องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1152

“เจ้าสอง นี่เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”

“หึหึ ก็หมายความตามที่พูดไงเล่า”

แม่ทัพสองหลุดหัวเราะแล้วพูดว่า “พวกเจ้าเห็นตนเองสำคัญเกินไปรึไม่ บัดนี้แม้แต่องค์ชายสองและองค์ชายสามก็อยู่ในค่ายของอาณาจักรฉิน ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าพวกเจ้าจะยังยโสอยู่อีกไปด้วยเหตุใด นี่มันหาเรื่องใส่ตนเองไม่ใช่รึไง?”

เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนก็พูดอะไรไม่ออก เป็นเช่นนั้นจริงๆ จากการสำรวจหลายวันมานี้พวกเขาก็ค่อยๆเข้าใจแล้ว คนอาณาจักรฉินดูไม่เลวเลยจริงๆ แต่บัดนี้ผู้บัญชาได้เดินทางไปไกลแล้ว ต่อให้จะขอเข้าร่วมด้วยตอนนี้ก็คงไม่ทันเสียแล้ว

“แล้วเจ้าคิดว่าควรทำเช่นไร?” และแล้วก็มีคนทนไม่ไหวแล้วพูดขึ้น

“จะทำอย่างไรเล่า!” แม่ทัพสองพูดขึ้นว่า “แต่อย่างไรการยึดเจ้อหลี่มู่เหมิงคืนมาอีกครั้งอย่างที่พวกเจ้าว่าก็ไร้สาระ หากพวกเจ้ากล้าทำเช่นนั้น พวกคนอาณาจักรฉินก็จะโจมตีกลับเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ถึงตอนนั้นจำนวนคนของเราเพียงเท่านี้จะต้านอะไรได้รึ?”

เมื่อคนอื่นๆได้ยินดังนั้นก็ยิ่งพูดอะไรไม่ออก เป็นจริงดังนั้น เพียงแค่กำลังรบพวกเขาก็เหลือคนกันเท่านี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางเอาชนะคนอาณาจักรฉินได้

“เฮ้อ!”

มีคนถอนหายใจแล้วพูดว่า “นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร เราจะโจมตีก็ไม่ได้ จะขอเข้าพวกก็ไม่ได้ ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปก็ไม่ใช่วิธีที่ดีอะไรด้วย”

คนอื่นๆเองก็มีสีหน้าที่สับสน

พวกเขาหมดหนทางแล้วมองไปยังแม่ทัพสอง จากนั้นก็พูดอย่างละอายใจว่า

“เจ้าสอง เจ้าพูดสิว่าควรจะทำอย่างไร”

เมื่อแม่ทัพสองได้ยินดังนั้นก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า

“ในเมื่อบัดนี้เราทำอะไรไม่ได้เลย อีกอย่างก็ไม่แน่ใจว่าคนอาณาจักรฉินคิดอย่างไรด้วย เช่นนั้น......”

“อย่างไรรึ?”

ทุกคนถามขึ้นพร้อมเพรียงกัน

เจ้าสองหรี่ตาแล้วหัวเราะพูดว่า “เราแอบเข้าไปในเจ้อหลี่มู่เหมิงแล้วใช่ชีวิตอย่างชาวเมืองธรรมดาไปก่อน ดูว่าคนอาณาจักรฉินมีท่าทีอย่างไร เราจะได้เลิกกังวลไปก่อนด้วย เมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้วเราก็ค่อยไปเข้าร่วมกับพวกเขา”

“เป็นแผนที่ดีนัก!”

“ยอดเยี่ยมมาก!”

“ฮ่าๆ เป็นวิธีที่ดีจริงๆ!”

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็พากันชื่นชม

“อะไรกันเนี่ย?” เมื่อจางฝูได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงอย่างมาก เขาเบิกตาขึ้น “เจ้าสบายดีแล้วจะตายได้อย่างไร?”

เมื่อจางจวิ้นได้ยินดังนั้นก็พูดอย่างโศกเศร้าว่า “ฮือๆ......ท่านลุง ท่านคงไม่รู้ว่าคนอาณาจักรฉิน เจ้าอ๋องอวี๋นั่น......พูดว่าจะสังหารข้า......”

เขาร้องไห้อย่างเจ็บปวด ดูน่าอนาถอย่างยิ่ง

แต่จางฝูกลับงุนงงไปหมด แต่ทันใดนั้นเขาก็เหมือนจะตระหนักได้แล้ว บางทีนี่อาจเป็นคำสั่งของอ๋องเหยียน เพื่อหลอกล่อเจ้าหนูนี่ได้ดีมากยิ่งขึ้น เมื่อคิดดังนั้นจางฝูก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา

“ท่านลุงขอรับ ตอนนี้ไม่มีใครช่วยข้าได้แล้ว ช่วยข้าด้วยเถิดนะ” จางจวิ้นคร่ำครวญ “ไม่เช่นนั้นข้าตายแน่......”

“เอาล่ะพอได้แล้ว ร้องไห้ราวกับผู้หญิง ขายหน้าเสียจริง” จางฝูขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น

“เรื่องแค่นี้เอง อีกอย่างก่อนหน้านี้เจ้าช่วยเหลือคนอาณาจักรฉินไว้ใหญ่หลวงไม่ใช่รึ? พวกเขาไม่มีเหตุผลต้องสังหารเจ้าเลยนี่”

เมื่อจางจวิ้นได้ยินดังนั้นก็ร้องไห้อย่างปวดเจ็บมากกว่าเดิม เขาเงยหน้ามองจางฝูแล้วพูดอย่างโศกเศร้าว่า

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น ข้าหักหลังแม้กระทั่งพ่อแท้ๆของข้า แต่สุดท้ายตระกูลจางก็ถูกกวาดล้างไป ความผิดของข้าเองก็ถูกขุดขึ้นมามากมาย มีโทษที่ควรถูกประหารในอาณาจักรฉินหลายอย่าง ช่วงนั้นข้าหวาดผวาอยู่ตลอด จนกระทั่งเมื่อคืนนี้มีคนบอกข้าว่า เจ้าอ๋องอวี่อะไรนั่นจะคิดบัญชีกับข้าแล้ว”

“ท่านลุง ขอร้องล่ะช่วยข้าด้วยนะ ต่อให้จะคุมขังข้าเป็นสิบปีข้าก็ยอม แต่ข้ายังไม่เคยได้สู่ขอเมียเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์