องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1233

ทันทีที่ฉินเหยียนประกาศกร้าวเช่นนี้ ทุกคนในที่นั่นต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไป

ที่เขาพูดมานั้นชักจะมากเกินไปแล้ว หลี่ชางรู้สึกได้ถึงภาระอันหนักอึ้งของตัวเองในทันที

“ข้าจะทำตามที่ท่านอ๋องคาดหวังเอาไว้พ่ะย่ะค่ะ จะปกป้องที่ราบภาคกลางไปจนวันตาย!”

หลี่ชางกัดฟันพูด

“ดี!”

ฉินเหยียนตบไหล่เขา

หลังจากจัดการทุกอย่างแล้ว ฉินเหยียนมองไปที่ทุกคนด้วยรอยยิ้มและถามออกมาว่า

“ข้าแปลกใจมากที่พวกเจ้าทุกคนมาที่นี่ในวันนี้ ว่าแต่เหตุใดจางฝูถึงไม่อยู่ที่นี่?”

จางฝูเป็นคนให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่ดีเป็นอย่างมาก หากเขาต้องการทำสิ่งใด พูดแล้วต้องทำให้ได้ เขาเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวมาก

อย่างไรก็ตามในวันนี้ฉินเหยียนเห็นว่าจางฝูไม่ได้มาเข้าเฝ้า ทำให้เขางุนงง อดไม่ได้ที่จะถามถึง

เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนส่ายหน้า

อย่างไรก็ตามในเวลานี้ มีรายงานจากด้านนอกเข้ามาว่า

“ท่านอ๋อง ใต้เท้าจางต้องการเข้าเฝ้าพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”

“ให้เขาเข้ามา!”

ในไม่ช้า จางฝูก็เดินเข้ามาด้านใน ทักทายฉินเหยียนด้วยความเคารพและพูดว่า “เข้าเฝ้าอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนมองเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม

“วันแรกของวันปีใหม่ เจ้าก็มาสายเลยหรือ ไม่สมกับเป็นเจ้าเลย หรือว่าความสนุกสนานเริงรมย์ในช่วงวันปีใหม่จะทำให้เจ้าเรียนรู้ที่จะสนุกกับมันแล้ว?”

เมื่อได้ยินฉินเหยียนพูดหยอกล้อ เขาพลันหน้าแดงและพูดกลับว่า “ท่านอ๋อง กระหม่อมไปทำธุระมาพ่ะย่ะค่ะ”

“โอ้? เรื่องอะไรล่ะ?” ฉินเหยียนถามอย่างสงสัย

จางฝูได้ยินดังนั้น เขาพลันลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

“ท่านอ๋องยังจำหลิวอวี่หลินได้หรือไม่? ผู้นำตระกูลหลิวน่ะพ่ะย่ะค่ะ”

ฉินเหยียนเลิกคิ้วแล้วพูดว่า

“แน่นอนว่าต้องจำได้สิ มีเรื่องอะไรหรือ?”

หลิวอวี่หลิน บุตรแห่งกิเลนของเยี่ยนเป่ย ถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงเลยทีเดียว

ตอนที่พวกเขาพบกันครั้งแรก อีกฝ่ายชี้ให้เขาเห็นว่าอาณาจักรฉินกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติการขาดแคลนอาหารอย่างร้ายแรง ฉินเหยียนรู้สึกว่าชายคนนี้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มองภาพรวมออก ดังนั้นเขาจึงหยิบยื่นไมตรีให้อีกฝ่าย เพราะอย่างเก็บอีกฝ่ายเอาไว้

ผลก็คือเขากลับถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ เขาทำได้แค่ยอมรับผลนั้น

ครั้งที่สองที่เจอกันคือเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยการชักชวนของจางฝู หลิวอวี่หลินจึงยอมสมัครเข้ามา เพราะสนใจในอาณาจักรฉินเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ทันทีที่อีกฝ่ายเอ่ยปาก เขาขอตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรฉิน แต่เขาลังเลเล็กน้อย อีกฝ่ายจึงเดินออกไปโดยไม่แม้แต่มองหน้าเข้า

คนธรรมดาที่มีอำนาจ อาจคิดว่าเพราะหลิวอวี่หลินทำให้ตัวเองอับอาย

แต่ฉินเหยียนไม่ใช่คนธรรมดา เขาจึงครุ่นคิดว่าความตั้งใจของอีกฝ่าย แต่ยิ่งคิดนานเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไรกันแน่

ในเวลานี้ จางฝูกระแอมออกมาเบาๆ แล้วถามอย่างไม่มั่นใจ

“ท่านอ๋อง กระหม่อมขอแนะนำเขาอีกครั้ง วันนี้กระหม่อมพาตัวเขามาแล้ว ท่านเจอเขาได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

หลังจากพูดจบ จางฝูก็สังเกตสีหน้าของฉินเหยียนอย่างระมัดระวัง

ฉินเหยียนเลิกคิ้วขึ้น หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็ตอบรับ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินเหยียนอดไม่ได้ที่ยิ้มออกมา แล้วถามอย่างสงสัย

“เจ้าคิดเช่นนั้นจริงๆ หรือ?”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

หลิวอวี่หลินพยักหน้าอย่างหนักแน่น

เมื่อได้ยินดังนั้น ฉินเหยียนโล่งใจและพูดด้วยรอยยิ้ม

“เอาล่ะ วันนี้ขุนนางหลายคนอยู่ที่นี่ ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะแสดงความสามารถให้พวกเขาได้เห็น เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะให้ตำแหน่งที่เจ้าต้องภูมิใจอย่างแน่นอน มา เจ้ามานั่งก่อน”

“ขอบพระทัยอ๋องเหยียนพ่ะย่ะค่ะ!”

หลิวอวี่หลินขอบคุณด้วยรอยยิ้ม จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ

ฉินเหยียนพูดตรงเข้าประเด็นทันที

“เจ้ารู้วิธีการปกครองอาณาจักรหรือไม่?”

หลิวอวี่หลินพยักหน้าและตอบกลับว่า

“พอรู้บ้างพ่ะย่ะค่ะ!”

“ฮ่าๆๆ เช่นนั้นพวกเรามาคุยกับว่าในอนาคตจะปกครองอาณาจักรฉินอย่างไร!” ฉินเหยียนหัวเราะและพูดอย่างสนใจ

เมื่อหลิวอวี่หลินได้ยินดังนั้น เขายิ้มเล็กน้อยและเริ่มพูดเสียงดังต่อหน้าทุกคน แต่ทันทีที่เขาเอ่ยปาก ทุกคนกลับต้องขมวดคิ้ว

“ข้าเชื่อว่าอาณาจักรฉินต้องการมีอำนาจมากขึ้น ควรปฏิบัติตามวิถีของราชวงศ์ที่มีมานานนับพันปี และเป็นแนวทางดั้งเดิมของจิ่วโจว เช่นเดียวกับฮ่องเต้เยี่ยน ที่อาณาจักรฉินควรเรียนรู้จากเขา...”

หลิวอวี่หลินไม่ทันสังเกตสีหน้าเศร้าหมองของทุกคนที่อยู่ตรงนั้น เขายังคงพูดต่อไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์