องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1220

ทั่วป๋าหงเลี่ยครุ่นคิดแล้วก็ตอบตกลงว่า “เข้าเต็นท์ก่อนสิ เข้ามาแล้วค่อยว่ากัน”

หลี่เหยียนคังนั้นเฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง สำหรับเขาแล้วมีความสำคัญอยู่บ้าง ยิ่งไปกว่านั้นผ่านไปนานหลายวันเพียงนี้แล้ว ทั่วป๋าหงเลี่ยเชื่อว่าบางทีหลี่เหยียนคังอาจสำนึกได้แล้ว จะไม่พูดเรื่องก่อนหน้านี้แล้ว

เมื่อหลี่เหยียนคังได้ยินดังนั้นก็โล่งอก เขาตามทั่วป๋าหงเลี่ยเข้าไปในเต็นท์

ทั้งสองนั่งลงแล้วทั่วป๋าหงเลี่ยก็ถามขึ้นว่า “ว่ามาเถิดท่านหลี่ มีเรื่องอะไรงั้นรึ?”

ผ่านไปครู่หนึ่งหลี่เหยียนคังก็เรียบเรียงคำพูดแล้วค่อยๆพูดขึ้นว่า

“ข่าน ข้าคิดว่าบางเรื่องเราควรจะวางแผนเอาไว้เนิ่นๆ”

“หือ เจ้าว่ามาสิ” ทั่วป๋าหงเลี่ยพูดขึ้นอย่างประหลาดใจเล็กน้อย

หลี่เหยียนคังพูดขึ้นว่า “ข่าน มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่อาณาจักรฉินอาจได้อาณาจักรพัลแฮไป ต่อไปเราควรจะ......”

“รอเดี๋ยว” ทั่วป๋าหงเลี่ยขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เขาพูดด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์ว่า “ท่านหลี่ นี่เจ้าหูทวนลมกับเรื่องที่ข้าได้พูดไปเมื่อไม่กี่วันก่อนงั้นรึ?”

“เปล่า ข้ามิได้ดูถูกทั่วป๋าเยี่ยนแต่อย่างใด......”

“แล้วเจ้าหมายความว่าอย่างไร?” ทั่วป๋าหงเลี่ยจ้องเขม็ง เขาตบโต๊ะเสียงดังแล้วตะคอกว่า “เจ้าหมายความว่าสมาชิกราชวงศ์ของข้าเป็นคณะทูตไปยังอาณาจักรเล็กๆเช่นนั้น จะทำภารกิจไม่สำเร็จอย่างงั้นรึ?”

“ข้า......”

“พอแล้ว ถอยออกไปเสีย”

ทั่วป๋าหงเลี่ยอดกลั้นความเดือดดาลเอาไว้ สุดท้ายก็โบกมือ

หลี่เหยียนคังลังเล สุดท้ายก็ต้องออกจากเต็นท์ไป

เมื่อออกมาเขาก็เหม่อลอยเล็กน้อย แล้วก็ส่ายหน้าอย่างขมขื่น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าแนวคิดเรื่องลำดับชั้นของชาวตาดจริงจังมากกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก หากคนนอกอยากจะเข้าร่วมกับพวกเขานั้นยากลำบากอย่างยิ่ง

และขณะเดียวกัน เขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นสายตาขององครักษ์แห่งข่านที่ประจำการอยู่มองเขาอย่างไม่เป็นมิตรอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาได้ยินเสียงตอนอยู่ด้านในแล้ว เจ้าคนจากที่ราบกลางคนนี้ทำให้ข่านของพวกเขาโกรธเกรี้ยวอีกแล้ว

เมื่อเห็นว่าเขาจะเดินไปก็มีคนหนึ่งตะโกนขึ้นว่า “หยุดเดี๋ยวนี้!”

หลี่เหยียนคังหยุดฝีเท้าแล้วหันหน้ากลับไป

คนคนนั้นพูดอย่างเย็นชาว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าเสียมารยาทต่อข่าน ตอนนี้คิดจะเดินไปง่ายๆงั้นรึ? ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปหรอกนะ”

พวกเขาหยิ่งยโส ผู้ที่จะได้เป็นองครักษ์ของข่าน โดยพื้นฐานจะต้องเป็นลูกหลานของขุนนางเท่านั้น พวกเขาไม่เอาพวกชาวตาดทั่วไปไว้ในสายตาด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่คนจากที่ราบกลางเลย

ส่วนทั่วป๋าหงเลี่ยก็เป็นคนที่สูงส่งที่สุดในใจของพวกเขา แล้วจะยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร หากข่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับหลี่เหยียนคัง พวกเขาคงฟันดาบลงไปยังคนที่ไม่เคารพข่านนานแล้ว

ผู้คุ้มกันรีบพยักหน้าแล้วพาหลี่เหยียนคังหนีออกจากตรงนั้นทันที

เมื่อออกมาแล้วผู้คุ้มกันจึงจะถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้วพูดว่า

“โชคดีที่ข้ามีไหวพริบ”

หลี่เหยียนคังเองก็ใช่ว่าจะโง่เขลา ก่อนหน้านี้ผู้คุ้มกันผู้นี้ประชดประชันและต่อต้านเขาบ่อยครั้ง เขาเองก็เคยไม่พอใจ แต่บัดนี้มันหายไปหมดแล้ว เขาพูดอย่างซึ้งใจว่า

“ขอบใจที่ช่วยข้า บุญคุณในวันนี้ เหยียนคังจะ......”

“ข้าทำเพื่อช่วยตนเองต่างหาก!”

ยังไม่ทันที่หลี่เหยียนคังจะพูดจบ ผู้คุ้มกันก็พูดแทรกตัดบทเขาอย่างไม่พอใจว่า

“หน้าที่ของข้าคือการปกป้องเจ้าตลอดเวลา หากเจ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา หรือทำความผิดที่ต้องประหารชีวิต ตามระเบียบแล้วข้าเองก็ต้องซวยไปด้วย!”

เมื่อพูดเช่นนั้นแล้วผู้คุ้มกันก็ด่าทอว่า “เจ้าตัวคนเดียว ห่วงแค่ตนเอง แต่ข้ายังมีคนข้างหลัง มีครอบครัวที่ยังรอให้ข้าดูแล หากเจ้าทำให้ข้าซวยไปด้วย ทั้งครอบครัวก็ต้องอดตายกันหมด!”

หลี่เหยียนคังอึ้งไป ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะซื่อตรงเพียงนี้ และยิ้มอย่างขมขื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์