ประโยคนี้ไม่ค่อยน่าฟัง ตอนนี้ฉินเหยียนระแวงคนแปลกประหลาดทั้งสองมาก เขากลัวว่าสองคนนั้นจะได้ยินผิดอีก และจะเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ขึ้น
ตอนนี้เจ้อหลี่มู่เหมิงไม่สามารถทนต่อความลำบากได้ แม้ว่าชนเผ่านวี่ห์เจินจะถูกทำลาย แต่พวกเขาต้องรอให้ถึงฤดูใบไม้ผลิเสียก่อน หลังจากที่หิมะที่ปกคลุมหนานั้นละลายจนหมด เขาก็จะสามารถส่งกองทัพเข้าไปได้
“พ่ะย่ะค่ะ!”
ผู้ส่งสารรีบออกไป ฉินเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก มองไปที่ต้าหย่งอีกครั้ง
“เรียกใต้เท้าจางฝูมาเดี๋ยวนี้”
ต้าหย่งออกไป ฉินเหยียนเอนกายลงและหลับตาเพื่อพักผ่อน
ไม่นานหลังจากนั้น จางฝูก็รีบเข้ามาในห้องและทำความเคารพ
“เข้าเฝ้าอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องทรงเรียกกระหม่อมให้เข้าเฝ้า ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“การแข่งขันเตะลูกหนังเป็นอย่างไรบ้าง?” ฉินเหยียนถามทันที
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จางฝูครุ่นคิดพักหนึ่งแล้วตอบว่า
“ท่านอ๋อง การแข่งขันเตะลูกหนัง กระหม่อมวางแผนเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนเลิกคิ้วแล้วถามว่า
“เจ้ามีแผนการชัดเจนแล้วหรือ?”
จางฝูยิ้มอย่างมั่นใจ “รออีกแค่สองวันเท่านั้น การแข่งขันก็จะเริ่มต้นได้พ่ะย่ะค่ะ”
“อืม เช่นนั้นเจ้ารีบจัดการเถิด จำไว้ให้ดี ทุกๆ กระบวนการต้องเรียบร้อย อย่าให้เกิดปัญหาหรือเรื่องวุ่นวายขึ้นได้!” ฉินเหยียนอธิบาย
“กระหม่อมจะจำไว้พ่ะย่ะค่ะ” จางฝูพยักหน้า
หลังจากพูดคุยสั้นๆ เกี่ยวกับการแข่งขันเตะลูกหนังแล้ว ฉินเหยียนก็ตรงเข้าประเด็นเกี่ยวกับปัญหาล่าสุดในเมืองถูเหอทันที
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกันเป็นเวลานาน จางฝูมีท่าทีลังเล หลังจากนั้นพูดขึ้นมาว่า
“ท่านอ๋อง มีเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ด้วยตำแหน่งของข้า ข้าไม่แน่ใจว่าจะพูดออกมาได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้าจะพูดอะไรก็รีบพูดมาสิ!” ฉินเหยียนโบกมือปัดอย่างไม่ใส่ใจ ส่งสัญญาณให้จางฝุพูด
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง ความจริงแล้วเป็นเช่นนี้ ท่านอาจจะไม่ทันได้สังเกต เพราะการพัฒนาของอาณาจักรฉิน ไปจนถึงการรวมจิ่วโจวเข้าด้วยกันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก แต่ปัญหาคือ ในจิ่วโจวนอกจากอาณาจักรฉินแล้ว ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งในจิ่วโจวที่ขาดแคลนอาหารพ่ะย่ะค่ะ!”
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาณาจักรเยี่ยนที่ที่สงครามเพิ่งยุติ ความต้องการอาหารยิ่งมากขึ้น... ความจริงแล้ว กระหม่อมประเมินเอาไว้ว่า ไม่ว่าในโกดังอาหารของอาณาจักรฉินจะมีมากเพียงใด แต่ทุกๆ พื้นที่ต่างขาดแคลน ในไม่ช้าก็จะลดลงในทันที”
ฉินเหยียนอึ้ง เขาไม่เคยคิดถึงปัญหานี้และไม่เคยมีใครถกปัญหานี้กับเขามาก่อน
จางฝูเห็นอีกฝ่ายที่จมอยู่ในความเงียบ เขาจึงพูดต่อ
“ท่านอ๋อง ท่านอย่าลืมว่า อาหารคือสิ่งสำคัญ พวกเราควรคิดมาตรการรับมือพ่ะย่ะค่ะ!”
อาณาจักรจ้าวและอาณาจักรเยว่ เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด
นี่คือสิ่งที่เขาไม่อาจทนได้ ดังนั้นเขาต้องรีบแก้ไขมัน โชคดีที่จางฝูเตือนเขาได้ทันเวลา
ในเวลานี้จู่ๆ จางฝูพูดขึ้นมาว่า
“แต่ทว่าท่านอ๋อง การลดการผลิตเหล้าจะช่วยรักษาจำนวนอาหารได้บ้าง แต่นี่ไม่ใช่วิธีที่ตรงจุด เพราะเสบียงอาหารไม่อาจเพิ่มขึ้นได้หากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
จางฝูหยุดไปครู่หนึ่งแล้วพูดต่อ
“ดังนั้นข้าเชื่อว่าเราควรหาทางเพิ่มเสบียงอาหารเป็นสองเท่า ตามการคาดการณ์ของกระหม่อม เราต้องทำให้แน่ใจว่าทุกครัวเรือนในจิ่วโจวมีอาหารเพียงพอ ความสามารถในการเลี้ยงสัตว์ การผลิตเหล้า ดังนั้นธัญพืชต้องเพิ่มขึ้นสองถึงสามเท่า”
จางฝูพูดได้ตรงจุด ทำให้ฉินเหยียนยิ้มขมขื่น
นี่คือที่มาของปัญหา เขาถอนหายใจออกมา
“แต่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย อาณาจักรฉินมีพื้นที่มาก การผลิตธัญพืชในตอนนี้พูดได้ว่าเกินขีดจำกัดแล้ว อีกอย่างพื้นที่อื่นๆ ในจิ่วโจว หากคิดอยากเพิ่มผลผลิตเพียงช่วงสั้นๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายพ่ะย่ะค่ะ”
ไม่ง่ายเลยที่จะเพิ่มการผลิตอาหารอย่างรวดเร็ว
ไม่ได้หมายความว่าถ้าเขาเต็มใจลงทุนลงแรง เขาจะสามารถบรรลุผลได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
เรื่องนี้มีข้อจำกัดใหญ่มาก และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องมีพื้นที่ที่เหมาะแก่การปลูกธัญพืชอีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...