ฉินเหยียนมองไปที่จดหมายลับที่เขาเพิ่งได้รับมา พร้อมกับต่อยไปที่โต๊ะอย่างแรง ดวงตาเขาพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที
เสียงหมัดที่กระทบโต๊ะ ทำให้จางฝูและคนอื่นๆ ที่อยู่ตรงนั้นถึงกับตกใจ และสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
เมื่อเห็นสีหน้าของอ๋องเหยียนในเวลานี้แล้ว พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย
ทุกคนในตอนนี้ทำงานร่วมกับอ๋องเหยียนมาระยะหนึ่งแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นอีกฝ่ายโมโหเดือดขนาดนี้
อีกฝ่ายโกรธมากจริงๆ
ฉินเหยียนมองไปที่จดหมายลับตรงหน้าเขา สายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น พร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า
“นี่คือประชาชนของอาณาจักรฉิน หากไม่แก้แค้น ข้าก็ไม่ใช่คนแล้ว!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น จางฝูพลันยิ่งรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น เขารีบตอบไปว่า
“ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“พวกเจ้าดูสิ!”
ฉินเหยียนยื่นจดหมายลับไปให้ทุกคนได้อ่าน
หลังจากอ่านจบแล้ว พวกเขาเองก็โกรธมากเช่นกัน
ตามการรายงานของหน่วยข่าวกรอง อาณาจักรพัลแฮ เก้าในสิบครัวเรือนถูกสังหารทั้งหมด และบรรดาผู้หญิงต้องทุกข์ทรมานกับชะตากรรมที่น่าสังเวช บรรดาทหารทุ่งหญ้าเหล่านั้นใช้อาณาจักรพัลแฮเป็นสถานที่ระบายความความไร้อารยธรรมของเขา
ส่วนราชวงศ์ในอาณาจักรพัลแฮก็ไม่ได้ดีไปกว่าประชาชนนัก สมาชิกเกือบทั้งหมดถูกฆ่าตาย แม้แต่เด็กทารกยังไม่รอด
สำหรับบรรดาองค์หญิง ชะตากรรมของพวกนางถูกพูดถึงในจดหมายลับเช่นกัน แค่อ่านข้อความก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งโกรธจนตัวสั่นแล้ว
ฮ่องเต้อาณาจักรพัลแฮถูกตัดศีรษะหลังกัดลิ้นตาย และตอนนี้ยังไม่พบร่างเขา...
เรื่องเดียวที่เป็นเรื่องดีก็คือ หมู่บ้านและเมืองในเขตชานเมืองของอาณาจักรพัลแฮยังไม่ได้รับอันตรายจนถึงตอนนี้ แต่ไม่ใช่ว่าเพราะอีกฝ่ายใจดี แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่มีเวลาไปตรวจสอบ
ฉินเหยียนกัดฟันแน่น และพูดด้วยความโกรธว่า
“พวกสัตว์เดรัจฉานเหล่านั้น กระทำตัวเลวร้ายยิ่งกว่าสัตว์เสียอีก ข้าสาบานว่าจะกวาดล้างตระกูลต้าเยว่จื้อให้สิ้นซาก!”
เฮือก!
เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ พลันขนลุกขึ้นมาทันที
ใครจะคิดว่าอาณาจักรฉินที่ปกติจะอ่อนโยนและใจกว้าง กล้าสาบานว่าจะทำลายอีกฝ่ายเช่นนี้!
ใครก็ไม่อาจจินตนาการได้ว่าอาณาจักรฉินเกลียดตระกูลต้าเยว่จื้อมากแค่ไหน
หากคำสาบานนี้ถูกกระจายออกไป มันจะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของอ๋องเหยียนอย่างแน่นอน
และหากเขาทำเช่นนี้จริงๆ พวกเขากลัวว่าพวกนักวิชาการจะต้องวิพากษ์วิจารณ์พวกเขาเป็นแน่
แต่เมื่อพวกเขานึกถึงเนื้อหาในจดหมายลับนั้น ทุกคนต่างพูดอะไร ไม่มีใครคิดจะโน้มน้าวอ๋องเหยียนเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าสิบสี่!”
ในเวลานี้ มีเสียงตะโกนมาจากด้านนอก จากนั้นชายหนุ่มใส่ชุดนอนวิ่งเข้ามาพร้อมกับมีสีหน้าไม่พอใจ
ไม่ใช่ใครอื่น ฉินอวี่นั่นเอง
“พี่เจ็ด” สีหน้าของฉินเหยียนดีขึ้นเล็กน้อย
เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าไม่พอใจ เขารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ฉินอวี่กัดฟันพูดขึ้นมาว่า
“น้องสิบสี่ ให้ข้าเป็นผู้นำทัพเข้าไปสังหารพวกคนชั่วเหล่านั้นเถิด”
“พี่เจ็ด ใจเย็นก่อน”
ฉินเหยียนดึงให้ฉินอวี่นั่งลง แล้วพูดเสียงต่ำว่า “กองทัพสองแสนนายไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ”
“ให้ข้าจัดการเถอะ เจ้าสิบสี่ ข้าไม่เคยขออะไรเข้าเลย แต่ครั้งนี้ข้าต้องไป แค่ปล่อยให้พวกมันรอดไปได้คนหนึ่ง ข้าต้องกลับไปตัดหัวมันกลับมาให้เจ้าจงได้!”
ฉินเหยียนมองไปที่ฉินอวี่ที่ดื้อรั้น พลันขมวดคิ้วแล้วพูดว่า
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกันพี่เจ็ด กองทัพอาณาจักรเยี่ยนกว่าสองหมื่นนายได้เข้ามาใกล้เมืองเสิ่นแล้ว กองทัพนี้เพิ่งรวบรวมมาได้ ยังไม่มีผู้นำทัพ ท่านพี่ไปเป็นผู้นำทัพให้พวกเขาดีไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...