หวังจี้ตงรู้สึกว่าเขาเสียใจกับตระกูล ทั้งร่างเขาแน่นอนอยู่ที่พื้น สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความพ่ายแพ้
เมื่อเห็นท่าทางที่สิ้นหวังของหวังจี้ตงและคนอื่นๆ เสิ่นเฟยยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วพูดเสียงดัง
“แต่ก่อนหน้านี้ข้ายังไม่ได้เป็นสมาชิกของสำนักเฉา หากเจ้ามอบอู่ต่อเรือที่อยู่ในมือเจ้า และไม่เข้ามาขัดขวางการทำงานของอาณาจักรฉิน ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกให้พวกเขาทุกคนพลันมีสีหน้าดีใจ
หวังจี้ตงตื่นเต้นมาก
“ขอบคุณรองหัวหน้าเสิ่นที่ไม่ฆ่าข้า แค่พวกเรามอบอู่ต่อเรือให้เจ้า พวกเราจะมีชีวิตต่อไปใช่หรือไม่?”
เสิ่นเฟยพยักหน้า
หากเขาต้องการฆ่าคนจริงๆ หลิวเชียนเชียนที่เพิ่งสั่งฆ่าคนไปเมื่อครู่ กลับไม่ทำอะไรพวกเขา แสดงว่าคนพวกนี้ยังมีค่าให้เก็บไว้
อีกทั้งยังปล่อยให้เขาจัดการ เช่นนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
“พวกเรายิมดีมอบให้ ขอแค่ไว้ชีวิตพวกเราเอาไว้”
หวังจี้ตงและคนอื่นๆ รีบตอบตกลงอย่ารวดเร็ว
เสิ่นเฟยได้ยินเช่นนั้นพลันมีสีหน้าดีใจ
“ดีมาก ข้าจะส่งคนไปติดต่อเจ้าหน้าที่และขอให้เขาเตรียมโฉนดที่ดินและลงนามในสัญญา”
หากมีอู่ต่อเรือของคนพวกนี้ในมือ เสิ่นเฟยก็จะสามารถขยายอู่ต่อเรือให้ใหญ่ขึ้นได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ก่อนที่อู่เรือหลวงแห่งใหม่จะสร้างเสร็จ เขาสามารถทำให้สำเร็จได้
เสิ่นเฟยที่กำลังเจรจา ส่วนอีกด้านหนึ่ง หลิวเชียนเชียนเดินจากไปอย่างเงียบๆ
โรงน้ำชาที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล ฉินเหยียนกำลังดื่มชาและกำลังเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
หลิวเชียนเชียนที่หายตัวไปได้มาปรากฎตัวอยู่ที่นี่
“ฝ่าบาท จัดการเรื่องทั้งหมดเรียบร้อยแล้วเพคะ”
หลังจากที่หลิวเชียนเชียนเดินเข้าไป นางก็โค้งคำนับทำความเคารพ
“อืม ทำได้ดีมาก”
ฉินเหยียนยิ้มและพยักหน้า จากนั้นถามว่า
“เจ้าคิดว่าเสิ่นเฟยจะทำการใหญ่ได้หรือไม่?”
หลิวเชียนเชียนเลิกคิ้วและวิเคราะห์ทันที
“ไม่น่าจะมีปัญหาเพคะ แม้ว้าบางครั้งจะมีการตอบสนองช้า แต่เขาไม่ใช่คนโง่ อู่ต่อเรือในตอนนี้ก็ได้เขาเป็นคนจัดการแล้ว”
“เอาล่ะ เช่นนั้นข้าเดินทางไปเยี่ยนเป่ยได้อย่างสบายใจแล้ว!”
เมื่อฉินเหยียนได้ยินเช่นนั้น เขาก็ลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้น สายตาเขาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
ที่เยี่ยนเป่ยมีแหล่งแร่ธาตุอยู่ทุกที่ ขอให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ อาณาจักรฉินในอนาคตถึงจะได้ผงาดขึ้นอย่างแท้จริง นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขา
“ฝ่าบาท หม่อมฉันไปด้วยได้หรือไม่เพคะ?”
“อย่างนี้นี่เอง เช่นนั้นชายคนนั้นเป็นคนน่าสนใจมากทีเดียว”
ฉินเหยียนหรี่ตาลงและพูดทันที
“ช่างบังเอิญเสียจริง ข้าต้องเดินทางไปยังเยี่ยนเป่ยพอดี หากมีโอกาสข้าจะไปเจอจางฝู”
หลังจากพูดเช่นนั้น เขาก็โบกมือส่งสัญญาณให้หลิวเชียนเชียนออกไป
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ออกเดินทางไปเยี่ยนเป่ย
ครั้งนี้ฉินเหยียนยังคงออกเดินทางโดยไม่แสดงตัวตน นอกจากจ้าวจือหย่าแล้ว ก็มีหูหนิวและทหารอีกกลุ่มหนึ่ง
ในช่วงเวลานี้ ฉินอวี่มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น อย่างน้อยเขาก็ได้เตรียมการล่วงหน้า ระหว่างทางที่เดินทางไปเยี่ยนเป่ย เขาก็ได้รับข้อมูลข่าวกรองในท้องถิ่น
ในรถฉินอวี่รายงานฉินเหยียนเกี่ยวกับสถานการณ์ในเยี่ยนเป่ย ฉินเหยียนเข้าใจสถานการณ์ในเมืองนั้นชัดเจนขึ้น
ก่อนอื่น เยี่ยนเป่ยเป็นเมืองยากจน ไม่ต้องพูดถึงว่ายากแค่ไหนที่จะปลูกพืชผล สำหรับคนยังเป็นเรื่องยากที่จะอยู่รอด
แต่โชคไม่ได้แย่ไปเสียหมด เมืองนี้กลับมีถ่านหินจำนวนมาก
หากมีเหมืองถ่านหิน ก็ต้องมีคนขุดขึ้น ดังนั้น หากในพื้นที่ต้องการความอยู่รอด ทำได้แค่สร้างเหมืองขุดถ่านหินเพื่อเลี้ยงดูครอบครั้ว
ในหมู่พวกเขา หลังจากกาลเวลาผ่านไป ผู้ประกอบการท้องถิ่นจำนวนมากกลับมีอิทธิพลมากขึ้น แม้แต่อาณาจักรเยี่ยนก็ไม่อาจทำอะไรพวกเขาได้
นี่หมายความว่าพวกเขาแข็งแกร่ง ยากจะโค่นล้มหรือ? ก็ไม่เชิง
เหตุผลหลักก็คือดินแดนแห้งแล้งแห่งนี้ไม่คุ้มกับความพยายามที่พวกเขาเสียไป อีกอย่าง แม้ว่าเขาจะสังหารพวกคนที่มีอิทธิพลจนหมด แล้วอย่างไรล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...