องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1215

หลี่เหยียนคังดวงตาแดงก่ำ เขาโกรธเกรี้ยวอย่างมาก และในขณะที่กำลังดิ้นรนก็เห็นว่าเต็นท์ถูกเปิดออก ทั่วป๋าหงเลี่ยได้ยินเสียงจึงออกมาดู เขาขมวดคิ้วถามว่า

“เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อเหล่าองครักษ์ได้ยินดังนั้นก็โค้งคำนับแล้วพูดอย่างเคารพว่า

“ข่านพ่ะย่ะค่ะ เจ้าคนที่ราบกลางผู้นี้รบกวนการพักผ่อนของข่าน พวกกระหม่อมกำลังสั่งสอนเขาพ่ะย่ะค่ะ”

ทั่วป๋าหงเลี่ยมองแล้วเห็นว่าหลี่เหยียนคังล้มอยู่กับพื้นอย่างทรุดโทรม สีหน้าจึงประหลาดใจ

“ท่านหลี่ นี่มัน......”

หลี่เหยียนคังกัดฟันแล้วเช็ดเลือดตรงมุมปาก จากนั้นก็ยืนขึ้นพูดว่า

“ข่าน กระหม่อมมีเรื่องอยากจะรายงานพ่ะย่ะค่ะ”

“ได้ เชิญด้านใน พวกเจ้าทำอะไรกันถึงได้ลงมือกับท่านหลี่เช่นนี้ ต่อให้หากเขาจะพบข้าให้เข้ามารายงานก่อน!”

ทั่วป๋าหงเลี่ยจ้องเหล่าองครักษ์เขม็ง น้ำเสียงถึงจะเข้มงวด แต่ความจริงแล้วก็ไม่ได้คิดจะลงโทษอะไรพวกเขา จากนั้นเขาก็แสร้งเชิญหลี่เหยียนคังเข้าไปในเต็นท์

“ท่านหลี่ ดึกดื่นป่านนี้แล้วมีธุระอะไรกับข้ารึ?”

ทั่วป๋าหงเลี่ยนั่งลงหัวโต๊ะแล้วเชิญหลี่เหยียนคังให้นั่ง

หลี่เหยียนคังค่อยๆหายใจเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดตรงมุมปาก เขาประสานมือคารวะพูดว่า

“ได้ยินมาว่าข่านจะเปลี่ยนให้ทั่วป๋าเยี่ยนไปเยือนอาณาจักรพัลแฮแทนงั้นรึ?”

ทั่วป๋าหงเลี่ยพยักหน้าแล้วพูดว่า “เดิมทีข้าตัดสินใจจะให้ท่านหลี่ไป แต่อาณาจักรพัลแฮเป็นเพียงอาณาจักรเล็กๆ ข้าคิดว่าไม่จำเป็นต้องให้ท่านหลี่ไปด้วยตนเอง จึงได้เปลี่ยนคน”

เมื่อหลี่เหยียนคังได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจอย่างยิ่ง เขารีบพูดว่า

“หามิได้! เรื่องนี้จะทำเช่นนี้มิได้!”

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายสงสัยในการตัดสินใจของตนเอง ทั่วป๋าหงเลี่ยก็ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เขาถามขึ้นว่า

“เพราะเหตุใด?”

เพียงแต่หลี่เหยียนคังไม่ได้สังเกตเห็นความพอใจนี้ หรือบางทีเขาอาจรู้แล้วแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ดังนั้นจึงเลือกที่จะพูดถึงสาเหตุ หวังว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจ

“อาณาจักรพัลแฮนั้นไม่ได้น่ากลัว แต่ปัญหาคือพวกเขาคือจุดสำคัญที่จะทำให้เรายับยั้งอาณาจักรฉินได้ อาณาจักรฉินเองก็จะต้องให้ความสำคัญอาณาจักรพัลแฮมากแน่นอน ดังนั้นจะต้องส่งคนไปด้วยเป็นแน่ และหากคนที่ข่านส่งไปไม่มีความสามารถแล้วทำให้แผนเสีย ก็จะทำให้อาณาจักรฉินได้เปรียบไปอย่างยิ่ง!”

เมื่อได้ยินการเกลี้ยกล่อมของอีกฝ่ายทั่วป๋าหงเลี่ยก็ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ยิ้มแล้วส่ายหน้าพูดว่า

“เรื่องนี้ท่านหลี่วางใจเถิด ทั่วป๋าเยี่ยนคือหลานชายของข้า ให้เขาไปก็เพียงพอแล้ว”

หลี่เหยียนคังร้อนใจ เขาประสานมือคารวะพูดว่า

“คนผู้นี้ไร้ความสามารถ หากให้เขาไปเผชิญกับอาณาจักรฉิน อาจทำให้เสียแผนของข่านก็เป็นได้!”

สีหน้าของทั่วป๋าหงเลี่ยไม่สบอารมณ์ เขาพูดว่า

“จะไร้ความสามารถได้อย่างไร? เขาเป็นถึงคนที่มีพรสวรรค์ในรุ่นชายหนุ่มเชียวนะ ท่านหลี่ดูถูกเกินไปรึไม่”

“ไม่เลย ข้ามองคนผู้นี้ใจแคบ ยโส เป็นรุ่นหลานที่ไร้ประโยชน์คนหนึ่ง......”

......

เมืองถูเหอ

“พี่ใหญ่”

“พี่ใหญ่ พี่สอง น้องสี่”

“น้องสอง น้องสาม น้องสี่!”

จางจวิ้น อู๋เจี๋ย หยางคังและหลิวอวี่หลิน ทั้งสี่คนได้แอบมารวมตัวกัน

“พี่ใหญ่ เราจะทำเรื่องใหญ่อะไรอีกรึ?”

เจ้าสามหยางคังถามจางจวิ้นขึ้นเบาๆ

“เรื่องใหญ่อะไรรึ?”

จางจวิ้นยิ้มแล้วพูดว่า “ให้น้องสี่บอกกับพวกเจ้าเถิด หากเราทำเรื่องนี้สำเร็จก็จะเชิดหน้าชูตาในอาณาจัดรฉินได้”

เมื่ออู๋เจี๋ยกับหยางคังได้ยินดังนั้นก็มองหลิวอวี่หลินอย่างดีใจ

หลิวอวี่หลินเองก็ถือพัดแล้วพัดเบาๆ จากนั้นก็เริ่มอธิบาย

เมื่อหลายวันก่อนขณะที่ได้พบกับอ๋องเหยียน เขาได้ชี้ให้เห็นถึงวิกฤตขาดแคลนเสบียงอาหารของอาณาจักรฉิน และได้กล่าวว่ามีวิธีคลี่คลายวิกฤตนี้ด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์