องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1198

หลิวอวี่หลินได้ยินดังนั้น เขายิ้มและพยักหน้าตอบรับ

“ท่านอ๋องเชิญกระหม่อมขนาดนี้ ย่อมมีเวลาให้ท่านอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นตามข้ามา” ฉินเหยียนหมุนตัว

ทั้งสองคนเดินมาถึงห้องหนังสือในจวนเจ้าเมืองอาณาจักรฉิน หลังจากปิดประตู ฉินเหยียนมองไปที่หลิวอวี่หลินด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นถามอย่างตรงไปตรงมาว่า

“ข้าสงสัยว่าผู้นำตระกูลหลิวพอใจกับเงื่อนไขที่ข้าให้ไปหรือไม่?”

หลิวอวี่หลินยิ้มและพูดว่า “พอใจพ่ะย่ะค่ะ เงื่อนไขของท่านอ๋องกระหม่อมพอใจเป็นอย่างมาก ตระกูลหลิวของกระหม่อมยินดีร่วมงานกับอาณาจักรฉินและทำงานด้วยใจพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนพยักหน้า คิดสักพักแล้วถามไปว่า “ข้าได้ยินมาว่าตระกูลหลิวสนใจเส้นทางรถไฟของอาณาจักรฉินหรือ?

“พ่ะย่ะค่ะ ทางรถไฟของอาณาจักรฉินมีระยะทางไกลหลายพันลี้ หากต้องการให้มีทางรถไฟเข้าถึงในเมืองหากคิดไม่รอบคอบจะเป็นเรื่องยาก กระหม่อมเลยคิดว่าหากตระกูลหลิวสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการนี้คงจะดีไม่น้อย”

หลิวอวี่หลินพยักหน้าไม่ปิดบังอะไรเลย

ฉินเหยียนจิบชาร้อน วางแก้วลงและเปลี่ยนหัวข้อถามต่อว่า

“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง ข้าสงสัยว่าเจ้าอยากร่วมงานกับข้าหรือไม่ ข้าขาดคนดูแลอยู่หนึ่งตำแหน่ง”

ตำแหน่งผู้ดูแลเป็นเหมือนเลขานุการ แม้ว่าตำแหน่งจะไม่สูงมากนัก แต่สิทธิอำนาจไม่อาจวัดจากตำแหน่งได้

ยิ่งไปกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าเป็นผู้ดูแลของใคร หากเป็นผู้ดูแลของฉินเหยียน แน่นอนว่าหากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ทุกคนจะต้องรีบแห่กันไปหาเขาแน่

แม้ว่าตำแหน่งอาจจะไม่สูงเท่านายกรัฐมนตรี แต่หากมองหลายแง่มุม อำนาจก็ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าตำแหน่งอื่นเลย

อีกทั้งสีหน้าของหลิวอวี่หลินกลับนิ่งมากจนน่าประหลาดใจ

เขายิ้มเล็กน้อย จากนั้นประสานมือตอบรับฉินเหยียนแล้วพูดว่า

“ขอบพระทัยอ๋องเหยียนมากพ่ะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมขอปฏิเสธ”

เมื่อฉินเหยียนได้ยินสิ่งนี้ เขาก็เลิกติ้วและมองไปที่หลิวอวี่หลินด้วยความประหลาดใจ

เขาไม่คาดคิดว่าหลิวอวี่หลินจะปฏิเสธเขาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

ไม่ว่าในกรณีใด ในฐานะคนคอยดูแล คอยเคียงข้างอ๋องเหยียนเป็นตำแหน่งที่น้อยคนจะปฏิเสธ

แต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับปฏิเสธออกมา

ฉินเหยียนถามด้วยความสับสน “ข้าถามเหตุผลได้หรือไม่?”

“จริงๆ แล้วง่ายมากพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมยังมีครอบครัวที่ต้องดูแล หากเป็นขุนนางในราชสำนัก กระหม่อมเกรงว่าจะมีข้อจำกัดหลายอย่าง”

หลิวอวี่หลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ฉินเหยียนมองเขาอย่างพินิจพิเคราะห์

แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินเกี่ยวกับความสามารถของหลิวอวี่หลินมามาก แต่ตอนนี้เมื่อตนได้เห็นอีกฝ่ายที่อายุยังน้อยมายืนต่อหน้าตนแล้ว ความกล้าหาญ ความเด็ดเดี่ยวและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ทำให้ตนประทับใจมาก

แล้วอาณาจักรฉินล่ะ? อาหารค่อยๆ ขาดแคลนเช่นกัน ในอดีตสามารถใช้กลยุทธ์แลกเปลี่ยนสินค้ากับอาณาจักรอื่นได้ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

แต่ตอนนี้กลับใช้กลยุทธ์นั้นไม่ได้อีกแล้ว เพราะตอนนี้ทั้งเก้าอาณาจักรในจิ่วโจวถือว่ารวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ไม่สามารถหลอกคนของตัวเองได้ใช่ไหมล่ะ?

เช่นนั้นไม่ต้องรอให้ถึงสองวัน ทั้งอาณาจักรจะต้องลุกฮือขึ้นมาต่อต้านเป็นแน่

ดังนั้น อาณาจักรฉินจึงต้องจัดหาธัญพืชจำนวนมากเพื่อบรรเทาความอดอยากในสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้อาณาจักรฉินเองยังมีอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ธัญพืชมากมาย เช่น การผลิตเหล้า เป็นต้น

เมื่อก่อนการผลิตเหล้านั้น พวกเขาอาศัยธัญพืชจากอาณาจักรอื่น แต่ตอนนี้กลับใช้วิธีนั้นไม่ได้อีกแล้ว

เมื่อปัจจัยหลายอย่างรวมกัน จิ่วโจวเป็นของอาณาจักรฉินแล้ว เริ่มขาดแคลนอาหาร อีกทั้งยังมีเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นต้องเกิดปัญหาอดอยากขึ้นแน่

“ถูกต้อง!”

ฉินเหยียนพยักหน้าและพูดต่อว่า

“แม้ว่าปัญหานี้จะไม่ได้รับการแก้ไขในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา แต่หากเกิดสงครามขนาดใหญ่และภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาณาจักรฉินต้องเผชิญหน้ากับปัญหาขาดแคลนอาหารอย่างแน่นอน”

หลังจากได้ยินดังนั้น หลิวอวี่หลินถามขึ้นทันทีว่า

“ท่านอ๋องไม่เคยพิจารณาอาณาจักรป๋อไห่มาก่อนเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ? ข้ารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาณาจักรฉินและอาณาจักรป๋อไห่ในตอนนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่ถึงแม้จะไม่สามารถสร้างทางรถไฟได้ หากต้องพึ่งพาอาหารจากอาณาจักรป๋อไห่ สามารถรับประกันได้หรือไม่ว่าอาหารในอาณาจักรฉินจะเพียงพอ”

ฉินเหยียนส่ายหน้าโดยไม่ลังเล

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์