องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 119

ฉินเหยียนให้คนส่งจดหมายของจ้าวจีเอ๋อร์โดยเร็ว

ระหว่างทางขอเพียงแค่ไส้ศึกหญิงเจอเมืองเล็กๆ พวกนางจะรีบเข้าไปรับสมัครกองกำลังคนทันที

ในบางครั้งหากระหว่างทางพบกับตระกูลที่ร่ำรวย พวกตระกูลที่ร่ำรวยนั้นก็จะทำตามคำแนะนำขององค์ชายเจ็ดฉินอวี่ ตั้งใจใช้วิธีลอบกัดฉินเหยียนทุกครั้งที่เขาเดินทางผ่านมา

ฉินเหยียนยังคงต่อสู้กลับอย่างไม่เกรงใจ ไม่เพียงแต่เอาเงินและเสบียงอาหารของพวกเขาไปจนหมด แต่ยังทำร้ายพวกเขาอย่างหนักด้วย

ประชาชนในท้องที่ถูกกดขี่มาโดยตลอด ต่างชื่นชมองค์ชายสิบสี่ที่ทรงสามารถขจัดความเดือดร้อนของประชาชนได้

ในเวลานี้กองกำลังของฉินเหยียนมีมากถึงห้าหมื่นคนแล้ว ความก้าวหน้าอันยิ่งใหญ่นี้กำลังไล่ตามกองทัพองค์ชายใหญ่

...

กองทัพขององค์ชายใหญ่ฉินชงยังคงอยู่ที่เดิม

ในค่ายทหาร ฉินชงกำลังนั่งที่โต๊ะบัญชาการเพื่อประชุมหารือกับบรรดานายพล

นายพลกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

“องค์ชายสิบสี่ทรงหายตัวนานเกินไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตั้งแต่กองทัพได้ออกเดินทาง องค์ชายสิบสี่ได้พาสตรีกลุ่มหนึ่งร่วมออกเดินทางด้วยทั้งกินดื่มอย่างสนุกสนาน พระองค์ทรงถือว่าสงครามในครั้งนี้เป็นเรื่องเล่นๆ หรือ บัดนี้สงครามใกล้เข้ามาแล้ว พระองค์ยังทรงถอยหนีจากสงคราม รอให้เขากลับมาจะต้องสั่งสอนเขาให้ดีพ่ะย่ะค่ะ!”

ขณะที่เขากำลังพูด ม่านเต็นท์ถูกเปิดออก มีทหารเฝ้าประตูเข้ามารายงานตัว

“กราบรายงานพ่ะย่ะค่ะ! องค์ชายใหญ่ฉินชง ด้านนอกมีกำลังคนจำนวนมากห่างจากเราสองกิโลเมตร กำลังมุ่งหน้ามายังค่ายทหารของเราพ่ะย่ะค่ะ!

องค์ชายใหญ่ฉินชงขมวดคิ้ว

“เกิดอะไรขึ้น? การสงครามรออยู่ เหตุใดผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถึงวิ่งมาที่นี่กัน?”

ในขณะที่หลายคนที่กำลังสงสัย พลันมีทหารอีกคนเข้ามารายงาน

“กราบรายงานพ่ะย่ะค่ะ! กองทัพขององค์ชายสิบสี่เข้าร่วมทัพกับพวกเราแล้ว!”

ดวงตาขององค์ชายใหญ่ฉินชงเบิกกว้าง เจ้าสิบสี่ให้ข้ารอ ในที่สุดก็ตามมาทันจนได้ ต้องนำบรรดานายพลเหล่านี้ไปตรวจสอบดูเสียก่อน

เห็นแค่ด้านนนอกค่ายทหารมีทหารชั้นดีหลายร้อยนายคอยสั่งการผู้ลี้ภัยเหล่านั้น

“ตั้งค่าย เริ่มก่อสร้าง!”

“รับทราบ!”

ผู้ลี้ภัยหลายหมื่นคนตอบรับพร้อมกันและเริ่มทำงานทันที

องค์ชายใหญ่ฉินชงและบรรดานายพลต่างสับสน

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เหตุใดผู้ลี้ภัยเหล่านี้ถึงต้องการตั้งแคมป์ในค่ายทหารกัน?

พวกเขาต่างมองหน้ากันและมองไปที่ผู้ลี้ภัยเหล่านั้น

ท่ามกลางผู้คนที่กำลังยุ่งอยู่กับการจัดแจงสิ่งต่างๆ จู่ๆ บนเก้าอี้ของไท่ซือนั้นได้มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น มิใช่ใครอื่น เป็นองค์ชายสิบสี่ฉินเหยียนที่หายตัวไปหลายวันนั่นเอง

องค์ชายใหญ่ฉินชงไม่อาจควบคุมน้องชายที่มีนิสัยแตกต่างจากคนทั่วไปคนนี้ได้ เขาโบกมือปัดแล้วพูดว่า

“ช่างเถอะ เจ้านั่งกินของเจ้าไปแล้วกัน ข้ายังต้องพาพวกทหารปรึกษาหารือเกี่ยวกับวิธีการรบในครั้งนี้”

พูดจบ เขาก็นำทหารออกไป

ฉินเหยียนจิบชาร้อนแล้วพูดอย่างผ่อนคลายว่า

“เฮ้อ พี่ใหญ่ของข้าไม่รู้จักหาความสุขให้ตนเองเลย”

“เจ้า ทาสหญิงของข้า เจ้าหาน้ำมาให้ข้าหน่อย เดินทางมาทั้งวันเต็มไปด้วยฝุ่นและเหงื่อ ข้าอยากอาบน้ำ”

จ้าวจีเอ๋อร์พยักหน้าโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า

“เจ้าค่ะ”

หลังจากนั้นก็ตรงไปยังแม่น้ำเพื่อตักน้ำ

บรรดาไส้ศึกหญิงก็กำลังซักผ้าอยู่ที่ริมน้ำเช่นกัน จ้าวจีเอ๋อร์มองไปรอบๆ อย่างระมัดระวังนางอยู่ห่างจากฉินเหยียนและทหารชั้นดีพอสมควร นางพูดด้วยเสียงต่ำว่า

“พวกเจ้าฟังข้าให้ดี ตอนนี้เป็นเวลาที่พวกเจ้าจะอุทิศกายและใจให้กับอาณาจักรจ้าวแล้ว กองทัพอาณาจักรฉินก็เหมือนกับเศษกระดาษ พวกเจ้าก็รู้ดีว่าทหารของอาณาจักรจ้าวนั้นกล้าหาญเพียงใด ดังนั้นสงครามในครั้งนี้ไม่ช้าก็เร็วอาณาจักรฉินจะต้องพ่ายแพ้”

จ้าวจีเอ๋อร์คำนวณอย่างมั่นใจ คิดว่าสามารถควบคุมไส้ศึกหญิงเหล่านี้ได้แล้ว อีกทั้งยังคิดว่าสงครามระหว่างสองอาณาจักรในครั้งนี้ อาณาจักรจะต้องถูกกวาดล้างอย่างแน่นอน

ทว่าหญิงไส้ศึกที่อยู่ด้านหลังนาง แอบฉวยโอกาสที่นางตักน้ำแอบไปรายงานฉินเหยียน โดยรายงานทุกคำสั่งที่พวกนางได้รับมาให้ฉินเหยียนฟังอีกครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์