องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1082

ผู้พิพากษาท้องถิ่นวิเคราะห์อย่างใจเย็นว่า “หากจู่ๆมีกองทัพทหารสองหมื่นนายปรากฏตัวออกมาแล้วโจมตีประตูเมืองทางใต้ เพียงในช่วงสั้นๆจะทำให้เกิดหลุม ถึงตอนนั้นคนตระกูลจางก็จะฉวยโอกาสน้ำสมบัติหนีไปได้พ่ะย่ะค่ะ”

สีหน้าของฉินอวี่เปลี่ยนไปทันที แม้ว่านี่จะเป็นการคาดเดา แต่กลับต้องระวัง หากเป็นเช่นนั้นจริงๆก็คงยุ่งยาก

“ทหาร! ออกคำสั่งไป......”

“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ เกรงว่าจะไม่ทันเสียแล้ว ในเมื่อพวกมันวางแผนมา แล้วเราเพิ่งจะมาเข้าใจ ทุกอย่างก็สายไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ผู้พิพากษาท้องถิ่นยิ้มขมขื่น

ประตูเมืองทางใต้มีทหารเฝ้าระวังเพียงสามพันนาย รวมถึงตอนนี้เป็นยามค่ำคืน ไม่ค่อยมีคนเฝ้าระวังอยู่เท่าไรนัก ภายในระยะเวลาสั้นๆ และต้องเผชิญกับคนนับหมื่นบุกรุก นั้นไม่มีทางป้องกันไว้ได้เลย แม้แต่สิบห้านาทีก็ไม่ไหว

“แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ต้องเตรียมตัวให้ดี!”

ฉินอวี่ดวงตาแดงก่ำแล้วตะโกนว่า “หากเมืองเสิ่นเกิดความวุ่นวายขึ้นข้าก็ไม่รู้ว่าจะต้องรายงานกับน้องสิบสี่อย่างไร เจ้าจงนำคำสั่งของข้าไปเผยแพร่ด้วยตนเอง นอกจากนั้นข้าจะจับกุมพวกคนตระกูลจางด้วย ไม่ปล่อยให้หนีไปได้แม้แต่คนเดียว!”

เมื่อพูดดังนั้นแล้วฉินอวี่ก็พุ่งตัวออกจากจวนเจ้าเมือง เขาขึ้นหลังม้าแล้วมุ่งหน้าไปยังประตูเมืองทางใต้!

......

ในขณะนี้ ณ นอกเมือง จางจื้อสยงนำกำลังสนับสนุนมาซ่อนตัวอยู่ข้างทางสองด้าน

จางจื้อสยงคงจะรอจนร้อนใจ เขาดึงผู้ใต้บังคับบัญชามาคนหนึ่งแล้วถามว่า “บัดนี้กี่ยามแล้ว”

ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้นรีบตอบกลับว่า “นายท่าน เหลือเวลาก่อนเวลานัดหมายไม่ถึงสิบห้านาทีแล้วขอรับ”

“แล้วเหตุใดข้าจึงไม่เห็นเจ้าพวกทุ่งหญ้ามาโจมตีเมือง?”

จางจื้อสยงเบิกตากว้าง จากเวลาที่นัดหมายไว้ พวกคนทุ่งหญ้าต้องมาเริ่มโจมตีเมืองตอนนี้สิ และต้องเปิดทางหนีให้ได้เร็วที่สุดด้วย เช่นนั้นอีกเดี๋ยวลูกชายของเขามาถึงประตูเมืองทางใต้แล้วจึงจะออกมาได้อย่างราบรื่น ไม่เช่นนั้นต้องอันตรายแน่ แต่เหตุใดจนถึงตอนนี้แล้วก็ยังไม่เห็นพวกทุ่งหญ้า? นี่มันผิดปกติ!

หรือพวกมันจะกลับคำพูด? หรือพบเจออุปสรรคอะไรเข้า? แต่ความคิดที่ผุดขึ้นมานี้ก็หายไปทันที เขารู้ว่าคนทุ่งหญ้าไม่มีทางผิดคำพูด แม้ว่าเจ้าพวกนั้นจะไม่ได้เฉลียวฉลาดอะไรนัก โง่เขลาและดื้อรั้นยิ่งกว่าคนเยี่ยนเป่ย แต่ก็มีข้อดีหนึ่งอย่าง นั้นก็คือพูดคำไหนคำนั้น เป็นผู้ที่กล้าได้กล้าเสียมาก

ในเมื่อเป็นเรื่องที่ตกลงแล้ว ก็จะไม่มีทางกลับคำพูด เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วจางจื้อสยงก็พูดเร่งว่า

“เจ้าจงพาคนเดินทางกลับไปดูว่าพวกมันมาถึงที่ใดแล้ว”

“ขอรับนายท่าน!”

เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาน้อมรับคำสั่งแล้ว ก็หมุนตัวพาคนควบม้าออกไป

เมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาออกไปแล้วพวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในความมืด รอผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้นกลับมา แต่ในขณะที่พวกเขารออยู่ที่นี่ จางจื้อสยงก็ยิ่งร้อนใจ

......

ส่วนแนอวี่ที่ไล่ตามอยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นพวกตระกูลจางที่ขนหีบหนีก็เหมือนกับได้เห็นศัตรูที่เคียดแค้นกันมานาน

“ให้ตายเถิด หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

ฉินอวี่ดวงตาแดงก่ำ เขาอยากจะสับเจ้าพวกนั้นให้เป็นชิ้นๆ เขาเฆี่ยนม้าทำให้ม้าศึกร้องแล้ววิ่งไปทันที

ทักษะการขี่ม้าของฉินอวี่นั้นดีมาก เขานำหน้าไป

แต่แล้วพวกตระกูลจางจะหยุดได้อย่างไร? จางจวิ้นหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า

“ให้ข้าหยุดงั้นรึ ไม่มีทางซะหรอก ตามหลังไปเถิด!”

ว่าแล้วเขาก็เร่งความเร็วมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าพวกเขาจะขนของ แล้ววิ่งได้ไม่เร็วกว่าคนอาณาจักรฉิน แต่ปัญหาคือพวกเขาเริ่มออกตัวก่อนนานเกินไป อีกทั้งประตูเมืองก็ใกล้แค่เอื้อม พวกเขาก็คิดว่าตนเองปลอดภัย

“สารเลว!” ดวงตาของฉินอวี่ร้อนรุ่ม เขาเฆี่ยนม้าครั้งแล้วครั้งเล่า อยากจะเร็วมากกว่านี้ มากกว่านี้

จางจวิ้นเองก็เช่นกัน เขาอยากจะเร็วมากกว่านี้อีก ตอนนี้ประตูเมืองใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ ห่างเพียงนิดเดียวแล้ว ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มที่บ้าคลั่ง ถึงขั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา ทำลายความสงบในยามค่ำคืน

“ตื่นเต้นเกินไปแล้ว!” จางจวิ้นรู้สึกว่าเลือดร้อนรุ่มขึ้นมาทั่วร่างกาย บุกเข้ามาในฐานของศัตรู ปล้นสมบัติมาได้มากมายเพียงนี้ แถมยังหนีจากการไล่ล่าของท่านอ๋องแห่งอาณาจักรฉินไปได้อีก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์