ทั่วป๋าหงเลี่ยได้ยินว่าคือหลี่เหยียนคัง เดิมทีเขาไม่ได้อยากพบ แต่เมื่อได้ยินว่ามีผู้นำและขุนนางหลายคนมาด้วย จึงได้พูดอย่างฝืนใจว่า
“พาพวกเขาเข้ามาพบข้า”
ทันใดนั้นพวกหลี่เหยียนคังก็ได้รีบมาถึงในเต็นท์ของทั่วป๋าหงเลี่ย
“ข่านพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อทุกคนเข้ามาแล้วก็พากันคุกเข่าลง
“ยืนขึ้นเถิด”
ทั่วป๋าหงเลี่ยโบกมือ จากนั้นก็ขมวดคิ้วมองหลี่เหยียนคัง
“พวกเจ้ารีบร้อนมาพบข้าเช่นนี้ มีเรื่องใดงั้นรึ?”
หลี่เหยียนคังประสานมือคารวะพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า
“ข่านพ่ะย่ะค่ะ เราติดกับดักของอาณาจักรฉินแล้ว หากจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในตอนนี้ยังทันนะพ่ะย่ะค่ะ!”
คำพูดของเขาทำให้ทั่วป๋าหงเลี่ยแสดงสีหน้าสงสัย เขาขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ติดกับอย่างไร?”
หลี่เหยียนคังรีบพูดตามที่เขาคาดเดาอย่างละเอียด เขากัดฟันพูดว่า
“การเคลื่อนไหวของอาณาจักรฉินในครั้งนี้ร้ายกาจอย่างยิ่ง โปรดบัญชาให้โจมตีเพื่อจัดการหกหมื่นคนนั้นด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ทั่วป๋าหงเลี่ยขมวดคิ้วแน่นมากขึ้น เขาถามว่า “เจ้ามั่นใจว่านี่คือแผนลูกโซ่ของอาณาจักรฉินรึ?”
“จริงแท้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
“หากเป็นเช่นนั้น เราก็ต้องรับมืออย่างระมัดระวัง”
ทั่วป๋าหงเลี่นเงียบไปครู่หนึ่ง เขาครุ่นคิดแล้วรู้สึกว่าสิ่งที่หลี่เหยียนคังกล่าวมีเหตุผล แต่ว่าก็ยังมีความกังวล เขาถามว่า
“หากเจ้าหลี่ชางมุ่งเป้ามาที่เราจะทำอย่างไร? ทันทีที่เรามีการปรับเปลี่ยน ในระยะสั้นๆจะต้องเกิดความวุ่นวายภายในเผ่าแน่นอน หากหลี่ชางฉวยโอกาสใช้โอกาสจากช่องโหว่นี้ การจะตามหาเขาอีกครั้งก็ไม่ง่ายดายแล้ว”
หลี่เหยียนคังได้ยินดังนั้นก็รีบพูดทันทีว่า
“เป็นไปไม่ได้ อาณาจักรฉินไม่ได้โง่เขลา ชาวตาดไม่ใช่ชนเผ่าหนี่ว์เจิน กระหม่อมได้ตรวจสอบมาก่อนแล้ว พวกหกหมื่นกว่าคนนั้นเป็นเพียงชาวเมืองที่ไร้ประสบการณ์สู้รบ นอกเสียจากว่าหลี่ชางจะรนหาที่ตาย ไม่เช่นนั้นเขาไม่มีทางฝืนบุกเข้ามาเป็นแน่ เพราะนั่นจะเป็นการเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงพ่ะย่ะค่ะ!”
“ดี! เช่นนั้นก็จัดการเจ้าหกหมื่นคนนั้นจามที่ท่านหลี่กล่าวมา!”
บัดนี้ทั่วป๋าหงเลี่ยถูกเกลี้ยกล่อมแล้ว แต่ว่าในขณะที่เขาจะออกคำสั่งในการลงมือกับกองทัพของหลี่ชาง ก็มีทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาในเต็นท์อย่างรีบร้อน
“ข่านพ่ะย่ะค่ะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!” เมื่อเขาเข้ามาแล้วก็ตะโกนอย่างกระวนกระวาย
“เกิดเรื่องใดขึ้นจึงกระวนกระวายเช่นนี้ ค่อยๆพูด อย่าร้อนใจ!” ทั่วป๋าหงเลี่ยเลิกคิ้วแล้วตะคอกขึ้น
หลี่เหยียนคังพูดอะไรไม่ออก
“ข่านพ่ะย่ะค่ะ ท่านหลี่เองก็กังวลจนผิดพลาดเช่นนี้ พวกกระหม่อมจะพาเขาไปเดี๋ยวนี้ โปรดอย่าโกรธเกรี้ยวเลยพ่ะย่ะค่ะ”
ผู้นำคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆหลี่เหยียนคงออกมาพูด และได้ยื่นมือดึงหลี่เหยียนคังไปด้วย เพื่อให้เขารีบไป
แต่หลี่เหยียนคังจะยอมง่ายๆได้อย่างไร บัดนี้สมองของเขามีเป็นเรื่องที่จะหยุดแผนการของอาณาจักรฉินได้อย่างไร เขารีบพูดขึ้นว่า
“ข่านพ่ะย่ะค่ะ เราจะติดกับไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ อีกอย่างแค่หกหมื่นคนก็ทำให้เรากลัวได้ จะเป็นการหยามหน้าของชายหนุ่มทุ่งหญ้านะพ่ะย่ะค่ะ”
ทั่วป๋าหงเลี่ยสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพยายามอดกลั้นความเดือดดาล
“ท่านหลี่ เจ้ายังไม่มีสิทธิ์จะมาออกความเห็นเรื่องศักดิ์ศรีของชายหนุ่มทุ่งหญ้า ถอยไปเถิด!”
แม้ว่าเขาจะโกรธหลี่เหยียนคังอย่างมาก แต่อย่างไรตอนนี้หลี่เหยียนคังก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำหลายคน เขาจึงอดทนเอาไว้
เมื่อหลี่เหยียนคังเห็นดังนั้นแล้วก็ถอนหายใจแล้วเดินจากไป
เมื่อเขาออกจากเต็นท์ไปแล้วทั่วป๋าหงเลี่ยก็พูดอย่างเดือดดาลว่า
“ไร้ประโยชน์ ไร้สาระสิ้นดี!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...