องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์ นิยาย บท 1285

แผนนี้ทำเอาสามพี่น้องมึนงงไปหมด

“เราจะทำตามที่เจ้าสี่บอกรึไม่?” อู๋เจี๋ยขมวดคิ้ว ความจริงเขาก็ไม่ได้อยากออกจากเยี่ยนเป่ยนัก

จางจวิ้นเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า “พวกเจ้ายังจำได้รึไม่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าสี่พูดไว้ว่าอย่างไร?”

“เขาบอกว่าจะช่วยวางแผนอนาคตที่สดใสให้พวกเรา” อู๋เจี๋ยพึมพำเบาๆว่า “หรือว่านี่จะเป็นอนาคตที่สดใสของพวกเรา?”

จางจวิ้นพยักหน้าแล้วพูดว่า “ข้าคิดว่าใช่”

หยางคังเกาศีรษะแล้วถามขึ้นว่า “พี่ใหญ่ แล้วจะอยู่ที่อาณาจักรพัลแฮไปก่อนรึไม่?”

จางจวิ้นเงียบไปครู่หนึ่ง ผ่านไปครู่หนึ่งก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า

“อย่างไรข้าก็ไม่มีที่จะไปอยู่แล้ว กลับไปก็ไม่รู้จะทำอะไร อยู่ที่ก็ย่อมได้ หลินเอ๋อร์ก็อยู่ที่นี่ ดังนั้นข้าจะเชื่อเจ้าสี่”

“เช่นนั้นข้าก็จะเชื่อเจ้าสี่ด้วย เจ้าจะกลับไปบอกกับท่านพ่อ แล้วไปที่แมนจูเรีย”

หยางคังพูดอย่างจริงจัง

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะลงใต้” อู๋เจี๋ยยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “พวกเจ้าตกลงกันแล้ว ข้าคงปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะ”

“ดี ฮ่าๆๆ หากเจ้าสี่หลอกพวกเรา ข้าไม่ปล่อยเขาไว้เป็นคนแรกเลย” จางจวิ้นหัวเราะแล้วพูดขึ้น เขาอารมณ์ดีมาก

“อืม หากเจ้าสี่หลอกเรา ไว้พบเขาแล้ว เรารุมต่อยเขากัน!”

สามพี่น้องหัวเราะเสียงดัง จากนั้นก็ลังเลไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะการจากลากันครั้งนี้ พวกเขาก็จะอยู่ห่างไกลกันมาก ไม่รู้ว่าจะได้มารวมกันอีกทีเมื่อไร

จางจวิ้นเปิดใจกว้าง เขายิ้มแล้วกางแขนออก จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า

“น้องสอง น้องสาม จากลากันครั้งนี้ ขอให้พวกเราทั้งสี่คนได้พัฒนาในด้านของตนเองอย่างรุ่งโรจน์!”

“พี่ใหญ่ รักษาตัวด้วย!”

ทั้งสามคนจับมือกันแน่น

......

ฟ้าสว่างแล้ว

หน่วยเฝ้าระวังที่ประจำการอยู่ที่แมนจูเรีย

หลี่ชางยิ้มยืนรอต้อนรับเหล่าแม่ทัพจากหลายแห่งอยู่หน้าประตูค่ายตั้งแต่เช้าแล้ว เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาก็คือผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพเฝ้าระวังแล้ว มีกองกำลังสามแสนนายอยู่ในมือ

ไม่นานเหล่าแม่ทัพจากหลายแห่งก็ได้มาถึงที่นี่ เมื่อเห็นหลี่ชางแล้วต่างก็เคารพเขาอย่างยิ่ง ไม่มีใครดูถูกเขาเพียงเพราะอายุเลย ต่างก็ประสานมือคารวะอย่างเคารพแล้วพูดว่า

“ข้าน้อยทักทายขุนพลชนะศึกขอรับ!”

หลี่ชางส่ายหน้า

ทุกคนพยักหน้า พวกเขามีกลยุทธ์ที่จะรับมือกับการพุ่งโจมตีเข้ามาของทหารม้า จึงไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร

ขณะนั้นเองก็มีแม่ทัพขบวนถามขึ้นว่า

“หากเป็นการคุมเชิงกันจริงๆแล้วเราจะทำอย่างไรกันดี? จะเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีพวกมันรึไม่ขอรับ?”

“ไม่ได้อยู่แล้ว” หลี่ชางปฏิเสธทันที

“ตอนนี้พวกเราเพิ่งจะก่อตั้งแมนจูเรียขึ้นมา ยังมีรากฐานที่มั่นคงนัก แถมยังมีเยี่ยนเป่ยที่เราต้องปกป้องด้วย ภารกิจหลักของเราก็ยังคงเป็นการเฝ้าระวัง”

“ต่อให้ภารกิจของเราจะเป็นการโจมตี ก็ต้องรอให้เวลาและสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยก่อน ไม่เช่นนั้นหากทำการโจมตีแล้วชาวตาดก็จะหนีเข้าไปในทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ หากไล่ตามไปก็จะติดกับได้ง่าย ไม่ไล่ตามไปก็จะเสียเปล่า และหากนานๆไปเหล่าทหารก็จะทนไม่ไหว”

หลี่ชางส่ายหน้าแล้ววิเคราะห์อย่างมีเหตุผล ตอนที่บัญชาการทหารสามพันคนเขาอาจบุกอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น อย่างไรเบื้องหลังก็มีคนที่เปิดเผยทุกอย่างหมดเปลือก ในตอนที่บัญชาการหนึ่งหมื่นคน เขาสามารถบุกโดยให้ทหารส่วนหนึ่งคอยเฝ้าระวังด้านหลังให้ได้

แต่บัดนี้เขากำลังบัญชาการทหารสามแสนนายอยู่ เป็นประตูของทั่วทั้งเก้าแคว้น เขาจะบุ่มบ่ามไม่ได้ หากบุกเข้าไปก็จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก ต่อให้จะเป็นช่องโหว่เล็กๆก็จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสถานการณ์โดยรวมด้วย ดังนั้นเขาจะทำเรื่องเช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วเราจะทำอย่างไรกันดี? จะอยู่เช่นนี้ต่อไปรึ?” แม่ทัพขบวนคนหนึ่งถามขึ้น

หลี่ชางคิดหาคำพูด จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าศัตรูไม่เคลื่อนไหว เราไม่เคลื่อนไหว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์