องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1276

ฉินเหยียนพูดอย่างเรื่อยเปื่อย แต่จ้าวจือหย่ากลับฟังแล้วกลับอดหัวเราะไม่ได้ นางยิ้มแล้วพยักหน้าเห็นด้วย แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ใต้บังคับบัญชามารายงาน

“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ ท่านจางฟูมาขอเข้าพบ พ่ะย่ะค่ะ......”

เมื่อสิ้นเสียงแล้ว ฉินเหยียนยังไม่ทันพูดอะไร จางฝูก็รีบพุ่งเข้ามาอย่างร้อนใจ

“ท่านอ๋อง เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉินเหยียนขมวดคิ้วมองจางฝู เขาเกิดใจไม่ดีขึ้นมาและถามขึ้นว่า “มีเรื่องใด?”

จางฝูถอนหายใจยาวๆแล้วพูดด้วยสีหน้าหนักใจว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ จากรายงานของหน่วยสอดแนมพบว่ามีกองทหารศัตรูกลุ่มหนึ่ง ดูแล้วน่าจะเป็นกองกำลังของชาวตาด กำลังมุ่งหน้ามายังเมืองถูเหอพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ยินดังนั้นบรรยากาศในห้องก็ตึงเครียดไปหมด

ผ่านไปครู่หนึ่งฉินเหยียนจึงจะขมวดคิ้วถามว่า “มีจำนวนเท่าไร?”

“ศัตรูปรากฏอยู่ที่ราบกลางกันหมด ดังนั้นจึงแบ่งแยกไม่ยาก รวมแล้วมีหนึ่งหมื่นกว่านายพ่ะย่ะค่ะ”

“หนึ่งหมื่นกว่านายรึ? โผล่มาจากที่ใดกัน”

จ้าวจือหย่าสูดลมหายใจเข้าอย่างตะลึง จากนั้นมองฉินเหยียนอย่างกระวนกระวายแล้วพูดว่า

“ท่านอ๋องเพคะ ที่เมืองถูเหอในตอนนี้ รวมกองกำลังทหารเฝ้าระวังแล้วก็มีเพียงหนึ่งพันนายนะเพคะ”

หากเป็นเมืองอื่นก็ยังพอมีกองกำลังบ้าง แต่หากให้พวกเขารีบมุ่งหน้ามา ไม่ทันการอย่างแน่นอน

ฉินเหยียนเองก็เข้าใจ เขาขมวดคิ้วพูดว่า

“ไม่ต้องเป็นกังวลมาก กำแพงเมืองของเมืองถูเหอได้รับการซ่อมแซมมาก่อนแล้ว ไม่ได้โจมตีง่ายๆ เรียกรวมเหล่าชาวเมืองเสียก่อน ให้ทุกคนกระตือรือร้นในการช่วยกันเฝ้าระวังเมือง จากนั้นก็ส่งคนจากจวนเจ้าเมืองออกไป ให้มุ่งหน้าไปหาเหล่าขุนนางเพื่อให้พวกเขารวมคนรับใช้ของพวกเขาด้วย”

“จากนั้นก็ให้ไปหาผู้พิพากษาท้องถิ่นแห่งเมืองถูเหอ ให้เขาเรียกใช้นักการในศาลาว่าการด้วย ส่งเหล่าองครักษ์ของข้าไปด้วย ให้ต้าหย่งคอยรับผิดชอบการเฝ้าระวังเมืองทั้งหมด เช่นนี้ก็มีหลายพันคนแล้วนี่”

แผนการของฉินเหยียนสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง เมื่อมีคนหลายพันคนคอยเฝ้าระวังเมือง ฉินเหยียนไม่ได้ใส่ใจกับพวกกองกำลังทั่วไปที่มีจำนวนหนึ่งหมื่นนายของชาวตาดเลย

อีกอย่าง ต่อให้สู้ไม่ได้ การจะเฝ้าระวังเอาไว้หลายสิบวัน หรือหลายเดือนก็ไม่ใช่ปัญหาเลยแม้แต่น้อย ถึงตอนนั้นกองสนับสนุนจากทุกสารทิศก็มาถึงนานแล้ว

ว่ากันตามตรงฉินเหยียนไม่เข้าใจเลยว่าเจ้าพวกนี้โง่หรือเปล่า? นี่มันรนหาที่ตายชัดๆไม่ใช่รึ? แต่แม้ว่าเขาจะคิดเช่นนั้น แต่จางฝูและจ้าวจือหย่ากับให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเขาอย่างยิ่ง

จางฝูรีบเกลี้ยกล่อมว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ สิ่งที่พระองค์จัดแจงนั้นไม่มีปัญหาเลย แต่พระองค์ต้องออกจากที่นี่ก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ”

“นั่นสิเพคะ” จ้าวจือหย่าเองก็เกลี้ยกล่อมว่า “อย่างไรแล้วจะดูถูกกองกำลังหนึ่งหมื่นกว่านายของขาวตาดไม่ได้นะเพคะ เราเองก็ยังไม่รู้เป้าหมายของพวกมัน เกรงว่าพวกมันเองก็มีความมั่นใจ ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มารนหาที่ตายเช่นนี้เพคะ”

จางฝูเองก็รีบพยักหน้าเห็นด้วย

แต่ฉินเหยียนกลับส่ายหน้าแล้วพูดอย่างจริงจังว่า

“ใช่ เราจะขึ้นกำแพงเมืองเพื่อปกป้องอ๋องเหยียน!”

“ปกป้องอ๋องเหยียน!”

เหล่าชาวเมืองต่างก็เลือดร้อนอย่างมาก จางฝูยังไม่ได้ทำอะไรมากนัก ชาวเมืองก็มุ่งหน้าไปยังกำแพงเมืองมากมาย พวกเขาต่างจ้องไปยังพื้นที่ว่างเปล่านอกเมืองอย่างโหดเหี้ยม แล้วถืออาวุธต่างๆนานาเฝ้าอยู่แล้ว

จางฝูเหม่อลอยไป ในขณะที่เขากำลังเหม่อก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังอีก ที่แท้ก็เป็นเหล่าขุนนางที่พาคนรับใช้มาช่วย

“ท่านจาง ทำเช่นนี้เกรงใจกันเกินไปแล้วนะ เรื่องใหญ่เพียงนี้เหตุใดจึงไม่บอกพวกข้าบ้าง?”

“นั่นสิ พวกข้าแต่ละตระกูลเกือบจะต้องซวยแล้ว นี่เจ้าอยากจะให้พวกข้าถูกวิจารณ์รึ?”

เหล่าขุนนางต่างก็แย่งกันพูด ทำเอาจางฝูรู้สึกรับมือไม่ค่อยถูก เขาเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าลืมแจ้งข่าวไป เมื่อเห็นทุกคนอยากจะเข้าร่วมการเฝ้าระวังอย่างดุดันแล้ว ก็ได้รีบถามขึ้นว่า

“พวกเจ้าพาคนมาเท่าไรกันรึ?”

“ไม่มากนักหรอก ทุกคนในตระกูลรวมถึงคนรับใช้ของข้าอยู่ที่นี่หมดแล้ว!”

“พวกเจ้าเองก็จะเข้าร่วมด้วยตนเองงั้นรึ?”

“พูดอะไรของเจ้า พวกข้าไม่เพียงแต่จะเข้าร่วมเท่านั้น แต่ลูกชายแท้ๆของพวกข้าก็จะเข้าร่วมด้วย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์