อ้ายซินเจวี๋ยหลัวพนักหน้าเล็กน้อย เดินเข้าไปในเมือง อีกทั้งยังได้รับการต้อนรับอย่างดี
“ยินดีต้อนรับท่านผู้นำพ่ะย่ะค่ะ!”
ทุกคนต่างพูดขึ้นพร้อมกัน เสียงดังก้องกังวาล
พูดว่าเป็นราชสำนัก แต่ความจริงแล้วเป็นแค่เมืองเล็กๆ ใกล้ล่มสลายเมืองหนึ่งเท่านั้น...
...
เมืองถูเหอ
ฉินเหยียนงีบหลับอย่างมีความสุข ขณะที่จ้าวจือหย่ารีบร้อนเข้ามา
เมื่อเห็นต้าหย่งยืนอยู่ด้านนอก นางจึงรีบถามว่า
“องค์ชายล่ะ?”
“องค์ชายนอนพักกลางวันอยู่พ่ะย่ะค่ะ” ต้าหย่งพูดด้วยรอยยิ้ม
“เอาล่ะ ข้ามีเรื่องต้องรายงานท่านอ๋อง” จ้าวจือหย่าพูดอย่างกระตือรือร้น
เมื่อต้าหย่งได้ยินเช่นนั้น เขาพลันรีบตอบกลับทันที
“ได้โปรดรอสักครู่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปแจ้งให้ท่านอ๋องทราบ”
เมื่อพูดจบ เขาก็เดินเข้าไปด้านในและเคาะประตูทันที
“ท่านอ๋อง จ้าวปั๋วซื่อมีเรื่องรายงานพ่ะย่ะค่ะ”
“ให้นางเข้ามาได้”
จ้าวจือหย่าผลักประตู ฉินเหยียนลุกขึ้นจากเตียง ยืดตัว หยิบเสื้อที่แขวนอยู่ข้างๆ ขึ้นมาสวม
จ้าวจือหย่ารีบเข้าไปในห้องฉินเหยียนเงยหน้าขึ้นมองนาง ยิ้มและถามออกมาว่า
“รีบร้อนอะไรขนาดนั้น มีเรื่องอะไรหรือ?”
จ้าวจือหย่ารีบตอบ “ท่านอ๋อง ได้ข่าวจากหลี่ชางแล้วเพคะ”
“เอ๋?” ฉินเหยียนได้ยินดังนั้น เขารีบนั่งตัวตรงทันที สายตาจับจ้องไปที่นาง
“เขาเป็นอย่างไรบ้าง?”
จ้าวจือหย่าเห็นท่าฉินเหยียนจึงรีบตอบกลับไปว่า
“หลี่ชางโจมตีเจ้อหลี่มู่เหมิงได้แล้วเพคะ! ตอนนี้กำลังจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่เพคะ”
“ว่าอย่างไรนะ?” ฉินเหยียนอึ้งไป ตอบกลับด้วยสีหน้าไม่เชื่อ
“เมื่อกี๊เจ้าพูดว่าอะไรนะ พูดใหม่อีกทีสิ”
จ้าวจือหย่าอดไม่ได้ที่จะกลอกตาเมื่อเห็นฉินเหยียนทำท่าซื่อบื้อ
“แม่ทัพหลี่ชางเอาชนะเจ้อหลี่มู่เหมิงได้ ตอนนี้กำลังจัดการกับสถานการณ์ปัจจุบันอยู่เพคะ”
“หืม!”
ฉินเหยียนสูดหายใจเข้าลึกๆ สายตาเต็มไปด้วยความตกใจ
“เด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะหรือไร?”
เมื่อจ้าวจือหย่าได้ยินเช่นนั้น นางถึงกับต้องหัวเราะออกมา
“อ้อ ใช่แล้วท่านอ๋อง หลี่ชางบอกว่ายังมีอีกเรื่องเพคะ”
“อ้อ เรื่องอะไรหรือ?” ฉินเหยียนเลิกคิ้วถาม
“เพราะชนเผ่านวี่ห์เจินพ่ายแพ้มาตลอด ทำให้สูญเสียกองกำลังลงไปมากและเกิดเรื่องขัดแย้งกันภายในเพคะ” จ้าวจือหย่าพูดอย่างจริงจัง
“ตามที่เขาแจ้ง ชนเผ่าเล็กๆ จำนวนมากในชนเผ่านวี่ห์เจินได้แปรพักตร์ไปตั้งแต่ก่อนช่วงหิมะตกแล้ว พวกเราแยกตัวออกมาและพาวัวพาแกะออกมาด้วย”
“ผลก็คือ ชนเผ่านวี่ห์เจินกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาขาดแคลนอาหาร แม่ทัพหลี่ชางขอให้ท่านอ๋องส่งเสบียงอาหารชุดใหญ่ไปให้พวกเขาที่เจ้อหลี่มู่เหมิงโดยเร็วที่สุดเพคะ”
“มิฉะนั้น หลี่ชางกลัวว่าพวกประชาชนจะเปลี่ยนใจ การที่ได้เจ้อหลี่มู่เหมิงมานั้นไม่ง่าย อีกทั้งยังมีโอกาสต้านทานไม่ไหวเพคะ”
จ้าวจือหย่ามองไปที่ฉินเหยียนอย่างเป็นกังวล
“ท่านอ๋อง ตอนนี้ถนนถูกหิมะปกคลุมหนามาก การส่งอาหารไปให้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย”
เมื่อฉินเหยียนได้ยินดังนั้น เขาพลันตกอยู่ในความคิดของตัวเอง
สักพักเขาก็ถามขึ้นมาว่า
“พวกเราจัดส่งเสบียงไปที่เจ้อหลี่มู่เหมิงทางบอลลูน เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
จ้าวจือหย่าตกใจและพูดขึ้นมาทันที
“ท่านอ๋องทรงมีพระปรีชาสามารถมากเพคะ แต่ในกรณีนี้หม่อมฉันกลัวว่าบอลลูนจะสะดุดตามากเกินไป อาจจะทำให้ชาวม่อเป่ยแตกตื่นได้”
เพราะนวัตกรรมในอาณาจักรฉิน ทำให้หลายคนต้องตกใจกันมานักต่อนักแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น รถถังที่เป็นเหมือนยักษ์ขนาดใหญ่ สามารถทำลายทุกอยางในพริบตาได้!
ถ้าบอลลูนปรากฎขึ้นเหนือท้องฟ้าในพื้นที่เจ้อหลี่มู่เหมิง ขนส่งเสบียงอาหารด้วยวิธีนี้ ประชาชนเห็นเข้าก็ไม่อาจรู้ได้ว่าพวกเขาจะคิดเห็นอย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...