องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 127

“ท่านผู้ช่วย ข้าแอบถามลูกจ้างของร้านหนังสือลู่หมิงมาแล้ว ตีพิมพ์ได้ทั้งหมดห้าร้อยเล่มขอรับ...” ลูกจ้างคนนั้นอยากพูดต่อแต่ต้องชะงักไป จากนั้นมองทั้งสองคน

“อะไรนะ! ห้าร้อยเล่ม?! นี่เป็นไปไม่ได้!”

เสิ่นอวี้หมิงตะโกนขึ้นมาโดยพลัน หน้าคล้ำดำเขียวไร้ที่เปรียบ “โรงพิมพ์ของร้านหนังสือลู่หมิงเล็กขนาดนี้ ภายในระยะเวลาสั้นๆ แค่นี้ ตีพิมพ์หนังสือออกมามากมายขนาดนี้ได้อย่างไร? นี่เป็นไปไม่ได้!”

ใบหน้าของสวีจือชูเองก็เต็มไปด้วยความเชื่อ!

ลูกจ้างคนนั้นกัดฟัน ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “เถ้าแก่ขอรับ ได้ยินลูกจ้างคนนั้นบอกว่าใช้เวลาเพียงห้าวันเท่านั้น...”

“ห้าวัน?!”

เสิ่นอวี้หมิงกับสวีจือชูเบิกตาโพลงพร้อมกัน จากนั้นมองไปที่ลูกจ้างคนนั้น!

ห้าวันตีพิมพ์ออกมาได้ห้าร้อยเล่ม?!

นี่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว!

นี่พูดจาเพ้อเจ้อชัดๆ!

อย่าว่าแต่ร้านหนังสือลู่หมิงเล็กๆ เลย ต่อให้เป็นสำนักศึกษาสูงสุด ภายในห้าวันก็ตีพิมพ์ออกมาห้าร้อยเล่มไม่ได้!

“เพ้อเจ้อทั้งเพ!”

เสิ่นอวี้หมิงรีบตะโกนด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมทันที

ไม่ว่ายังไงก็ไม่เชื่อเป็นอันขาด!

แต่ทว่า!

ทว่าในใจเขากลับมีเสียงหนึ่งกำลังเตือนเขา นี่คือเรื่องจริง!

เรื่องจริงที่ราวกับเหล็ก!

ถึงยังไง พวกเขาก็เห็นหนังสือพวกนั้นแล้ว!

แต่ว่า นี่เป็นไปได้ยังไง?

ร้านหนังสือลู่หมิงทำได้ยังไง?

สีหน้าของสวีจือชูซึมกระทือเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยทายด้วยสีหน้ามึนงง

“เถ้าแก่ จะเป็นเพราะร้านหนังสือลู่หมิงพิมพ์เอาไว้ตั้งนานแล้วหรือเปล่า?”

เสิ่นอวี้หมิงชูมือขึ้นโบก เอ่ยขึ้นว่า “เป็นไปไม่ได้! ก่อนที่ทางสำนักศึกษาสูงสุดจะเห็นชอบ ตงซานว่านนั่นก็ไม่ใช่คนโง่ ไม่มีทางเชื่อหวังเยียนหรันนั่นแน่ ไม่มีทางบุ่มบ่ามตีพิมพ์แน่นอน

และหลังจากเห็นชอบแล้ว พวกเราก็เตรียมการเอาไว้แล้ว ตอนนั้นตงซานว่านเพิ่งจะเริ่มตาม ฉะนั้นตงซานว่านไม่มีทางเตรียมเอาไว้ตั้งนานแล้วแน่!”

“แต่ว่าเถ้าแก่ขอรับ หวังเยียนหรันเป็นบุตรีของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย ตอนนี้อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายเป็นหัวหน้ารักษาการชั่วคราวของสำนักศึกษาสูงสุด ตงซานว่านนั่นอาจจะมองเห็นจุดนี้ จึงขอต้นฉบับจากหวังเยียนหรันมาเตรียมเอาไว้ตั้งนานแล้ว...”

เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นอวี้หมิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาในทันใด

ในใจเองก็พลันเกิดความสงสัย

หรือว่าจะเป็นแบบนี้จริงๆ?

ไม่อย่างนั้นจะอธิบายเรื่องที่ร้านหนังสือลู่หมิงเล็กๆ ตีพิมพ์ปริมาณเท่านี้ออกมาได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ว่าอย่างไร?

เสิ่นอวี้หมิงขมวดคิ้วเป็นปมแน่น นัยน์ตาเคร่งขรึมครุ่นคิดอย่างใจจดใจจ่ออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า

เช่นนั้นเจ็ดร้อยกว่าเล่มชุดหลัง ก็เป็นเงินสามร้อยกว่าตำลึง

ก็เท่ากับยังมีกำไรอีกมากกว่าสามร้อยตำลึง

ยังมีสาเหตุที่ไปหาร้านหนังสือร้านอื่น ไม่อย่างนั้นก็ยังได้กำไรอีกมหาศาล

ตงซานว่านมองหลี่จุ่นทีหนึ่ง จากนั้นก็พูดกับหวังเยียนหรันว่า

“คุณหนูหวัง ข้าคิดว่าจำนวนเล่มที่ขายได้พรุ่งนี้น่าจะยิ่งเยอะขึ้น ข้าอยากจะตีพิมพ์ทั้งคืน เร่งตีพิมพ์ให้ได้ปริมาณหนังสือที่ยิ่งเยอะขึ้น!”

เมื่อได้ยินดังนั้น หวังเยียนหรันก็มองหลี่จุ่นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปลื้มปีติโดยสัญชาตญาณทีหนึ่ง

หลี่จุ่นเอ่ยปากถามว่า “เถ้าแก่ตง ตอนนี้โรงงานตีพิมพ์ได้วันละกี่เล่มหรือ?”

ตงซานว่านรู้ว่าหลี่จุ่นไม่ใช่คนธรรมดา จึงรีบตอบไปตามความจริงว่า

“เนื่องจากคุณหนูหวังให้วิธีการพิมพ์ใหม่ที่ดี ฉะนั้นการผลิตจึงครบกระบวนขึ้นมา ความเร็วในการตีพิมพ์ของเราหนึ่งวันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ตอนนี้หนึ่งวันสามารถตีพิมพ์ได้ประมาณหนึ่งร้อยห้าหกสิบเล่มขอรับ”

“หากทำทั้งคืนล่ะ?”

“ถ้าทำทั้งคืนละก็”

ตงซานว่านครุ่นคิด แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ประมาณคร่าวๆ ก็น่าจะตีพิมพ์ออกมาได้อย่างน้อยสามร้อยเล่มขอรับ”

หลี่จุ่นพยักหน้าน้อยๆ “เช่นนั้นลูกจ้างในโรงงานพอจะรับไหวหรือไม่?”

ตงซานว่านลังเลเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยว่า “คืนนี้พิมพ์จนถึงพรุ่งนี้ เช่นนั้นในตอนกลางวันพวกลูกจ้างก็ต้องพักผ่อน วันมะรืนปริมาณการพิมพ์ย่อมตกลงเยอะเป็นธรรมดา”

หลี่จุ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย “ถ้าพิมพ์ทั้งคืนละก็ วันมะรืนจะพิมพ์ออกมาได้เท่าไรหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน