หลังจากที่หิมะในเยี่ยนเป่ยละลายแล้ว ทุกสิ่งก็ฟื้นคืนกลับมา หญ้าสีเขียวขจี ดอกไม้กำลังเบ่งบาน ทั่วทั้งพื้นดินเต็มไปด้วยชีวิตชีวา
“งดงามเสียจริง!” ฉินเหยียนถอนหายใจเบาแล้วพูดขึ้น ดินแดนเช่นนี้ช่างน่าประทับใจ
ขบวนรถได้ผ่านที่นาต่างๆ ได้พบกับกลุ่มชาวเมืองที่กำลังเข็นเครื่องมือการเกษตรต่างๆ พวกเขาถือจอบ เคียว และพลั่วกำลังทำงานอยู่ในที่นา บ้างก็หยุดทักทายเมื่อเจอราชรถ
ฉินเหยียนมองเหล่าชาวเมืองในชนบทที่เรียบง่ายและเป็นมิตรแล้วก็ยิ้มออกมาบางๆ
......
ปฏิทินฉิน วันที่สิบ เดือนมีนาคม ฤดูใบไม้ผลิ กองทัพของฉินเหยียนกำลังเดินทางอยู่ที่ดินแดนอาณาจักรหลู่
ต้าหย่งรายงานว่า “ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ เราได้เข้ามาในดินแดนอาณาจักรหลู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฉินเหยียนลืมตาขึ้นแล้วออกคำสั่งว่า “เพิ่มความเร็วบ้างได้แล้วล่ะ จะได้รีบกลับไปยังเมืองหลวงอาณาจักรฉิน”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อต้าหย่งน้อมรับคำสั่งแล้วก็ถอยไป ส่วนฉินเหยียนก็หลับตางีบต่อ
สายลมเย็นทำให้ทหารในกองทัพส่วนใหญ่รู้สึกหายใจคล่อง และขณะเดียวกันก็รู้สึกเกียจคร้านเล็กน้อย ในยามเที่ยงขบวนก็ยังคงเดินทางไปอย่างต่อเนื่อง แต่จู่ๆก็เกิดมีแผ่นดินไหว แผ่กระจายไปทั่วพื้นดิน ราวกับดาวเคลื่อนดาราคล้อย
ฉินเหยียนที่กำลังจะเคลิ้มหลับไปก็ลืมตาขึ้นทันที แผ่นดินไหวรุนแรงทำให้เขานั่งอยู่ในรถอย่างไม่มั่นคง
“แผ่นดินไหว!”
ฉินเหยียนตกตะลึงแล้วหายง่วงทันที จากนั้นเขาก็รีบเปิดม่านออกแล้วดูสถานการณ์ด้านนอก เมื่อมองไปแล้วฉินเหยียนก็ถึงกับอึ้งไปทันที พื้นดินสงบสุขอันกว้างใหญ่กำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ทำให้รู้สึกว่ากำลังฝันไป
ดินและก้อนหินกำลังพังทลายลงและแตกเป็นเสี่ยงๆ มันกำลังถล่ม กองทัพเกิดความโกลาหล และโซเซไปเพราะแรงสั่นของแผ่นดินไหว
ไม่เพียงแต่ทหารทั่วไปเท่านั้น แม้แต่ราชรถของฉินเหยียนเองก็ไหลไปตามที่นาที่อยู่ระดับต่ำอย่างควบคุมไม่ได้ คนบังคับรถที่อยู่ด้านหน้าพยายามเบรกและหมุนพวงมาลัยอย่างสุดกำลัง แต่พื้นที่ลื่นก็ทำให้รถโคลงเคลง ยากที่ควบคุม
รถขยับส่ายไปมาทำให้ฉินเหยียนที่รู้สึกวิงเวียนศีรษะและหนักอึ้งดวงตาแดงก่ำทันที เขาทำได้เพียงจับที่วางแขนเอาไว้แน่นถึงจะพยุงตัวเอาไว้ได้
ต้าหย่งที่รับหน้าที่คุ้มครองอยู่ด้านนอกรีบทรงตัวแล้วมองหาราชรถของฉินเหยียนทันที เมื่อเห็นราชรถของเขากำลังพุ่งไปยังที่นาก็ร้อนใจอย่างยิ่ง และตะโกนสุดเสียงว่า
“แย่แล้ว คุ้มครองท่านอ๋องเร็วเข้า!”
เมื่อสิ้นเสียงแล้วเขาก็รีบพุ่งตัวไปที่รถทันที นาทีนี้เขาใช้ความเร็วสูงสุด เพียงพริบตาก็ได้มาถึงหน้ารถของฉินเหยียนแล้ว เขายื่นแขนไปโอบท้ายรถแล้วใช้แรงทั้งหมด เพื่อที่จะหยุดรถ
เข่าทั้งสองข้างของเขางอมากขึ้น อีกนิดก็แทบจะคุกเข่าลงแล้ว
แต่ต้าหย่งก็ยังพยายามยืนหยัดต่อไป เขารีบตะโกนสุดเสียงว่า “ใครก็ได้ รีบพาตัวท่านอ๋องออกมาที!”
เวลาที่เขาถ่วงเอาไว้ได้นั้น ในที่สุดเหล่าทหารก็ได้สติแล้วแบ่งหน้าที่กัน มีคนช่วยพยุงรถ บางคนก็ช่วยพาตัวอ๋องเหยียนออกมา
ผ่านไปนาน สุดท้ายฉินเหยียนที่ตัวเปื้อนโคลนก็ออกมาได้เสียที
“ท่านอ๋องไม่เป็นไรนะเพคะ?”
จ้าวจือหย่าหน้าซีด นางรีบสำรวจรอบตัวฉินเหยียนอย่างร้อนใจ หน้าผากของนางมีเหงื่อมากมาย ใบหน้าที่งดงามเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ฉินเหยียนจับศีรษะที่นูนเป็นซาลาเปา แล้วสูดลมหายใจเข้าเบาๆด้วยความตกใจ แต่มันก็แค่แผลนอกกาย ไม่กี่วันก็หายแล้ว อีกอย่างเขาก็ไม่ได้บอบบางอะไรขนาดนั้น
“ข้าไม่เป็นไร” ฉินเหยียนส่ายหน้าแล้วมองไปยังต้าหย่งที่นั่งกองอยู่กับพื้น จากนั้นก็พูดอย่างซึ้งใจว่า
“เป็นเพราะมีเจ้า ต้าหย่ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชายผู้ทรงเสน่ห์
คนเขียนเก่งจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกหงุดหงิดกับการตามหาลูกสาวของฉินเหยียน และจังหวะคาดที่จะได้เจอกันของเฝิงตู่กับฉินเหยียนจริงๆ ถ้าจะหากันจริงๆก็น่าจะทำง่ายป่ะ ประกาศหรือแจ้งข่าวไปว่าฮ๋องเหยียนต้องการพบปะเฝิ่งตู่นัดให้ไปเจอสักที่ตัวเองมีเครือข่ายทั่วอาณาจักรยังไงข่าวก็ต้องถึงหูอยู่แล้ว บัดเรื่องแบบนี้ไม่ฉลาดเอาเลยพระเอกฉัน...
จบแล้วเหรอคะ ..จบแบบงงๆ...
จะมีต่อ..หรือจบแล้วครับ...
มีต่อมั๊ยครับ สนุกมากขอบคุณครับ...
รออ่านอยูนะครับสนุกมาก...
รออ่านดูนะครับ..เมตตาลงต่อเร็วหน่อยนะคะรับ รอแบบไม่มีกวังเลยครับตอนนี้ เงียบหลายวันมากๆ ขอความเมตตาช่วยลงให้อ่านด้วยครับ...
รอตอนที่ 631 อยู่นร้า...
รอตอนต่อไป…กำลังสนุก...
สนุกมากครับขอบคุณที่ลงให้อ่านนะครับของคุณครับ...
มาแล้ว630...