เสียงกลองแจ้งอรุณแห่งเมืองหลวงดังขึ้น
ตีมาระลอกหนึ่งแล้ว
จงจื่อหนิงแบกหลี่จุ่นที่เนื้อตัวเย็นไปหมดแล้ว ค่อย ๆ เดินไปทางประตูเมือง
จากตรงนี้ห่างจากประตูเมืองเพียงแค่หนึ่งลี้เท่านั้น
ทว่าจงจื่อหนิงกลับรู้สึกว่ามันไกลและช้ายิ่งนัก ไกลแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เขารู้สึกว่าหลี่จุ่นที่อยู่บนหลังหนักมาก ๆ และประตูเมืองนั่นก็ราวกับ...ประตูแห่งนรก!
หากเขาก้าวเดินเข้าไปแล้ว ก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเจอกับโลกแบบไหน
หลังจงจื่อหนิงเดินไปได้สองสามก้าว เขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจู่ ๆ ก็เอ่ยขึ้นว่า
“ท่านจอมทัพ...นี่เรากำลังจะกลับบ้าน ใช่หรือไม่? ควรล้างเนื้อล้างตัวให้ท่านสิถึงจะถูก...ดูความสกปรกบนเนื้อตัวท่านสิ ท่านดูหน้าของท่านสิไม่ได้ขาวสะอาดหมดจดเหมือนอย่างแต่ก่อนเลย ทั้งเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด...ข้าจะล้างเนื้อล้างตัวให้ท่านก่อนก็แล้วกัน”
จงจื่อหนิงพูดไปพลางยิ้มหน่อย ๆ ไปพลางและน้ำตาตกไปด้วย
ท่านจอมทัพที่แสนดีผู้หนึ่ง...ทำไมถึงตายไปแล้วล่ะ?
เขาจะอธิบายกับท่านอัครมหาเสนาบดีอย่างไร?
จะอธิบายกับแม่นางอาหยวนว่าอย่างไร?
จะอธิบายกับฝ่าบาทว่าอย่างไร?
จะอธิบายกับ...เหล่าคนรักของเขาเหล่านั้นว่าอย่างไร?
จงจื่อหนิงรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถอธิบายได้
เขารีบวางหลี่จุ่นที่แบกอยู่บนหลังลง ก่อนจะให้เขาพิงอยู่บนหินข้างทางก้อนหนึ่ง จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนไปด้วยเลือดของตัวเองออก แล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ท่านจอมทัพ ข้า...จะเอาไปซักให้ท่านนะ ท่านนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนนะขอรับ รอข้ากลับมา”
หลังจากนั้น
จงจื่อหนิงพุ่งตัวไปที่ไกล ๆ แล้วเลี้ยวกลับมา ผ่านข้างคูเมืองใกล้ ๆ
หาตำแหน่งดี ๆ ตำแหน่งหนึ่ง แล้วเริ่มร้องไห้ครวญครางไปพลางซักเสื้อผ้าไปด้วย
เมื่อเขาซักเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็ค่อยกลับไปล้างหน้าล้างตาของท่านจอมทัพให้สะอาด พร้อมทั้งเช็ดตัวหลี่จุ่นให้สะอาดสะอ้าน
คนตายแล้วจะต้องฝังเพื่อจะได้ไปสู่สุคติภพ ก็ต้องล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดก่อนมิใช่หรือ?
เขาปกป้องหลี่จุ่นไม่ได้ ล้างเนื้อล้างตัวให้หลี่จุ่นก็ทำถูกแล้วมิใช่หรือ?
นับว่าเป็นการชดเชยอย่างหนึ่งใช่หรือไม่?
ใช่หรือไม่?
หากท่านอัครมหาเสนาบดีถามขึ้นมา เขาจะได้พูดได้...แต่ว่า ข้าล้างเนื้อล้างตัวเขาจนสะอาดแล้ว!
ใช่หรือไม่?
เป็นเหตุผลในการผลักความรับผิดชอบที่ดีแค่ไหน?
และเป็นเหตุผลที่ปลอบใจตัวเองได้ดีมาก ๆ
เมื่อครุ่นคิด จงจื่อหนิงก็รู้สึกว่าตัวเองไม่เคยทำอะไรไม่มีเหตุผลเช่นนี้มาก่อนเลย และไม่เคยกลับเมืองหลวงด้วยความหวาดหวั่นเช่นนี้มาก่อน
เพียงแค่หนึ่งลี้สุดท้าย เขาเดินผ่านไปไม่ได้จริง ๆ...
ในตอนนี้เอง!
ไม่นานก็ตอบสนองกลับมา สีหน้าของนางเปลี่ยน ก็จะรีบเอ่ยแก้ไขคำพูดก่อนหน้านี้
“ไม่ใช่สิ ๆ ไม่ฟาดแส้มันสองสามที ก็ไม่รู้จักความเก่งกาจของคุณหนูอย่างข้าเสียแล้ว!”
“ถูกต้องแล้ว”
เสียงหัวเราะที่ดังมาจากในรถม้าใสปานระฆังเงิน กระทั่งบาดหู
เมื่อได้ยินเสียง ต้องเป็นคนงามล้ำเลิศเป็นแน่แท้!
“หยุด ๆ”
วิ่งไปได้ไม่นาน จู่ ๆ เด็กน้อยก็เอ่ยเรียกขึ้นมา ก่อนจะรั้งบังเหียนขึ้นอย่างแรง
ม้าตัวนั้นพลันยกกีบเท้าขึ้นแล้วเตะอยู่สองสามที เกือบจะดึงจนรถม้าคว่ำแล้ว
“เสี่ยวหวน เจ้าทำอะไรน่ะ?”
ภายในรถม้ามีเสียงดังตึงตังขึ้นมาถึงสงบลง จากนั้นสตรีสวมชุดสีคราม ปักปิ่นปักผมทองบนศีรษะ ทว่าบนใบหน้ากลับเต็มไปด้วยกระคนหนึ่งก็เปิดม่านออกมา
เมื่อใบหน้านี้เผยออกมา ก็คงรู้ได้ว่าเหตุใดน้องสาวที่อายุน้อยถึงเป็นคนบังคับรถม้า
หญิงสาวหน้ากระ คิดจะตำหนิน้องสาวที่ไร้เดียงสาของตน
ทว่ากลับพบว่าน้องสาวแสนไร้เดียงสาของตนกระโดดลงจากรถม้าไปแล้ว นางกำลังยืนอยู่ข้างถนน มองดูชายหนุ่มที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบเลือด พิงอยู่บนหินไม่รู้ว่าเป็นหรือตายผู้หนึ่ง
“เสี่ยวหวน!” นางรีบตะโกนเรียก
สาวน้อยชุดแดงถักเปียหันกลับมา เบือนศีรษะแล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ท่านพี่ เหมือนว่าพี่ชายท่านนี้...จะตายแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...