คนอื่นไม่รู้ แต่นางรู้ ในคืนนั้น หลิวชางมาอยู่กับนางทั้งคืน และได้หลุดพูดออกมาแล้ว หลิวชางเป็นผู้วางเพลิงเอง หากนางขายหลิวชาง ก็จะได้รับเงินรางวัลหนึ่งแสนตำลึงสิ?
เงินหนึ่งแสนตำลึงเชียวนะ มาวางอยู่ตรงหน้านาง นางไม่กล้าจะคิดเลย! นี่มันเงินก้อนมหาศาล!
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วจึงจะตั้งสติได้ นางถามว่า “พวกเจ้าว่า คนอาณาจักรฉินจะรักษาคำพูดรึไม่?”
หญิงสาวอีกคนเหลือบมองนางแล้วพูดอย่างขบขันว่า “ติดประกาศออกมาแล้วจะเป็นเท็จได้อย่างไร? อีกอย่าง หากคนอาณาจักรฉินไม่รักษาคำพูด ในอนาคตใครจะกล้าเชื่อพวกเขาอีก ถึงตอนนั้นพวกเขาคงชื่อเสียงป่นปี้กันหมด”
เมื่อหญิงสาวคนอื่นๆได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย
“นั่นสิ ตราบใดที่คนอาณาจักรฉินไม่โง่เขลา ก็ไม่กล้าเอาเรื่องเช่นนี้มาหลอกคนแน่นอน”
“เฮ้อ หากข้ารู้เบาะแสก็คงดี อย่าว่าแต่หนึ่งแสนตำลึงเลย แค่หนึ่งพันตำลึงก็เพียงพอให้ข้าได้มีชีวิตที่ดีต่อไปแล้ว”
“อย่าเพ้อฝันไปเลย เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นแค่ในฝันเท่านั้น!”
เหล่าหญิงสาวพากันถกเถียงกันสักพักก็เปลี่ยนเรื่องไป พวกนางพูดคุยเรื่องทั่วๆไป
ส่วนหญิงสาวที่รู้ตัวคนวางเพลิงก็ยังคงคิดถึงเรื่องเงินหนึ่งแสนตำลึง สีหน้าของนางเปลี่ยนไป ไม่ได้สนใจเลยว่าเพื่อนๆของนางพูดคุยอะไรกัน
ทันใดนั้นเอง เมื่อมีการพูดคุยถึงเรื่องของนางก็มีคนถามขึ้นอย่างประหลาดใจว่า
“ใช่รึไม่อวี้เอ๋อร์?”
นางไม่ได้ยินการถามครั้งแรก ทุกคนจึงสังเกตเห็นว่านางแปลกไป
“อวี้เอ๋อร์ เป็นอะไรไป? ไม่สบายงั้นรึ?”
“ไม่......ใช่ ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย พวกเจ้าคุยกันไปก่อนเถิด ข้าขอตัวไปพักก่อน”
อวี้เอ๋อร์พูดโกหกแล้วเดินจากไป นางรีบมุ่งหน้าเข้าไปในห้อง เมื่อเข้าไปในห้องแล้วนางก็รีบล็อคประตูทันที จากนั้นก็นอนอยู่บนที่นอนแล้วกุมหน้าอกเอาไว้ รู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นรัวอย่างมาก นางพยายามสงบสติอารมณ์ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจสงบใจลงได้เลย
สิบแสนตำลึงเชียวนะ! ตราบใดที่นางบอกกับพวกคนอาณาจักรฉินว่าหลิวชางเป็นคนวางเพลิง นางก็จะได้รับหนึ่งแสนตำลึง! บ้าเกินไปแล้ว!
อวี้เอ๋อร์ยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น นางลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องมองไปยังหน้าตาด้วยดวงตาที่เป็นประกาย ขอแค่มีเงินก็สามารถออกจากหอโคมเขียวได้แล้ว ก้าวไปสู่โลกภายโลกที่กว้างใหญ่ ไม่ต้องเป็นหญิงโสเภณีอีกต่อไป! ชีวิตต่อจากนี้ไปของนางก็จะสุขสบาย ไม่ว่าจะไปที่ใด เงินหนึ่งแสนตำลึงนี้นางก็ไม่มีวันใช้หมด
เมื่อคิดดังนั้นแล้วนางก็หายใจถี่ขึ้น แม้จะรู้ว่าหลิวชางมีที่พึ่ง จะต้องมาเอาเรื่องนางแน่นอน แต่หากถึงตอนนั้นนางก็หนีไปได้ไกลแล้ว จะมานั่งสนใจเรื่องนี้ทำไมกัน? เมื่อไตร่ตรองอย่างดีแล้วอวี้เอ๋อร์ตัดสินใจแล้วว่า วันพรุ่งนี้เช้าจะไปหาคนอาณาจักรฉิน!
คืนนี้ช่างยาวนานสำหรับนางยิ่งนัก......
“ฮือๆๆ......”
และแล้วหญิงสาวก็ร้องไห้ออกมา น้ำตาไหลรินลงมาทำให้ไหล่และเสื้อของเขาเปียกปอน
คนที่มารายล้อมเดิมทียังรู้สึกสงสาร แต่บัดนี้พวกเขารู้แล้วว่าสองคนนี้คือคนอาณาจักรฉิน เพียงพริบตาทุกคนก็ไร้ความสงสารไป
“ถุย ที่แท้ก็คนอาณาจักรฉินนี่เอง สมน้ำหน้าแล้วนี่”
“นั่นสิ นี่คือผลกรรมของคนอาณาจักรฉิน”
“คนอาณาจักรฉินไม่มีใครดีสักคน ที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกเขารนหาที่เอง”
ทุกคนพากันด่าทอขึ้นมา ไม่มีใครสงสารทั้งสองคนเลย
นักค้าขายกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าในเนื้อก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“เราไปกันเถิด ไปหาคนอาณาจักรฉินนของเรา ให้พวกเขาช่วยทวงความยุติธรรมให้เรา”
เขาปาดน้ำตา อยากจะพาภรรยาของตนเองไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...