องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1140

องค์ชายสองเกือบจะร้องไห้ ไม่มีช่องให้เขาปฏิเสธได้เลย

ในที่สุดเขาจำใจต้องพยักหน้าและพูดว่า

“ได้ ข้าจะลองดู”

หลี่ชางตบไหล่เขาแล้วพูดว่า

“ดี รีบไปจัดการเถิด อย่าลืมว่าใช้ความจริงใจโน้มน้าวเขา เจ้าเป็นพี่น้องกันมิใช่หรือ? ลองดูเสียหน่อยสิ”

“ขอรับ”

องค์ชายสองกัดฟันตอบตกลง

แม้ว่าเขาจะถูกกดดัน นี่เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมาก แต่เขาทำได้แค่ตอบตกลง

เพราะในตอนนี้เขาไม่มีสิทธิ์เลือกเลย

หลี่ชางยิ้มอย่างพอใจ จากนั้นเดินจากไป

หลี่ชางเดินฮัมเพลงกลับไปที่เต็นท์ ตอนนี้รองแม่ทัพโจวตามหาตัวเขาอีกครั้ง

“มีเรื่องอะไรถึงได้ตามหาข้า?”

หลี่ชางถามอย่างสงสัย

รองแม่ทัพโจวพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ท่านแม่ทัพ พวกเราได้รวบรวมงานทั้งหมดแล้ว ตอนนี้พวกเราจับคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลอ้ายซินเจวี๋ยหลัวมาได้หนึ่งร้อยกว่าคน ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการกับพวกเขาอย่างไรขอรับ”

หลี่ชางขมวดคิ้วแน่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น

เรื่องนี้จัดการยากมาก หากเขาตัดสินใจข้าคนกว่าร้อยคนนั้น เกรงว่าองค์ชายสองจะไม่พอใจ ตอนนี้พวกเขาถือว่าอยู่ร่วมกันแล้ว จะไม่สนใจพวกเขาก็คงจะไม่ได้

อีกอย่างหากข้าคนกลุ่มนี้ ก็ไม่ได้หมายความจะเป็นเรื่องดี

เมื่อคิดได้เช่นนั้น หลี่ชางพูดอย่างสบายๆ ว่า “ไม่ว่าพวกเขาเป็นใคร ให้จัดการตามกฎของอาณาจักรฉิน และปล่อยตัวคนที่ไม่มีความผิดไปเสีย”

รองแม่ทัพโจวพยักหน้า จากนั้นถามต่อว่า

“ประชาชนในเมือง พวกเราควรปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไรขอรับ? พวกเขาเกลียดเราซะขนาดนั้น”

หลี่ชางไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรจริงๆ สิ่งสำคัญคือ กองทัพพวกเขาไม่มีคนที่สามารถช่วยเข้ามาจัดการได้เลย

หลี่ชางนึกถึงสิ่งที่อ๋องเหยียนสอน เขาจึงพูดออกมาอย่างลังเลว่า

“เจ้าพูดว่าในเมืองขาดแคลนอาหารใช่หรือไม่?”

“ขอรับ”

รองแม่ทัพโจวพยักหน้า

“แทบไม่มีอะไรให้กินเลยขอรับ ว่ากันว่าก่อนหน้านี้พวกตระกูลเก่าแก่กินได้แค่พวกอาหารหมักดองเท่านั้น”

หลี่ชางพยักหน้าเล็กน้อย ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน พวกเรานำอาหารทั้งหมดออกมาแจกจ่ายให้ประชาชน”

“ว่าอย่างไรนะ? แจกจ่ายให้กับประชาชนหรือขอรับ?”

เมื่อรองแม่ทัพโจวได้ยินเช่นนั้น เขาก็เบิกตากว้างและถามด้วยความสับสน

“แต่พวกเราจะทำอย่างไรเล่า? พวกเราเองก็ไม่ได้มีอาหารมากนัก คงจะไม่ให้พวกเราต้องทนหิวใช่หรือไม่?”

อาหารทั้งหมดที่เขามีในตอนนี้เพียงพอสำหรับประทังชีวิตได้อีกห้าหรือหกวันเท่านั้น

อาหารจำนวนน้อยเพียงนี้ ควรเหลือเก็บเอาไว้กินสิ

เมื่อแหงนหน้ามองกำแพงเมืองที่สูงตระหง่านของเมืองเปียงยาง เขาอดไม่ได้ที่จะเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก

“เฮ้อ เหนื่อยแทบตาย!”

อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้หายใจหอบและพูด

ฮูมู่หลู่เองก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก และพูดอย่างประจบประแจง

“ต้องขอบคุณเทพเจ้าหมาป่าที่คอยปกป้องท่าน เปลี่ยนอันตรายให้เป็นโชคดีและมาถึงเมืองเปียงยางได้อย่างปลอดภัย”

หลังจากที่อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ได้ยินดังนั้น เขาแสดงท่าที่ภูมิใจและพูดว่า

“ใช่ ตอนนี้ข้าคือท่านผู้นำ เป็นเจ้าแห่งชาวทุ่งหญ้านับพัน อย่ามองว่าเราจะตกต่ำเช่นนี้ไปตลอด ขอเพียงแค่ติดตามข้า หลังจากนี้ย่อมมีเรื่องดีๆ ตามมาแน่”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หลายคนที่อยู่บริเวณใกล้ๆ ก็ยิ้มปลื้ม

“ใช่ๆ ความสำเร็จและความยิ่งใหญ่ของท่านผู้นำอยู่ใกล้แค่เอื้อมพ่ะย่ะค่ะ”

จู่ๆ อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ก็หัวเราะออกมา เขาโบกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุดพูดประจบประแจง

“เอาล่ะ พวกเราหยุดพูดยอข้าได้แล้ว รีบเข้าเมืองไปพักผ่อนกันเถิด”

“ท่านผู้นำที่ยิ่งใหญ่ กระหม่อมจะพาท่านเข้าเมืองเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ!”

ทุกคนมาถึงกำแพงเมือง แต่ประตูเมืองกลับปิดสนิท

“ทหารยามอยู่ที่ใด? รีบมาเปิดประตูเมืองเร็วเข้า” ฮูมู่หลู่ตะโกนเสียงดัง

“ใครก็ตามที่เข้าบุกรุกเมืองเปียงยางจะต้องถูกยิงตาย!”

มีเสียงดังขึ้นจากหอคอยในเมือง ในไม่ช้าทหารยามกลุ่มหนึ่งก็รีบวิ่งออกมาพร้อมอาวุธ เตรียมต่อสู้

ฮูมู่หลู่โมโหขึ้นมาทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์