องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 208

องค์รัชทายาทจ้องมองหลี่จุ่น ภายใต้แขนเสื้อนั้นกำหมัดไว้แน่น ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเดือดดาล

ความเยือกเย็นในดวงตาของเขาเก็บซ่อนไม่ได้อีกต่อไป!

แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า รัชทายาทแพ้ตั้งแต่ก่อนที่จะลงมือด้วยซ้ำ!

แถมยังพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่า!

ทันใดนั้นสีหน้าของหลี่เฉียนและหลี่จ้งกลับดูไม่ได้อย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าคนที่แพ้ไม่ใช่รัชทายาท แต่กลับเป็นพวกเขาเอง!

แต่วันนี้พวกเขาได้เห็นพรสวรรค์ด้านบทกวีของหลี่จุ่นอีกครั้งก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

มันไม่น่าเชื่อเลย ไม่คาดคิดเลยจริง ๆ!

คนที่อายุเพียงสิบเจ็ดปีสามารถเขียนบทกวีที่ไพเราะเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างไร

ภายในใจหลี่เหวินจวินทั้งตกใจและประหลาดใจ

ในบรรดาคนที่คุ้นเคยกับหลี่จุ่นมากที่สุด เป็นใครไปไม่ได้นอกจากนาง และนางเองก็รู้จักหลี่จุ่นดีที่สุดด้วย

ทว่า นางไม่สามารถคิดถึงเหตุผลได้จริง ๆ ว่าพรสวรรค์ด้านบทกวีของหลี่จุ่นนั้นได้มาจากไหนกันแน่

ทำไมที่ผ่านมาถึงซุ่มเงียบมาตลอด แต่จู่ ๆ กลับกลายมาดังเป็นพลุแตกจนคนรู้จักกันทั่วหล้า!

คิดไม่ออก!

“บทกวีของจิ๋งอ๋องไม่มีใครเทียบได้จริง ๆ ข้าน้อยได้เปิดโลกมาก ๆ” หวังเหลียนยิ้มร่าและมองดูหลี่จุ่นโดยไม่ปิดบังความชื่นชมในดวงตาของตน

เขามองหลี่จุ่นไปในทางที่ดีเสมอมา ด้วยเหตุผลอะไรมีเพียงหวังเหลียนเท่านั้นที่รู้

รอยยิ้มทรงเสน่ห์ปรากฏบนใบหน้าของฮองเฮา ริมฝีปากของนางค่อย ๆ เปิดออก มองไปที่หลี่จุ่นแล้วพูดว่า

“ข้าขอชื่นชมความสามารถด้านบทกวีของเจ้า จุ่นเอ๋อร์ เมื่อยามว่างเจ้าก็แวะมาเยี่ยมเยียนข้าที่ตำหนักบ้างนะ”

ดังคำพูดที่ว่าเมื่ออีกฝ่ายยอมรับผิดเราก็จะโม่โกรธ หลี่จุ่นเห็นฮองเฮาแสดงความเป็นมิตรต่อเขา ก็รีบโค้งคำนับพร้อมกับพยักหน้าด้วยความเคารพทันที ก่อนจะพูดว่า

“พ่ะย่ะค่ะ ยามว่างกระหม่อมจะไปรบกวนฮองเฮาแน่นอน!”

“ได้ ดีเลย” ฮองเฮาแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

อย่างน้อยหลี่จุ่นก็ยังสุภาพกับเขา

ลองคิดดูแล้วหลังจากที่แม่ของหลี่จุ่นเสียชีวิตจากอาการป่วย นางเองก็เคยไปเยี่ยมเขาเช่นกัน

วันนี้เขาเผชิญหน้ากับรัชทายาทอย่างเป็นทางการ ที่จริงนางไม่อยากเห็นสิ่งนี้เลย เพียงแต่ว่าลูกชายของนางไม่พอใจน้องหกคนนี้มาก นางจึงต้องคล้อยตามไปด้วย ตอนนี้นางทำได้เพียงพยายามลดผลกระทบให้น้อยลงที่สุด

“ไท่ฟู่ ท่านคิดอย่างไรกับบทกวีทั้งสองบทของเจ้าหก” จู่ ๆ หลี่เจิ้งก็ค่อย ๆ เปิดปากพูด และเหลือบมองเสิ่นคั่วที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าเฉยเมย

เสิ่นคั่วโค้งคำนับทันที “ฝ่าบาท บทกวีของจิ่งอ๋องนั้นตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมิมีใครเทียบเทียมได้อย่างแน่แท้ ไม่ว่าจะเป็นบทต้นหลิวหรือบทฝนยามวสันต์ สิ่งเหล่านี้สามารถใช้เป็นแบบอย่างสำหรับบทกวีรุ่นหลังสืบต่อไป!”

ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันมิมีใครเทียบเทียมได้!

แบบอย่างสำหรับบทกวีรุ่นหลังงั้นหรือ!

การประเมินของเสิ่นคั่วไม่ใช่แค่ไม่ต่ำ แต่สูงมากเลยที่เดียว!

ทันทีที่เสิ่นคั่วพูดคำเหล่านี้ หลี่เหวินจวินก็เป็นคนแรกที่เปลี่ยนสีหน้าและรู้สึกตกใจ

รัชทายาทกัดฟันทันที แล้วสะบัดแขนเสื้อพร้อมกับก้าวไปข้างหน้า เพื่อเตรียมเริ่มแต่งบทกวี

อันที่จริงเขามีกวีอยู่แล้วเป็นบทกวีที่เจียงเฟิงแต่ง!

บทกวีที่เขาและพวกหลี่จ้งทั้งสามได้รับจากเจียงเฟิงไม่ได้ให้หลี่จ้งหรือหลี่เฉียนไว้ใช้รับมือกับหลี่จุ่น แต่เขาจะใช้มันเพื่อรับมือกับหลี่จุ่นเอง!

พวกเขาวางแผนให้นำมันออกมาเมื่อถึงตาเขา เพื่อใช้ประลองกับกวีของหลี่จุ่น!

แต่ไม่คาดคิดว่าเรื่องราวมันจะไม่เป็นไปตามที่เขาคิดไว้ กลับกลายเป็นการประลองระหว่างเขากับหลี่จุ่น เมื่อตอนเริ่มเขายังตื่นเต้นมากคิดว่าว่าหลี่จุ่นคงจะไม่สามารถแต่งบทกวีนิรันดร์ดี ๆ ที่สืบทอดต่อกันมาได้อย่างที่เคยเป็น ดังนั้นอำเภออันกงจะต้องกลับมาเป็นของเขาอย่างแน่นอน แต่ไม่คาดคิดว่าหลี่จุ่นแค่อ้าปากก็เป็นบทกวีที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้!

เขารู้ทันทีว่าบทกวีที่แต่งโดยเจียงเฟิงนั้นไม่ดีเท่ากับบทกวีของหลี่จุ่น!

เขาพ่ายแพ้แล้ว!

อย่างไรก็ตามเขายังคงต้องการท่องบทกวีนี้ แม้ว่าจะแพ้ก็ต้องแพ้แบบน่าภาคภูมิใจหน่อย ยิ่งกว่านั้นมองอีกแง่หนึ่ง เขายังไม่แพ้เสียหน่อย!

กลับชนะอีกด้วย!

“ช้าก่อน!”

รัชทายาทกำลังจะแต่งบทกวี แต่จู่ ๆ หลี่จุ่นก็พูดเสียงดัง ขัดจังหวะเขาโดยตรง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

“องค์รัชทายาท ข้าขอยอมแพ้ ท่านชนะแล้ว!”

อะไรนะ!

เมื่อคำพูดคำนี้ดังออกมา ทุกคนก็พากันตกตะลึง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน