ฉินเหยียนให้คนส่งจดหมายของจ้าวจีเอ๋อร์โดยเร็ว
ระหว่างทางขอเพียงแค่ไส้ศึกหญิงเจอเมืองเล็กๆ พวกนางจะรีบเข้าไปรับสมัครกองกำลังคนทันที
ในบางครั้งหากระหว่างทางพบกับตระกูลที่ร่ำรวย พวกตระกูลที่ร่ำรวยนั้นก็จะทำตามคำแนะนำขององค์ชายเจ็ดฉินอวี่ ตั้งใจใช้วิธีลอบกัดฉินเหยียนทุกครั้งที่เขาเดินทางผ่านมา
ฉินเหยียนยังคงต่อสู้กลับอย่างไม่เกรงใจ ไม่เพียงแต่เอาเงินและเสบียงอาหารของพวกเขาไปจนหมด แต่ยังทำร้ายพวกเขาอย่างหนักด้วย
ประชาชนในท้องที่ถูกกดขี่มาโดยตลอด ต่างชื่นชมองค์ชายสิบสี่ที่ทรงสามารถขจัดความเดือดร้อนของประชาชนได้
ในเวลานี้กองกำลังของฉินเหยียนมีมากถึงห้าหมื่นคนแล้ว ความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่นี้กำลังไล่ตามกองทัพองค์ชายใหญ่
...
กองทัพขององค์ชายใหญ่ฉินชงยังคงอยู่ที่เดิม
ในค่ายทหาร ฉินชงกำลังนั่งที่โต๊ะบัญชาการเพื่อประชุมหารือกับบรรดานายพล
นายพลกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“องค์ชายสิบสี่ทรงหายตัวนานเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตั้งแต่กองทัพได้ออกเดินทาง องค์ชายสิบสี่ได้พาสตรีกลุ่มหนึ่งร่วมออกเดินทางด้วยทั้งกินดื่มอย่างสนุกสนาน พระองค์ทรงถือว่าสงครามในครั้งนี้เป็นเรื่องเล่นๆ หรือ บัดนี้สงครามใกล้เข้ามาแล้ว พระองค์ยังทรงถอยหนีจากสงคราม รอให้เขากลับมาจะต้องสั่งสอนเขาให้ดีพ่ะย่ะค่ะ!”
ขณะที่เขากำลังพูด ม่านเต็นท์ถูกเปิดออก มีทหารเฝ้าประตูเข้ามารายงานตัว
“กราบรายงานพ่ะย่ะค่ะ! องค์ชายใหญ่ฉินชง ด้านนอกมีกำลังคนจำนวนมากห่างจากเราสองกิโลเมตร กำลังมุ่งหน้ามายังค่ายทหารของเราพ่ะย่ะค่ะ!
องค์ชายใหญ่ฉินชงขมวดคิ้ว
“เกิดอะไรขึ้น? การสงครามรออยู่ เหตุใดผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถึงวิ่งมาที่นี่กัน?”
ในขณะที่หลายคนที่กำลังสงสัย พลันมีทหารอีกคนเข้ามารายงาน
“กราบรายงานพ่ะย่ะค่ะ! กองทัพขององค์ชายสิบสี่เข้าร่วมทัพกับพวกเราแล้ว!”
ดวงตาขององค์ชายใหญ่ฉินชงเบิกกว้าง เจ้าสิบสี่ให้ข้ารอ ในที่สุดก็ตามมาทันจนได้ ต้องนำบรรดานายพลเหล่านี้ไปตรวจสอบดูเสียก่อน
เห็นแค่ด้านนนอกค่ายทหารมีทหารชั้นดีหลายร้อยนายคอยสั่งการผู้ลี้ภัยเหล่านั้น
“ตั้งค่าย เริ่มก่อสร้าง!”
“รับทราบ!”
ผู้ลี้ภัยหลายหมื่นคนตอบรับพร้อมกันและเริ่มทำงานทันที
องค์ชายใหญ่ฉินชงและบรรดานายพลต่างสับสน
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เหตุใดผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถึงต้องการตั้งแคมป์ในค่ายทหารกัน?
พวกเขาต่างมองหน้ากันและมองไปที่ผู้ลี้ภัยเหล่านั้น
ท่ามกลางผู้คนที่กำลังยุ่งอยู่กับการจัดแจงสิ่งต่างๆ จู่ๆ บนเก้าอี้ของไท่ซือนั้นได้มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น มิใช่ใครอื่น เป็นองค์ชายสิบสี่ฉินเหยียนที่หายตัวไปหลายวันนั่นเอง
องค์ชายใหญ่ฉินชงไม่อาจควบคุมน้องชายที่มีนิสัยแตกต่างจากคนทั่วไปคนนี้ได้ เขาโบกมือปัดแล้วพูดว่า
“ช่างเถอะ เจ้านั่งกินของเจ้าไปแล้วกัน ข้ายังต้องพาพวกทหารปรึกษาหารือเกี่ยวกับวิธีการรบในครั้งนี้”
พูดจบ เขาก็นำทหารออกไป
ฉินเหยียนจิบชาร้อนแล้วพูดอย่างผ่อนคลายว่า
“เฮ้อ พี่ใหญ่ของข้าไม่รู้จักหาความสุขให้ตนเองเลย”
“เจ้า ทาสหญิงของข้า เจ้าหาน้ำมาให้ข้าหน่อย เดินทางมาทั้งวันเต็มไปด้วยฝุ่นและเหงื่อ ข้าอยากอาบน้ำ”
จ้าวจีเอ๋อร์พยักหน้าโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า
“เจ้าค่ะ”
หลังจากนั้นก็ตรงไปยังแม่น้ำเพื่อตักน้ำ
บรรดาไส้ศึกหญิงก็กำลังซักผ้าอยู่ที่ริมน้ำเช่นกัน จ้าวจีเอ๋อร์มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวังนางอยู่ห่างจากฉินเหยียนและทหารชั้นดีพอสมควร นางพูดด้วยเสียงต่ำว่า
“พวกเจ้าฟังข้าให้ดี ตอนนี้เป็นเวลาที่พวกเจ้าจะอุทิศกายและใจให้กับอาณาจักรจ้าวแล้ว กองทัพอาณาจักรฉินก็เหมือนกับเศษกระดาษ พวกเจ้าก็รู้ดีว่าทหารของอาณาจักรจ้าวนั้นกล้าหาญเพียงใด ดังนั้นสงครามในครั้งนี้ไม่ช้าก็เร็วอาณาจักรฉินจะต้องพ่ายแพ้”
จ้าวจีเอ๋อร์คำนวณอย่างมั่นใจ คิดว่าสามารถควบคุมไส้ศึกหญิงเหล่านี้ได้แล้ว อีกทั้งยังคิดว่าสงครามระหว่างสองอาณาจักรในครั้งนี้ อาณาจักรจะต้องถูกกวาดล้างอย่างแน่นอน
ทว่าหญิงไส้ศึกที่อยู่ด้านหลังนาง แอบฉวยโอกาสที่นางตักน้ำแอบไปรายงานฉินเหยียน โดยรายงานทุกคำสั่งที่พวกนางได้รับมาให้ฉินเหยียนฟังอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...