องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1199

“เรื่องอาหารในอาณาจักรป๋อไห่อยู่ในแผนของข้า แต่ทางรถไฟนั้นแทนที่จะสร้างแค่ครึ่งเดียวแล้วไม่สร้างต่อ สู้สร้างให้จบเสียดีกว่า

“อย่างนี้นี่เอง...”

หลิวอวี่หลินเมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของฉินเหยียน ทางสร้างทางรถไฟเพียงแค่ครึ่งทาง มีความเป็นไปได้ที่ตระกูลหลิวสามารถดูแลได้ เพราะยังสามารถช่วยกันแลกเปลี่ยนอาหาร แต่ถ้าหากสร้างให้เสร็จไปเลย จะไม่เป็นเช่นนั้น

ท้ายที่สุดแล้วไม่มีใครบอกได้ว่าทางรถไฟสายต้องเป็นเส้นตรง อีกทั้งอาณาจักรป๋อไห่กว้างใหญ่ขนาดนั้น หากอาณาจักรฉินต้องการพัฒนา เขาต้องวางแผนไปยังเส้นทางอื่นที่ไม่ผ่านตระกูลหลิว

หากเป็นเช่นนั้น ตระกูลหลิวไม่ได้กินเนื้อหรอก แม้แต่ซุปก็ยังไม่ได้กินเลย

หลิวอวี่หลินคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจับประเด็นสำคัญแล้วเงยหน้าถามว่า

“ท่านอ๋อง ข้าสงสัยว่าหากอาณาจักรป๋อไห่ยอมจำนนต่ออาณาจักรฉินแต่โดยดีก่อนที่ทางรถไฟจะถูกสร้างขึ้น เช่นนั้นทางรถไฟสายนั้นจะยังถูกสร้างหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“หากเป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก็ ไม่ต้องพิจารณาแล้วพ่ะย่ะค่ะ สร้างให้เสร็จไปเลยทีเดียวเสียดีกว่า”

ฉินเหยียนยิ้ม

หากสร้างให้จบในครั้งเดียว จะต้องผ่านพื้นที่ของตระกูลหลิวและแน่นอนว่าจะนำมาซึ่งผลประโยชน์มากมายให้เขาแน่นอน

หลิวหวี่หลินยิ้มและพูดว่า “หากเป็นเช่นนั้น กระหม่อมจะลองเป็นตัวแทนอาณาจักรฉินลองดูว่อาณาจักรป๋อไห่จะยอมจำนนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ที่พูดมานั้นทำได้จริงหรือ?”

“จะสำเร็จหรือไม่นั้นกระหม่อมยังไม่กล้ารับประกันพ่ะย่ะค่ะ แต่จะลองให้สุดความสามารถพ่ะย่ะค่ะ”

“ฮ่าๆๆ ดี เช่นนั้นข้าจะรอฟังข่าวดี เจ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมไปปรึกษากับใต้เท้าจางได้เลย อาณาจักรฉินจะรีบหาวิธีแก้ปัญหาให้เจ้าอย่างดีที่สุด!”

ฉินเหยียนหัวเราะเสียงดัง สายตาของเขาเป็นประกาย

แม้ว่าตนจะล้มเหลวในการให้อีกฝ่ายมาทำงานด้วย แต่หากอีกฝ่ายทำเรื่องนี้สำเร็จล่ะก็ เช่นนั้นถือว่าสามารถแก้ปัญหาร้ายแรงให้ตนได้

หลิวอวี่หลินคิดเรื่องนี้และถามไปว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ทราบว่าท่านอ๋องสามารถให้ข้ายืมคนของท่านได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ยืมคนหรือ? ใครกัน?”

“จางจวินพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนหรี่ตาเล็กน้อย

เขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าขอยืมคนๆ นี้

ฉินเหยียนเตะคางแล้วถามอย่างสงสัย

“ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าเหตุใดเจ้าถึงขอยืมเขา?”

หลิวอวี่หลินพูดอย่างยินดี

“ข้าได้สาบานเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเขา เขาเป็นพี่ใหญ่ และช่างบังเอิญมากที่ว่าในช่วงนี้เขาไม่มีเรื่องสำคัญต้องทำ ก็เลยคิดว่าชวนเขาไปทำงานด้วยคงจะดีพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนถอนหายใจ การเดินทางของเขาไปยังเยี่ยนเป่ยเกือบจะสิ้นสุดแล้ว

สี่มณฑลในเยี่ยนเป่ยถูกควบคุมโดยกองกำลังที่ทรงพลังทั้งสี่ ตอนนี้มีตระกูลจาง ตระกูลอู๋ ตระกูลหลิวและตระกูลหยางต่างยอมจำนนแล้ว อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนด้วย

นอกจากนี้เหลือเพียงประเด็นเดียวคืออุตสาหกรรมเหล็กที่ยังหาข้อสิ้นสุดไม่ได้

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังไม่ถึงคราวที่ฉินเหยียนต้องกังวล เพราะภายใต้การจัดการของจางฝู อุตสาหกรรมเหล็กเต็มไปด้วยความผันผวน อีกทั้งได้รับความช่วยเหลือจากกรมโยธาธิการและขุนนางฝ่ายยุทโธปกรณ์ น่าจะเสร็จภายในต้นปี

เมื่อถึงเวลานั้น ฉินเหยียนถึงจะกลับไปตรวจสอบเพิ่มเติม จากนั้นกลับไปยังเมืองหลวง เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมพิธีขึ้นครองราชย์ของฉินชง

หลังจากนั้น กิจการในอาณาจักรป๋อไห่ควรได้รับการพิจารณาจากเขา เรื่องวิกฤตขาดแคลนอาหารในตอนนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนมาก นอกจากนี้ การทำลายล้างชนเผ่านวี่ห์เจินทำให้อาณาจักรฉินยังต้องระวังภัยคุกคามจากชาวทุ่งหญ้าอยู่เสมอ เรื่องนี้ต้องระวังเอาไว้ให้ดี

นอกจากนี้ เรื่องโรงต่อเรือเขายังไม่มีเวลากลับไปดู เขาต้องให้ความใส่ใจกับเรื่องนี้เสียหน่อย อีกทั้งไหนจะเรื่องการจัดตั้งกองกำลังกองทัพเรือและแต่งตั้งผู้บัญชาการอีกด้วย

เรื่องใหญ่เช่นนี้รอเขากลับไปจัดการหลังปีใหม่ บางทีเขาเหลือเวลาก่อนปีใหม่เพียงเล็กน้อยที่เป็นเวลาของเขาจริงๆ

ในเวลานี้จ้าวจือหย่าเห็นว่าเขาขมวดคิ้วแน่น นางจึงก้าวไปข้างหน้าถูคิ้วเขาและถามเบาๆ

“ท่านอ๋อง ใกล้จะปีใหม่แล้วเพคะ พวกเราจะฉลองปีใหม่ที่นี่หรือจะกลับบ้านกันดีเพคะ?”

ฉินเหยียนคิดแล้วคิดอีก จากนั้นถอนหายใจออกมา

“หิมะตกหนักขนาดนี้ พวกเราอย่าเปลี่ยนแผนไปมากันเลย เจ้าส่งคนกลับไปถามพี่เจ็ด หากพี่เจ็ดอยากกลับไปพร้อมกับพี่สะใภ้เจ็ดก็ให้เขากลับไปเถิด”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์