบ่งในตลาดครึ่งหนึ่งหรอก พวกเรายังมีจุดได้เปรียบอีกมาก อีกอย่าง เรายังไม่ได้งัดไม้เด็ดออกมาเลย”

หลี่จุ่นยิ้มมุมปากแบบมีเลศนัย

หวังเยียนหรันตาโตฉับพลัน ถามขึ้นว่า “ไม้เด็ดอะไรหรือ”

หลี่จุ่นส่ายหน้า ยิ้มตอบ “ไม้เด็ดของข้าก็ต้องให้เจ้าร่วมด้วยเหมือนกันนะ”

หวังเยียนหรันคึกคักมากกว่าเดิม รีบถาม “รีบพูดสิ ๆ!”

“แต่...ถ้าให้คนรู้ว่าข้าขายนิยาย ท่านพ่อจะตีข้าตายไหมนะ” เมื่อนึกถึงปัญหาใหญ่ หวังเยียนหรันหน้านิ่วคิ้วขมวดพลัน

นางเป็นอิสตรี...

ประเจิดประเจ้อเช่นนี้ แล้วยังเป็นยอดหญิง ทุกคนจะมองนางอย่างไร

หลี่จุ่นหัวเราะตอบ “ที่เจ้าขายคือหนังสือ วางใจเถอะ ไม่มีใครว่าร้ายเจ้าหรอก พ่อเจ้าต้องยินดีให้หนังสือเล่มนี้ลงตราของสำนักศึกษาสูงสุดแน่นอน อธิบายทุกอย่างชัดเจนแล้ว เขาไม่ตำหนิเจ้าหรอก เจ้าวางใจได้”

“จริงหรือ” ดวงหน้างามของหวังเยียนหรันยังกระวนกระวายเล็กน้อย

หลี่จุ่นพยักหน้า “ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าการค้าเต้าหู้ของเฟยเอ๋อร์รุ่งเรืองแค่ไหน ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ ทุกคนพากันอิจฉา มีเฟยเอ๋อร์เป็นตัวอย่าง เจ้าแค่ขายหนังสือนิดหน่อย อีกอย่าง หนังสือนี้ก็ไม่ใช่หนังสือกระจอกที่มองหน้าคนไม่ติดอะไร ไม่มีใครตำหนิเจ้าว่าลบหลู่ผู้มีการศึกษาหรอก วางใจได้!”

หวังเยียนหรันพยักหน้างก ๆ อย่างเห็นด้วย หน้าสวยผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อย ๆ เอ่ย

“ได้ เช่นนั้นข้าจะไปหาพี่เฟยเอ๋อร์เดี๋ยวนี้แหละ!”

ว่าแล้วก็ลุกขึ้นจะจากไป

ทว่านาทีต่อมากลับเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ นางนั่งลงอีกที ยิ้มน่ารักสดใส พูดกลั้วหัวเราะคิก ๆ

“เต้าฮวยจวนเจ้าอร่อยที่สุด ข้ากินแล้วค่อยไปนะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน