องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 808

สีหน้าของนักพรตเฒ่าค่อย ๆ สงบลง ไม่คุยสัพเพเหระไปอยู่นานสองนาน

หวังเยียนหรันรู้อย่างแจ่มแจ้งได้ทันที ก่อนจะรีบให้เสี่ยวจูจ่ายเงิน

เสี่ยวจูล้วงตำลึงเงินก้อนละสิบตำลึงออกมาจากในกระเป๋าเสื้อ แล้ววางไว้บนโต๊ะของนักพรตเฒ่า

ในตอนนี้เองสีหน้าของนักพรตเฒ่าถึงได้เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะใช้มือกวาดบนโต๊ะ

เขาค่อย ๆ เก็บเงินเข้าไปในปากกระบอกแขนเสื้อ ทันใดนั้นขณะนี้เองถึงได้ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“รบกวนแม่นางฟังคำของข้าก่อน หากจากไปแล้วก็จากไป อย่าไปใส่ใจมันมากเกินไป ไม่อย่างนั้นจะเกิดเรื่องตามมา เป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย มนุษย์ไม่สามารถกำหนดได้...”

นักพรตเฒ่ายังพูดไม่ทันจบ หวังเยียนหรันก็รีบพูดแทรกเขา นางเอ่ยถามขึ้นว่า

“นี่ท่านนักพรตหมายความว่าอย่างไร?”

นักพรตเฒ่าหัวเราะฮ่า ๆ เผยให้เห็นฟันเหลือง ๆ ออกมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“แม่นางฝันเห็นคนในดวงใจ เดิมทีก็เป็นความถวิลหาในตอนกลางวันที่แปรเปลี่ยนไปเป็นความฝันอยู่แล้ว แต่แม่นางก็คงรู้ดีว่าคนเป็นกับคนตายไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ในความฝันนอกความฝันเป็นเรื่องจริงหรือภาพลวงตา ทำให้คนรู้สึกตะขิดตะขวงใจได้ง่าย...”

“เสี่ยวจู เราไปกันเถอะ!”

ทันใดนั้นสีหน้าของหวังเยียนหรันก็เคร่งขรึมลง!

เมื่อรู้แล้วนางก็ลุกขึ้นเตรียมจะไป แต่ว่าก็ยังไม่ลืมที่จะหันหลังกลับไปด่านักพรตเฒ่าประโยคหนึ่ง

“เจ้ามันจอมลวงโลก ข้าจะไปบอกท่านพ่อของข้า ว่าให้จับเจ้าเข้าคุกเสีย!ห”

เสี่ยวจูอึ้งก่อนจะรีบเดินตามไป!

นางไม่เคยเห็นคุณหนูของตนเดือดเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้มาก่อน!

นักพรตเฒ่าผู้นั้นจะสื่อว่าอะไรอย่างนั้นหรือ?

จิ่งอ๋องตายแล้วอย่างนั้นหรือ?

เสี่ยวจูไม่กล้าคิด

เมื่อเห็นทั้งสองสาวนั่งก้นยังไม่ทันร้อนก็จากไปอย่างสง่าแล้ว นักพรตเฒ่าที่อยู่บนแผงลอยทำนายดวงชะตาก็อึ้งไปอยู่นานสองนาน

นี่มันบ้าอะไรกัน?

เขายังต้มตุ๋นไม่เสร็จเลย...ทำไมถึงไปแล้วเล่า?

“ฮ่า ๆ ข้าว่านะตาเฒ่าจอมลวงโลก ครั้งนี้ทำให้เขามองออกอย่างทะลุปรุโปร่งแล้วกระมัง?”

ข้าง ๆ แผงลอยทำนายดวงชะตายังมีชายร่างกำยำขายขนมเปี๊ยะอยู่คนหนึ่ง ทั้งสองคนมักมาตั้งแผงลอยด้วยกัน

นักพรตเฒ่าทำนายดวงชะตาได้เงินมา ก็พลอยไปซื้อขนมเปี๊ยะกิน

ในตอนนี้เอง

เมื่อนักพรตเฒ่าได้ยิน ก็รีบจ้องชายขายขนมเปี๊ยะเขม็งทีหนึ่ง

ทันใดนั้นเขาก็ล้วงเงินทองแดงสองเหรียญออกมาจากปากกระบอกแขนเสื้อ แล้วโยนให้อีกฝ่ายก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ใส่งาเยอะ ๆ ล่ะ”

ชายขายขนมเปี๊ยะรีบรับไป

ก่อนจะถือโอกาสหยิบขนมเปี๊ยะร้อน ๆ ชิ้นหนึ่งมาห่อด้วยกระดาษ และโรยงาไปตามอำเภอใจ ก่อนจะส่งไปให้แล้วเอ่ยขึ้นว่า

“รีบหนีไปเสียเถอะ คนที่เจ้าหลอกเมื่อครู่ไม่ใช่คุณหนูตระกูลทั่ว ๆ ไป พ่อของเขาเป็นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายในราชสำนักแห่งราชวงศ์นี้ และนางเป็นถึงเจ้าของหอสุราหลงไถเชียวนะ! คุณหนูผู้นี้เจ้าเองก็คงรู้จักใช่หรือไม่? หวังเยียนหรันผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองหลวงอย่างไรเล่า!”

บวกกับหวังเยียนหรันสวมชุดทอที่หรูหราและงดงาม ท่วงท่ากิริยาที่ยกไม้ยกมือขึ้นมาก็ไม่ธรรมดา แค่เห็นก็รู้แล้วว่าต้องเป็นคุณหนูบ้านเศรษฐีคนมีเงินเป็นแน่

คนมีเงินพอฝันร้ายนิดฝันร้ายหน่อย ก็ชอบหวาดระแวงกันไปแล้วไม่ใช่หรือ?

เช่นนั้นหากไม่ใช่ทำนายฝันแล้วจะเป็นอะไรไปได้?

และพอถามว่าหวังเยียนหรันมีคนในใจหรือไม่ สีหน้าของหวังเยียนหรันนั่นก็แดงระเรื่อขึ้นมาเชียว นางปฏิเสธอย่างลุกลี้ลุกลน!

นี่เป็นการสารภาพออกมาโดยไม่ต้องบังคับไม่ใช่หรอกหรือ?

เมื่อมาฟังเนื้อหาในความฝันอีก ก็เป็นความฝันทำนองก่อนจะได้มาก็กลัวว่าจะไม่ได้ เมื่อได้มาแล้วก็กลัวว่าจะต้องเสียไปไม่ใช่หรอกหรือ?

ต่อให้นักพรตเฒ่าผู้นี้พูดจาดูลึกลับไปมั่ว ๆ ส่งเดช ส่วนมากก็จะตรงกับความจริงทั้งนั้น ส่วนจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ต้องทำนายดู!

ขณะที่ชายขายขนมเปี๊ยะกำลังส่ายหน้า ทันใดนั้นนักพรตเฒ่าผู้นั้นก็วิ่งออกไปอย่างตะลีตะลานแล้ว

นักพรตโยนแผ่นไม้ทรงเหลี่ยมและยาวชิ้นหนึ่งให้เขา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“จริงสิ ลืมเอาของให้เจ้าไปเลย! นี่เป็นสิ่งที่เจ้าหนูตัวที่วิ่งมาชนข้าเมื่อเช้าทิ้งเอาไว้!”

นักพรตเฒ่าพูดไปพลางวิ่งไปต่อ

ชายขายขนมเปี๊ยะอึ้งไปครู่หนึ่ง หนูตัวนั้นไม่ใช่เรื่องที่ปั้นแต่งขึ้นมาหรอกหรือ?

เขาหยิบแผ่นไม้ขึ้นมาดูทีหนึ่งตามสัญชาตญาณ

วินาทีถัดมานัยน์ตาของชายขายขนมเปี๊ยะก็หดตัวลง!

เห็นเพียงแต่บนแผ่นไม้สลักตัวอักษรสีดำเอาไว้สี่พยางค์

อำเภอผิงอัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน