องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1085

เขาไม่เชื่อ รู้สึกว่าจะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ

จ้าวจือหย่าวิเคราะห์อยู่ข้างๆว่า “อาจจะเพราะภายในชนเผ่าหนี่ว์เจินเกิดอะไรขึ้นเพคะ ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางรีบเช่นนี้ จากรายงานแล้ว ทหารม้าพวกนั้นเกรงว่าจะถอยกลับไปเพคะ”

“มีเรื่องนี้ด้วยรึ? แต่ปัญหาคือเป็นใครกันแน่ที่ทำเอาชนเผ่าหนี่ว์เจินเสียศูนย์เช่นนี้?” ฉินเหยียนพึมพำอย่างสงสัย เขาขมวดคิ้ว

“หม่อมฉันคิดว่าคงจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างภูเขาหลางจูชูของพวกเขาเพคะ จากการเฝ้าดูหลายวันมานี้ ทหารของชนเผ่าหนี่ว์เจินเหมือนว่าจะมุ่งหน้าไปทางนั้นเพคะ”

จ้าวจือหย่าครุ่นคิดแล้วค่อยๆพูดขึ้น

เมื่อได้ยินดังนั้นฉินเหยียนก็ตาเป็นประกายแล้วหลุดหัวเราะพูดว่า

“ดูท่าสวรรค์จะช่วยพวกเรา ข้ากำลังคิดว่าจะจัดการกับพวกมันอย่างไรอยู่เลยเชียว แต่ตอนนี้พวกมันกลับเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นเองแล้ว”

“เป็นเพราะบารมีของท่านอ๋องเพคะ การที่มีท่านอยู่ ศัตรูจึงแพ้ภัยไปเองเพคะ!” จ้าวจือหย่าพูดอย่างเคารพ

“......” ฉินเหยียนมุมปากกระตุกแล้วอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “นี่เจ้ายกยอเป็นตั้งแต่เมื่อไรกัน? แถมยังไม่ได้เรื่องเช่นนี้ด้วย”

......

ภายในเมือง

หลายวันมานี้จางฝูยุ่งอย่างมาก ภารกิจครั้งใหญ่ที่ฉินเหยีนมอบหมายให้เขาก่อนหน้านี้ก็คือการทำให้ถูเหอพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพึ่งใคร

หากพูดตามคำพูดของฉินเหยียนก็คือ ต้องพึ่งตนเองให้เป็น

หากจะรอการช่วยเหลือจากอาณาจักรฉินอย่างเดียว เช่นนั้นจะส่งใครไปดูแลเยี่ยนเป่ยก็ได้ ที่ฉินเหยียนมอบหมายให้เขาก็คือการให้โอกาสเขา ให้เขาพัฒนาเมืองถูเหอด้วยกำลังของตนเอง เช่นนีฉินเหยียนจึงจะมอบหมายงานสำคัญให้เขาในอนาคตได้

ดังนั้นปริมาณงานของจางฝูจึงเพิ่มมากขึ้น แต่เขากลับไม่กล่าวโทษใดๆเลย แต่กลับมีความสุข ช่วงนี้เขาสิ่งที่เขาต้องคอยยุ่งก็คือการดึงตระกูลใหญ่ในพื้นที่มาสนับสนุนทีมเตะลูกหนัง

โชคดีที่การเพียรพยายามมานานนี้ ทำให้ทีมเตะลูกหนังดีขึ้นบ้างแล้ว

แน่นอนว่าระหว่างนั้นเหล่าตระกูลใหญ่เองก็ใช้งานไปมากเช่นกัน พวกเขาไปเชิญอาจารย์สอนเตะลูกหนังที่มีประสบการณ์มาสอนพวกเขา แถมยังไปรับสมัครสมาชิกทีมเตะลูกหนังไปทั่ว ใช้เงินไปมหาศาล

ตอนนี้เมื่อเห็นจางฝูก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “ท่านจางขอรับ อย่าโกงพวกข้านะ หากพวกข้าขาดทุนก็ไม่เหลืออะไรแล้ว เช่นนั้นท่านคงทำผิดต่อเราแล้ว”

“ใช่ๆ พวกข้าเชื่อท่านมากเพียงนี้ ให้ทำอย่างไรพวกข้าก็ทำตาม หากขาดทุนไปหมด พวกข้าไม่ไหวเป็นแน่”

จางฝูฟังคนรอบข้างร้องโอดครวญก็หัวเราะแล้วพูดปลอบใจว่า

“วางใจเถิดทุกท่าน หลายวันมานี้พวกท่านลงทุนไปมากมาย ข้าก็มองเห็น ขอให้วางใจเถิด ผลประโยชน์ที่จะได้จะต้องเกินความคาดหมายของพวกท่านเป็นแน่ ถึงตอนนั้นพวกท่านคงพากันมาขอบคุณข้าแล้ว”

“จริงรึ”

ทุกคนสงสัยเล็กน้อย แต่ก็มีคนเชื่อ จึงได้ถามขึ้นว่า

“ท่านจางมีแผนอย่างไรกันแน่ ถึงตอนนี้แล้วยังบอกพวกข้าไม่ได้งั้นรึ?”

“นั่นสิท่านจาง ข้าเห็นว่าท่านดูลับลมคมในมาหลายวันแล้ว บอกกับข้าบ้างสิ”

ทุกคนต่างพากันถามขึ้น

จางฝูครุ่นคิด จากนั้นก็ประสานมือคารวะต่อคนอื่นๆ แล้วพูดว่า “ข้าต้องขอตัวก่อน มีเรื่องที่จะต้องสะสางเสียหน่อย”

“ไปเถิด ไปเถิด”

ทุกคนโบกมือไม่ได้ถือสาอะไร

จางฝูและนักการในศาลาว่าการเดินไปไกล จากนั้นก็จะกระซิบว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

นักการในศาลาว่าการลังเลไปครู่หนึ่งแล้วกัดฟันพูดว่า “เสบียงที่เราแจกจ่ายออกไป มันเป็นพิษทำให้มีคนล้มตาย!”

“ว่าอย่างไรนะ?”

จางฝูพูดอย่างตกตะลึง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เป็นพิษจนมีคนตายรึ!

“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ได้?” จางฝูรีบถามขึ้น

อย่างแรกที่เขาคิดได้คือต้องมีใครจงใจสร้างความวุ่นวาย อยากจะฉวยโอกาสในช่วงชุลมุน

นักการในศาลาว่าการส่ายหน้าด้วยใบหน้าขมขื่นแล้วพูดว่า

“ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มันเป็นความจริง และเป็นเสบียงของเราที่ทำให้คนถูกพิษจนตายจริงๆ แถมยังไม่ใช่คนเดียวด้วย เสบียงที่แจกจ่ายไปทุกๆที่ต่างก็มีสถานการณ์ที่มีคนล้มตาย”

จางฝูฟังแล้วสีหน้าแย่อย่างมาก เขาพูดอย่างร้อนใจว่า “แล้วพวกคนที่ถูกพิษจนตายเล่า?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์