“หือ? เมื่อครู่เจ้ายังมีศักดิ์ศรีมากอยู่เลยไม่ใช่รึ?” ฉินอวี่หลุดหัวเราะแล้วพูดขึ้น
จางจวิ้นพูดด้วยใบหน้าโศกเศร้า “นั่น......นั่นเพราะข้ายังไม่เคยได้เห็นความน่าเกรงขามของท่าน ดังนั้นจึงได้พูดจาผิดอย่างร้ายแรงพ่ะย่ะค่ะ ข้าผิดไปแล้ว อ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ ไว้ชีวิตข้าเถิด ข้าขอกราบกรานยอมรับผิด”
ว่าแล้วเขาก็คุกเข่าแล้วโขกศีรษะอ้อนวอนขอชีวิต
การแสดงของคนคนนี้ทำให้ฉินอวี่อดหัวเราะไม่ได้ เขาพูดเสียงเรียบว่า
“อยากจะให้ข้าปล่อยเจ้าไป เช่นนั้นก็บอกคุณค่าของเจ้ามา”
“เชิญตรัสมาได้เลย ไม่ว่าจะตรัสว่าอย่างไร! ตราบใดที่มีชีวิตรอด ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟก็ยอม!”
จางจวิ้นพูดอย่างตื่นเต้น ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว เขาไม่อยากตาย ก็แค่นั้น
ฉินอวี่เผยรอยยิ้มออกมาแล้วหรี่ตาถามขึ้นว่า “ดูท่าทางของเจ้าคงมีตำแหน่งในตระกูลจางสูงเลยสินะ? หากเจ้ายอมบอกเรื่องชั่วๆของตระกูลจางกับข้า หากหลักฐานมีมากพอให้อาณาจักรตัดสินโทษประหารให้จางจื้อสยงได้ ข้าจะไตร่ตรองเมตตาเจ้าสักหน่อยก็ได้”
“หา?”
เมื่อจางจวิ้นได้ยินดังนั้นสีหน้าก็น่าเกลียดอย่างมาก ขารู้สึกสิ้นหวังอย่างยิ่ง
“ทำไมรึ เจ้าไม่ยอมงั้นรึ?”
ฉินอวี่แววตาเย็นชาแล้วพูดว่า “ข้ายอม......ข้ายอม!”
จางจวิ้นตัวสั่นไปหมด เขาตอบอย่างยากลำบาก
“แต่ว่า......จางจื้อสยงคือพ่อแท้ๆของข้า!” จางจวิ้นร้องไห้อย่างเจ็บปวด
ฉินอวี่มองเขาอย่างประหลาดใจแล้วจู่ๆก็ถามขึ้นว่า “เช่นนั้น เจ้าทำไม่ได้สินะ?”
“ทำได้พ่ะย่ะค่ะ แต่ว่า......อย่างไรจางจื้อสยงก็เป็นพ่อของข้า เขาเลี้ยงดูข้ามาจนโตขนาดนี้......ข้าช่วยเจ้าฆ่าเขา เจ้าต้องรับปากว่าจะไว้ชีวิตข้า!”
จางจวิ้นหายใจหอบแล้วพูดขึ้น เขาไม่อยากตาย อยากมีชีวิตอยู่ ดังนั้นต่อให้นั่นคือพ่อของเขา เขาก็หักหลังได้อย่างไม่ลังเล แต่เขาไม่อยากได้การเมตตาเล็กๆน้อยๆ เขาอยากได้ว่าจะมีชีวิตรอดแน่นอน ต่อให้ชีวิตหลังจากนี้เขาจะต้องถูกตราหน้าก็ไม่เป็นไร เขาอยากจะมีชีวิตรอดเท่านั้น
ฉินอวี่ได้ยินดังนั้นแล้วก็พยักหน้า จากนั้นก็พูดว่า
“ได้ หากเจ้าให้ข้อมูลมากพอ ข้ายังจะมอบเงินให้เจ้าก้อนหนึ่งด้วย!”
“จริงรึ?” จางจวิ่นอึ้งไป จากนั้นเขาก็คุกเข่าลงกับพื้นอย่างตื่นเต้น
“ขอบพระทัยอ๋องอวี่พ่ะย่ะค่ะ ข้าจะรับใช้ท่านอย่างสุดความสามารถพ่ะย่ะค่ะ!”
ฉินอวี่ยิ้มอย่างเย็นชา เขามองไปยังผู้พิพากษาท้องถิ่นแล้วออกคำสั่งเสียงเบาว่า
“สอบปากคำทันที เอาหลักฐานที่จะล้างบางตระกูลจางมาให้ได้ในคืนนี้ พรุ่งนี้ให้ประกาศต่อทั่วทั้งใต้หล้า!”
“พ่ะย่ะค่ะ!” ผู้พิพากษาท้องถิ่นพยักหน้า จากนั้นก็รีบให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปจัดการเรื่องของพวกจางจวิ้น
“ฮ่าๆๆ ดี ดี พวกเจ้าล้วนเป็นพี่น้องของหลี่ชางผู้นี้ ภูเขาหลางจูชูแห่งนี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าหนี่ว์เจิน รอให้เราขับไล่เจ้าพวกน่ารำคาญพวกนั้นไปได้แล้ว เราจะทำการไหว้บูชาที่นี่ด้วย ไหว้เทพเจ้าหมาป่าของพวกเขา พวกกับเทพเจ้าหมาป่า ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ต้องยอมจำนนต่ออาณาจักรฉินของเรา!”
หลี่ชางหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็โบกมือพูดว่า “ออกเดินทาง!”
ทหารม้าเหล็กหนึ่งพันห้าร้อยนายได้เคลื่อนทัพออกไปอย่างเสียงดัง พวกเขามุ่งหน้าลงเขาไป
ผู้ใต้บังคับบัญชาของหลี่ชางตอนนี้เหลือเพียงสองพันกว่านาย เขาเหลือทหารที่บาดเจ็บห้าร้อยนายให้เฝ้าอยู่ที่ภูเขาหลางจูชู ที่เหลืออีกหนึ่งพันห้าร้อยนายติดตามเขาไปกันหมด
เขาจะออกทัพไปล้อมพวกทหารม้าทุ่งหญ้าก่อนเอง บอกกับพวกเขาว่าอาณาจักรฉินต่างหากที่เป็นฮ่องเต้ของที่นี่!
......
เมืองถูเหอ
ฉินเหยียนรีบระดมกำลังเพื่อจะให้ทหารรถยนต์ไปล้างบางทหารม้าทุ่งหญ้าสองหมื่นนาย แต่เมื่อถึงยามเที่ยงแล้วเขาก็ได้รับข่าวที่ประหลาดใจอย่างมาก
จ้าวจือหย่ารายงานว่า “ท่านอ๋องเพคะ ค่ายของทหารม้าชนเผ่าหนี่ว์เจินไม่มีใครอยู่แล้วเพคะ”
“ว่าอย่างไรนะ?” ฉินเหยียนขมวดคิ้ว
ทหารม้าชนเผ่าหนี่ว์เจินมีนับหมื่นเชียวนะ จะถอยไปได้ง่ายๆได้อย่างไร? แถมยังถอนกำลังไปกันหมดด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...