บัดนี้อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้รู้สึกเดือดดาลอย่างมาก เขากระชากฮูมู่หลู่มาแล้วพูดอย่างเดือดดาลว่า
“เพราะเจ้าคนเดียว ก่อนหน้าเจ้าคิดแผนบ้าอะไรให้ข้ากัน ดูตอนนี้สิ เราทุกคนไร้ที่อยู่กันหมดแล้ว!”
ฮูมู่หลู่เองก็ไม่รู้ เขายิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “นั่นก็เพราะท่านผู้นำ......”
เขาพูดไปครึ่งหนึ่งแล้วรีบปิดปากตนเอง ไม่กล้าพูดต่อไป เพราะบัดนี้สีหน้าของอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้โกรธเกรี้ยวอย่างมาก เขาจ้องฮูมู่หลู่เขม็งแล้วตะคอกว่า
“เจ้ากำลังโทษข้างั้นรึ?”
แววตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหารอันล้นหลาม
ส่วนฮูมู่หลู่ก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น เขาคุกเข่าลงกับพื้น “หามิได้พ่ะย่ะค่ะ ท่านผู้นำอย่าได้เข้าใจผิดไปเลยพ่ะย่ะค่ะ”
เขาหวาดผวาอย่างมาก ตัวสั่นไปหมด
“หึ!” เมื่อเห็นท่าทางของฮูมู่หลู่แล้วอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ก็ทำเสียงเย็นชา แล้วเตะเขากองกับพื้น
“เจ้าคนไร้ประโยชน์!” เขาด่าทอว่า “หากไม่ใช่เพราะเจ้าที่ทำให้ข้าสายตามืดบอดไปหมด และต้องมีจุดจบเช่นนี้!”
ในขณะที่เขาพูดเขาก็เหยียบย่ำฮูมู่หลู่อย่างแรง
ฮูมู่หลู่คลานอยู่กับพื้นยอมให้เขาทำทุกอย่าง ไม่ตอบโต้ใดๆ
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ทำร้ายเขาไปสักพักจึงจะหยุดลง เมื่อได้ระบายแล้วเขาก็ค่อยๆสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แงงตาที่มองไปยังฮูมู่หลู่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“เจ้าคนไร้ประโยชน์!” อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้พูดขึ้อย่างเกลียดชังว่า “สักวัน ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยมือของข้า!”
ฮูมู่หลู่ลุกขึ้นยืนอย่างสั่นเทา เขากำหมัดแน่น แต่บัดนี้เขากลับอดกลั้นความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดเอาไว้ แล้วพูดอย่างยอมจำนนว่า
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านผู้นำตำหนิถูกต้องแล้ว เป็นเพราะแผนบ้าๆของกระหม่อมจึงทำให้ท่านผู้นำต้องทรมานเช่นนี้ เป็นความผิดของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ”
ท่าทางของเขาเคารพมากเสียจนไม่มีที่ติ แม้แต่อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ที่กำลังโกรธเกรี้ยวก็ต้องรู้สึกยอม
“ช่างเถิด!”
เขาโบกมือแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “เห็นแก่ที่เจ้าร่วมรบกับข้ามานาน ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าสักครั้ง”
ฮูมู่หลู่ได้ยินดังนั้นก็ดีใจมาก เขารีบกราบกรานขอบคุณว่า “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะท่านผู้นำ!”
บัดนี้อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้มองไปรอบๆ แววตาของเขาสับสน จากนั้นเขาก็มองไปด้านหลัง บัดนี้เขาเหลือผู้ติดตามเพียงไม่กี่สิบคนแล้ว พวกเขาดวงตาเต็มไปด้วยความสับสน และนั่งลงกับพื้นหิมะอย่างไม่ทำอะไรไม่ได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ขบวนที่ยิ่งใหญ่ในทีแรก บัดนี้กลับเงียบเหงาอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่ไร้พื้นฐานของขบวนไปเลย
เมื่อได้ยินอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ด่าทอตนเองเช่นนี้ แม้ว่าฮูมุ่หลู่จะโกรธเกรี้ยว แต่ก็ยังฝืนอธิบายว่า
“ท่านผู้นำพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่ได้อยากจะพระองค์รนหาที่ตาย กลับกัน เรื่องนี้มีแต่ประโยชน์ไม่มีผลเสียเลย อีกอย่างนี่ก็เป็นแผนที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“พูดให้ชัดเจน” อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้พูดอย่างเย็นชา
ฮูมู่หลู่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาพยายามอดกลั้นความโกรธเกรี้ยวและการถูกดูหมิ่นแล้วพูดว่า
“ท่านผู้นำ กระหม่อมรู้ว่าบัดนี้ทรงเกลียดชังอาณาจักรฉิน แต่ว่าพระองค์จะต้องเข้าใจว่าบัดนี้เราไม่ใช่ชนเผ่าหนี่ว์เจินที่แข็งแกร่งในอดีตอีกแล้ว!”
“เราพ่ายแพ้แล้ว ต่อให้ไม่มีคนอาณาจักรฉินโจมตีก็อยู่ได้อีกไม่นานพ่ะย่ะค่ะ! บัดนี้เรามีแต่ต้องพึ่งอาณาจักรของชาวตาดเท่านั้นจึงจะผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้!”
อ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ฟังแล้วก็ครุ่นคิด ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็กัดฟันแล้วพูดว่า
“แต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องไปพึ่งพาชาวตาดนี่!”
“นอกจากชาวตาดแล้ว คนที่ใช่ชีวิตในทุ่งหญ้ามาทั้งชีวิตอย่างเราจะไปที่ใดได้อีก?” ฮูมู่หลู่พูดอย่างร้อนใจว่า “ท่านผู้พ่ะย่ะค่ะ เราไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว!”
เอเห็นว่าสีหน้าของอ้ายซินเจวี๋ยหลัวหย่งอี้ผ่อนคลายลง ก็เกลี้ยกล่อมต่อว่า
“พระองค์ไตร่ตรองให้ดีสิพ่ะย่ะค่ะ หากเราหนีไปหาชาวตาดแล้ว ด้วยความแข็งแกร่งของชนเผ่าหนี่ว์เจินของเรา ชาวตาดจะต้องเห็นความสำคัญเป็นแน่ อีกทั้งพวกเขาชาวตาดก็รอคอยจะเล่นงานอาณาจักรฉินอยู่ด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...